วันนี้ (24 พฤศจิกายน) ศศิกานต์ วัฒนะจันทร์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลมีนโยบายเกี่ยวกับการลดภาระค่าไฟฟ้าให้กับประชาชน โดยกระทรวงพลังงานภายใต้การนำของ พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ได้ขับเคลื่อนนโยบายเดินหน้าปรับปรุงกฎหมายเกี่ยวกับการติดตั้งระบบผลิตพลังงานไฟฟ้าจากแสงอาทิตย์หรือโซลาร์รูฟให้สะดวกรวดเร็วขึ้น และจัดหาอุปกรณ์สำหรับผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ให้แก่ประชาชนในราคาถูก
รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีระบุว่า ที่ผ่านมากระทรวงพลังงานพยายามตรึงค่าไฟไว้ที่ระดับ 4.18 บาท แต่ปัญหาค่าไฟยังเป็นภาระของพี่น้องประชาชนอยู่ จึงจำเป็นต้องแก้ปัญหาอย่างยั่งยืน คือการปรับปรุงกฎหมายและการจัดหาอุปกรณ์ระบบโซลาร์ราคาถูก ซึ่งเป็นการลงทุนเพียงครั้งเดียวแต่สามารถประหยัดค่าไฟของประชาชนได้
ขณะนี้คณะทำงานของกระทรวงพลังงาน ภายใต้การนำของของพีระพันธุ์ ได้ผลิตต้นแบบของเครื่องอินเวอร์เตอร์ (Inverter) ซึ่งเป็นอุปกรณ์หลักของการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์สำเร็จแล้ว และกำลังอยู่ระหว่างการตรวจสอบคุณภาพ ความเสถียร และความปลอดภัยตามมาตรฐานสากล ตั้งเป้าหมายว่าจะสามารถผลิตอุปกรณ์ดังกล่าวครบชุดเพื่อจำหน่ายให้กับพี่น้องประชาชนได้ในปี 2568
“อุปกรณ์ต้นแบบเครื่องอินเวอร์เตอร์สามารถผลิตเพื่อจำหน่ายในราคาต่ำกว่าท้องตลาด เป็นนวัตกรรมและสิ่งประดิษฐ์ที่สร้างขึ้นเพื่อลดภาระค่าใช้จ่ายด้านพลังงานของประชาชน รัฐบาลโดยกระทรวงพลังงาน ภายใต้การนำของพีระพันธุ์ มีนโยบายส่งเสริมการใช้พลังงานจากแสงอาทิตย์ และมีแผนที่จะจำหน่ายผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับระบบไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ให้กับประชาชนในราคาถูก เพื่อช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายจากปัญหาค่าไฟแพง” ศศิกานต์กล่าว