×

จีนเปิดตัวเครื่องบินรบล่องหน J-35A เพิ่มทางเลือกในตลาดโลก และเครื่องมือทางการทูตใหม่ของจีน

12.11.2024
  • LOADING...
จีน J-35A

ถ้าเราอยากซื้อรถสักคันน่าจะคุ้นเคยกันดีกับการไปเดินงานแสดงยานยนต์อย่าง Motor Show หรือ Motor Expo กันทุกปี ซึ่งงานแบบนี้จะรวมผู้ผลิตรถยนต์มาในงานเดียว พร้อมทั้งข้อเสนอพิเศษ รวมถึงการเปิดตัวรถใหม่ๆ ในงาน

 

และแน่นอนว่าถ้ากองทัพไหนอยากซื้ออาวุธหรือเครื่องบินรบก็มีงานแบบนี้เช่นกัน เรียกว่างาน Airshow หรือ Defense Show นั่นเอง ซึ่งในโลกนี้มีงานแบบนี้หลายที่ ไม่ว่าจะเป็น Paris Air Show หรือ Eurosatory ที่ฝรั่งเศส หรือ Farnborough International Airshow ในสหราชอาณาจักร ในเอเชียมีงานใหญ่ 2 ที่คือ Dubai Airshow ที่สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และ Singapore Airshow ที่สิงคโปร์ ในงานเหล่านี้จะมีผู้ผลิตเครื่องบินและอาวุธมาตั้งบูธจัดแสดงเทคโนโลยีของตน รวมถึงนำอาวุธและเครื่องบินมาสาธิตให้ได้ชมกัน

 

ในสัปดาห์นี้มีงานใหญ่งานหนึ่งที่จัดคือ Zhuhai Airshow หรือ China International Aviation & Aerospace Exhibition เป็นหนึ่งในงานแสดงการบินที่ยิ่งใหญ่และสำคัญที่สุดที่จัดขึ้นเป็นประจำทุก 2 ปีในเมืองจูไห่ มณฑลกวางตุ้ง ประเทศจีน

 

งานนี้มีความสำคัญตรงที่เป็นงาน Airshow หลักของจีน ซึ่งมักจะใช้งานนี้เปิดตัวเครื่องบินและอาวุธใหม่ๆ ที่จะออกสู่ตลาดโลก และปีนี้จีนนำอาวุธและเครื่องบินรบหลายแบบมาแสดงต่อสายตาชาวโลกเป็นครั้งแรก ไม่ว่าจะเป็นระบบป้องกันภัยทางอากาศ HQ-19 ซึ่งมีขีดความสามารถในการสกัดขีปนาวุธข้ามทวีปได้ในชั้นบรรยากาศโลกแบบเดียวกับ THAAD ของสหรัฐอเมริกา, FH-97A โดรนที่ทำงานร่วมกับนักบินบนเครื่องบินขับไล่ และควบคุมได้โดยนักบินขับไล่ให้ทำภารกิจต่างๆ ได้พร้อมๆ กันในลักษณะของ Loyal Wingman หรือเครื่องบินรบอย่าง J-20S เครื่องบินขับไล่ Stealth รุ่นแรกของโลกที่เป็นแบบ 2 ที่นั่ง นอกจากนี้ ยังมี J-15T เครื่องบินขับไล่รุ่นใหม่สำหรับปฏิบัติงานบนเรือบรรทุกเครื่องบิน และไฮไลต์ที่คนจับตามากที่สุดคือ J-35A เครื่องบินขับไล่ Stealth ที่พัฒนามาเป็นรุ่นล่าสุด

 

เครื่องบิน Stealth หรือที่มักจะเรียกกันว่าเครื่องบินขับไล่ล่องหน หรือในภาษาอย่างเป็นทางการคือเครื่องบินขับไล่ที่มีคุณสมบัติตรวจจับได้ยากนั้น เป็นเทคโนโลยีขั้นสูงซึ่งประเทศมหาอำนาจกำลังแข่งขันกันพัฒนาออกมา คำว่าล่องหนหรือ Stealth ในที่นี้ไม่ใช่การล่องหนจากสายตา เพราะถ้าเครื่องบินบินผ่านหน้าเราก็ยังเห็นและได้ยินเสียงอยู่ดี แต่การล่องหนในที่นี้คือการล่องหนจากเรดาร์ของข้าศึก ซึ่งเครื่องบินจะออกแบบด้วยคุณสมบัติที่ดูดซับหรือสะท้อนคลื่นเรดาร์ไม่ให้กลับไปหาแหล่งกำเนิด ทำให้เรดาร์ตรวจจับยากหรือตรวจจับไม่ได้ ตามมาด้วยการที่เครื่องบินเหล่านี้สามารถบินเข้าไปปฏิบัติภารกิจโดยที่ข้าศึกไม่รู้ตัว

