วันนี้ (27 พฤศจิกายน) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในพื้นที่จังหวัดภาคใต้มีฝนตกลงมาอย่างหนักในพื้นที่ตั้งแต่ช่วงเช้าของวันที่ 26 พฤศจิกายนที่ผ่านมา และตลอดคืนที่ผ่านมา ส่งผลให้เช้าวันนี้หลายพื้นที่น้ำท่วมหนัก น้ำท่วมรางรถไฟในหลายสถานีที่มุ่งสู่สุไหงโก-ลก แต่รถไฟยังคงให้บริการตามปกติ
กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เผยมีสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ 6 จังหวัด ได้แก่ สุราษฎร์ธานี, นครศรีธรรมราช, สงขลา, ปัตตานี, ยะลา และนราธิวาส รวม 16 อำเภอ 77 ตำบล 277 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 11,557 ครัวเรือน
เนื่องจากความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังปานกลางถึงค่อนข้างแรงระลอกใหม่จากประเทศจีนจะแผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบนและทะเลจีนใต้ ประกอบกับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้จะมีกำลังแรงขึ้น ทำให้ภาคใต้ตอนล่างมีฝนตกหนัก ทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก
ยะลาถนนทรุด เตือนประชาชนยกของขึ้นที่สูง
สถานการณ์อุทกภัยในจังหวัดยะลาพบว่าพื้นที่เขตเทศบาลนครยะลาน้ำท่วมหนัก ขณะที่ในอำเภอเบตงพบว่าดินสไลด์ปิดเส้นทาง ดินถนนทรุดในเส้นทางสายบาแตตูแง-สาลัง ทำให้ไม่สามารถสัญจรได้
เขตเทศบาลนครยะลาประกาศเตือนขอให้พี่น้องประชาชนที่เคยประสบภัยน้ำท่วมครั้งใหญ่เมื่อปี 2530-2531 ทุกพื้นที่ในเขตเทศบาลนครยะลาโปรดยกของขึ้นที่สูง เพื่อลดความสูญเสียต่อชีวิตและทรัพย์สิน
สงขลาเฝ้าระวังใกล้ชิด-พัทลุงพบผู้เสียชีวิต
ขณะที่สถานการณ์อุทกภัยในอำเภอสะเดา จังหวัดสงขลา ยังคงต้องเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด เนื่องจากฝนตกต่อเนื่องทำให้ระดับน้ำในลำคลองหลายพื้นที่เพิ่มสูงขึ้น
โชตินรินทร์ เกิดสม ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา สั่งการให้ วิเชษต์ สายกี้เส้ง นายอำเภอสะเดา และ อภิรักษ์ ทิมมณี ปลัดอำเภอหัวหน้ากลุ่มงานความมั่นคง ลงพื้นที่สำรวจจุดเสี่ยง เช่น บ้านน้ำลัด หมู่ที่ 2 ตำบลสำนักแต้ว, หมู่ที่ 1 ตำบลปริก, ตำบลท่าโพธิ์ รวมถึงหลายหมู่บ้านในตำบลทุ่งหมอ พร้อมดำเนินการช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ต้นน้ำอย่างเร่งด่วน
ด้านจังหวัดพัทลุงวานนี้พบผู้เสียชีวิตรายแรกหญิงวัย 49 ปี พลัดตกลงไปในคลองพร้อมหลานชาย โดยสามารถช่วยหลานชายขึ้นมาได้ แต่หญิงคนดังกล่าวยังหายสาบสูญ
นราธิวาสกระทบแล้ว 5 อำเภอ
ส่วนสถานการณ์อุทกภัยในจังหวัดนราธิวาสมีฝนตกหนักตลอดทั้งคืนที่ผ่านมาในพื้นที่อำเภอบาเจาะ, แว้ง, รือเสาะ, เจาะไอร้อง และสุคิริน ได้รับผลกระทบมีน้ำท่วมและน้ำล้นตลิ่งจากฝนที่ตกลงมาอย่างหนัก โดยเฉพาะในเขตเทศบาลเมืองนราธิวาสมีพื้นที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์น้ำแล้วทั้งสิ้น 5 อำเภอ 22 ตำบล 82 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 1,409 ครัวเรือน 4,595 คน
ล่าสุดเมื่อคืนที่ผ่านมาน้ำล้นตลิ่งเข้าท่วมในเขตเทศบาลเมืองนราธิวาส น้ำท่วมขังย่านการค้า ร้านค้าต่างๆ ได้รับความเสียหาย และรถยนต์ไม่สามารถผ่านได้
ขณะที่โครงการชลประทานนราธิวาสออกประกาศแจ้งเตือนระดับน้ำล้นตลิ่งในพื้นที่ลุ่มน้ำสายบุรีและลุ่มน้ำโก-ลก ให้ประชาชนที่อาศัยบริเวณริมแม่น้ำสายบุรี ชุมชนบ้านท่าเรือ ตำบลบาตง, ชุมชนบ้านนาโอน ตำบลรือเสาะออก อำเภอรือเสาะ, ชุมชนบ้านซากอ บ้านตะโล๊ะ (ตือโล๊ะ) ตำบลศรีสาคร, ชุมชนบ้านจือแรง ตำบลตะมะยูง, บริเวณริมแม่น้ำโก-ลก อำเภอสุไหงปาดี อำเภอแว้ง และอำเภอสุไหงโก-ลก ในเขตเทศบาลเมืองสุไหงโก-ลก, ตลาดนัดมูโนะ ตำบลมูโนะ และอำเภอตากใบ พร้อมรับสถานการณ์น้ำล้นตลิ่ง ทั้งนี้ ขอให้ขนย้ายทรัพย์สิน สิ่งของ และสัตว์เลี้ยง ขึ้นไปยังพื้นที่ปลอดภัย และให้ติดตามสถานการณ์น้ำจากทางราชการอย่างใกล้ชิด
ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาสออกประกาศเตรียมความพร้อมรับสถานการณ์น้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก น้ำท่วมขัง และดินถล่ม ระหว่างวันที่ 27 พฤศจิกายน – 4 ธันวาคม 2567 พร้อมสั่งการให้ทุกหน่วยงานเข้าสำรวจความเสียหายและเร่งให้การช่วยเหลือประชาชนโดยทันที และติดตั้งเสริมเครื่องสูบน้ำเพื่อเร่งระบายน้ำออกจากพื้นที่ ทั้งนี้ ปัจจุบันระดับน้ำเพิ่มขึ้นจากฝนที่ยังตกลงมาอย่างต่อเนื่อง
ภาพ: สำนักประชาสัมพันธ์เขต 6 กรมประชาสัมพันธ์