วันนี้ (12 พฤศจิกายน) เวลา 15.00 น. ชัยมงคล ไชยรบ สส. สกลนคร พรรค พลังประชารัฐ และ พล.ต.ท. ปิยะ ต๊ะวิชัย โฆษกพรรคพลังประชารัฐ แถลงข่าวภายหลังการประชุมคณะกรรมการบริหารพรรค ที่มี พล.อ. ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรค เป็นประธาน มีมติพรรคให้ยื่นหนังสือเปิดผนึกไปถึงนายกรัฐมนตรี เพื่อให้ดำเนินการยกเลิกการจัดทำบันทึกความเข้าใจระหว่างรัฐบาลไทยกับกัมพูชาว่าด้วยพื้นที่ที่ไทยและกัมพูชาอ้างสิทธิในไหล่ทวีปทับซ้อนกัน หรือ MOU 2544
เนื่องจากพรรคพลังประชารัฐศึกษาผลกระทบแล้วพบว่า แผนที่แนบ MOU 2544 ปรากฏเส้นเขตแดนของประเทศกัมพูชาที่ไม่สอดคล้องกับกฎหมายสากล และรวมเอาน่านน้ำภายในของจังหวัดตราด ทะเลอาณาเขตของเกาะกูดด้านทิศใต้ รวมถึงเขตเศรษฐกิจจำเพาะกลางอ่าวไทย เข้าเป็นพื้นที่ ฝ่ายกัมพูชานำมาใช้เป็นกรอบการเจรจา ซึ่งการยอมรับเส้นเขตแดนของฝ่ายกัมพูชาที่กล่าวอ้างโดยไม่เป็นไปตามหลักกฎหมายสากล จึงมีความสุ่มเสี่ยงที่จะทำให้ประเทศไทยเสียอธิปไตยทางทะเลบริเวณเกาะกูด
ดังนั้นด้วยเจตนารมณ์ของหัวหน้าพรรคพรรคพลังประชารัฐ พล.อ. ประวิตร และสมาชิกพรรคพลังประชารัฐ จึงขอเรียกร้องต่อนายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรี ดังนี้
- ให้นายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรีดำเนินการตามกฎหมายเพื่อยกเลิก MOU 2544 อย่างเร่งด่วน
- ให้นายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรีดำเนินการแก้ปัญหาเขตอธิปไตยทางทะเลบริเวณเกาะกูด ต้องยึดตามกฎหมายทะเลที่เป็นสากล และดำเนินการเจรจาเฉพาะเรื่องเขตแดนทางทะเลให้เสร็จสิ้นก่อน โดยต้องให้ความสำคัญกับการปกป้องเขตแดนทางทะเลและอำนาจอธิปไตยของชาติยิ่งไปกว่าผลประโยชน์อื่นใด โดยจะต้องรักษาทรัพยากรของชาติไว้ให้ลูกหลานสืบไป
- ขอให้สั่งการให้บุคคลและหน่วยงานรัฐหยุดกระทำการใดๆ อันจะก่อให้เกิดข้อผูกพันตามกฎหมาย อันจะนำมาซึ่งการเสียดินแดนอธิปไตยทางทะเลและผลประโยชน์ในทรัพยากรของชาติและของประชาชน
- ขอให้ระลึกถึงบทบัญญัติตามรัฐธรรมนูญมาตรา 161 ที่ได้ถวายสัตย์ปฏิญาณไว้ว่า “จะจงรักภักดีต่อพระมหากษัตริย์ จะปฏิบัติหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์สุจริต เพื่อประโยชน์ของประเทศและของประชาชน และปฏิบัติตามซึ่งรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยทุกประการ”
ชัยมงคลกล่าวต่อว่า พรรคพลังประชารัฐจะดำเนินการยื่นจดหมายเปิดผนึกฉบับดังกล่าวให้กับนายกรัฐมนตรีภายในสัปดาห์หน้า เพื่อตอกย้ำให้เห็นจุดยืนของพรรคในการที่จะปกป้องอธิปไตยของชาติ และไม่ยอมให้ผู้หนึ่งผู้ใดหรือกลุ่มใดมาแสวงหาผลประโยชน์ในเรื่องของทรัพยากรธรรมชาติหรืออาณาเขต และจดหมายฉบับนี้หวังว่าจะช่วยคืนความทรงจำและยับยั้งให้นายกรัฐมนตรีได้ฉุกคิดในการที่จะเจรจาผลประโยชน์ปิโตรเลียมในกรอบ MOU 2544
ขณะที่ พล.ต.ท. ปิยะ กล่าวว่า พล.อ. ประวิตร ยืนยันชัดเจนว่าจะรักษาผืนแผ่นดินไทยทุกตารางนิ้วไว้ด้วยชีวิต และจะไม่ยอมให้ผู้หนึ่งผู้ใดนำอาณาเขตหรือพื้นที่ของประเทศไทย ไม่ว่าจะเป็นทางบก ทางน้ำ หรือทางอากาศ ไปใช้ประโยชน์ เพื่อเอื้อผลประโยชน์ต่อครอบครัวหนึ่งครอบครัวใดเท่านั้น