 

ในปัจจุบันสหรัฐฯ เป็นผู้นำในการพัฒนาเครื่องบินขับไล่ Stealth โดยนอกจากจะเป็นประเทศแรกที่พัฒนาเครื่องบิน Stealth คือ F-117 แล้ว ยังมีเครื่องบินขับไล่ที่น่าจะเรียกว่าดีที่สุดในโลกอย่าง F-22 รวมถึงเครื่องบินขับไล่ F-35 ที่สหรัฐฯ ส่งออกให้กับประเทศที่ใกล้ชิด และเป็นเครื่องบิน Stealth แบบเดียวที่ประเทศผู้ผลิตอนุญาตให้ส่งออกไปยังต่างประเทศได้ นอกจากนั้น ยังมีเครื่องบินทิ้งระเบิด B-2 และ B-21 อีกด้วย

 

ทำให้จีนและรัสเซียก็ต้องพัฒนาขีดความสามารถนี้เช่นกัน โดยจีนเปิดตัวเครื่องบินขับไล่ Stealth รุ่นแรกคือ J-20 เมื่อหลายปีก่อน ก่อนที่จะเปิดตัว J-35A เป็นรุ่นล่าสุดในปีนี้ ส่วนรัสเซียนำ Su-57E เครื่องบิน Stealth รุ่นส่งออกของตัวเองมาจัดแสดง เพื่อส่งสัญญาณว่าแม้รัสเซียจะยังติดพันสงครามในยูเครน แต่ก็พร้อมจะมีบทบาทในตลาดอาวุธของโลกเช่นเดิม

 

หลายคนที่เห็น J-35A ครั้งแรกน่าจะรู้สึกว่าหน้าตาและการออกแบบคล้ายกับ F-35 ของสหรัฐฯ ค่อนข้างมาก ทั้งลำตัวส่วนหน้า ท่อรับอากาศเข้าเครื่องยนต์ ปีก หรือแพนหางดิ่ง ที่มองไกลๆ อาจจะเข้าใจผิดว่าเป็น F-35 ได้ แต่จุดที่แตกต่างกันก็เช่นเครื่องยนต์ซึ่ง F-35 มีเครื่องยนต์เดียว แต่ J-35A มี 2 เครื่องยนต์

 

จีนพัฒนา J-35A มามากกว่า 10 ปี โดยต้นแบบมีรหัสว่า FC-31 ซึ่งเป็นเครื่องบินที่ผู้ผลิตคือ Shenyang Aircraft Corporation รัฐวิสาหกิจของจีนเป็นผู้ริเริ่มพัฒนา ก่อนที่กองทัพจีนจะสนใจจนพัฒนามาเป็นรุ่น J-35 ใช้งานทางทะเลและบนเรือบรรทุกเครื่องบิน และ J-35A ที่เป็นรุ่นใช้งานบนบกในปัจจุบันนี้

 

เรายังไม่รู้ขีดความสามารถของ J-35A มากนัก จากข้อมูลที่พอจะทราบนั้น J-35A จะใช้เครื่องยนต์รุ่นใหม่ล่าสุดของจีนคือ Guizhou WS-13E ที่ออกแบบมาเพื่อลดรังสีอินฟราเรดที่แผ่ออกมา, เรดาร์ KLJ-7A เรดาร์รุ่นใหม่ที่ทันสมัยของจีน หรือระบบแจ้งเตือนและระบบอิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ ที่คาดว่าจะเป็นรุ่นใหม่ล่าสุดเช่นกัน นอกจากนั้น ยังคาดว่าจีนจะใช้เทคนิคการเคลือบสารดูดซับคลื่นเรดาร์บนพื้นผิวของ J-35A เพื่อลดการสะท้อนคลื่นเรดาร์ที่จะทำให้เครื่องบินของข้าศึกตรวจจับได้ยากขึ้นไปอีก

 

แต่แน่นอนว่าเทคโนโลยีเหล่านี้ไม่ใช่เทคโนโลยีใหม่ เพราะเป็นเทคโนโลยีที่ฝ่ายตะวันตกอย่างสหรัฐฯ ใช้งานมานานแล้ว แม้ความสำเร็จของ J-35A จะเป็นเครื่องยืนยันว่าจีนพัฒนาเทคโนโลยีทางทหารก้าวหน้าจนเข้าใกล้ประเทศตะวันตกมากขึ้นเรื่อยๆ แต่ยังถือว่าอยู่ในฐานะผู้ไล่ตามมากกว่าผู้นำ เพราะประเทศตะวันตกก็ยังไม่หยุดการพัฒนา โดยเฉพาะเครื่องบินขับไล่แบบใหม่ที่จะมาแทน F-22 และ F-35 อย่าง NGAD ที่อยู่ระหว่างการออกแบบ แต่ไม่ได้หมายความว่าจีนจะไม่สามารถไล่กวดทันได้ เพราะด้วยพลังอำนาจทางเศรษฐกิจและความพร้อม ทั้งทรัพยากร นโยบายของประเทศ รวมถึงการสนับสนุนของกองทัพ ทำให้จีนมีทุกอย่างที่จำเป็นต้องมีในการก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำทางทหารทัดเทียมกับสหรัฐฯ ในอนาคต

 

จีนยังสามารถใช้อาวุธที่ทันสมัยอย่าง J-35A เป็นเครื่องมือทางการทูตในการสร้างอิทธิพลของตัวเอง เนื่องจากเครื่องบิน Stealth มีเทคโนโลยีสูง ประเทศที่ผู้ผลิตยินดีขายให้ต้องเป็นประเทศที่ไว้ใจได้มาก ซึ่งที่ผ่านมาประเทศตะวันตกโดยเฉพาะสหรัฐฯ ต่างใช้การขายอาวุธเป็นเครื่องมือในการส่งออกแนวคิด ทั้งทางด้านการปกครองแบบประชาธิปไตย ทุนนิยม ตลาดเสรี สิทธิมนุษยชน และระเบียบโลก ที่เราคุ้นเคยในปัจจุบัน ทำให้มีหลายประเทศที่ไม่มีโอกาสเข้าถึงเทคโนโลยีเหล่านี้ ซึ่งเป็นช่องว่างให้จีนสามารถเข้ามาแทนที่ด้วยการทำทุกอย่างตรงข้ามกับตะวันตกด้วยแนวคิดที่ว่า ขอให้เพียงแค่คุณมีเงินและยินดีเปิดตลาดทำมาค้าขายกับจีน จีนก็ยินดีจะเป็นเพื่อนกับคุณ

 

ในภาพรวมแล้วจะเห็นว่าความสำเร็จของจีนแสดงให้เห็นว่าจากประเทศที่ไม่มีเทคโนโลยีเป็นของตัวเอง ถ้ามียุทธศาสตร์ที่ชัดเจนและทุกฝ่ายพร้อมใจทำตามยุทธศาสตร์นั้น ทั้งรัฐบาลที่พร้อมลงทุนระยะยาว ผู้ผลิตที่ตั้งใจจริง และกองทัพที่มุ่งมั่นสนับสนุนเทคโนโลยีในประเทศ สามารถทำให้จีนพัฒนาจากประเทศที่ลอกเลียนแบบเทคโนโลยีต่างชาติอย่างเดียวกลายมาเป็นประเทศที่เป็นเจ้าของเทคโนโลยีทางทหารที่ทันสมัยของตัวเอง และจีนก็พร้อมจะใช้ขีดความสามารถนี้เป็นเครื่องมือเพื่อสร้างอิทธิพลในฐานะมหาอำนาจใหม่และท้าทายมหาอำนาจเดิมอย่างสหรัฐฯ ต่อไป

 

ภาพ: Chen Jimin / China News Service / VCG via Getty Images

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising
X
Close Advertising