วันนี้ (26 ตุลาคม) ที่ทำเนียบรัฐบาล ภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เรียกประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อติดตามความคืบหน้าคดีดิไอคอนกรุ๊ปเป็นการภายใน โดยไม่ได้แจ้งกำหนดการให้สื่อมวลชนรับทราบ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตั้งแต่เวลา 09.00 น. หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับคดีดิไอคอนกรุ๊ปทยอยเดินทางขึ้นตึกบัญชาการ 1 ทำเนียบรัฐบาล โดยมี พล.ต.อ. กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.), พล.ต.ท. อัคราเดช พิมลศรี ผู้ช่วย ผบ.ตร. ในฐานะหัวหน้าชุดทำคดีบริษัท ดิไอคอนกรุ๊ป จำกัด, พล.ต.ท. จิรภพ ภูริเดช ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (ผบช.ก.), พ.ต.ต. ยุทธนา แพรดำ รักษาราชการแทนอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI), ฉัตรชัย พรหมเลิศ ประธานกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.), เทพสุ บวรโชติดารา เลขาธิการ ปปง., พล.ต.ต. วิทยา ศรีประเสริฐภาพ ผู้บังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค (ผบก.ปคบ.) และสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.)
ภูมิธรรมกล่าวว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่ ตนเป็นห่วงการจัดการและความร่วมมือของทุกหน่วยว่าร่วมมือประสานงานกันหรือไม่ จึงเรียกมาเพื่อติดตามความคืบหน้าคดี เนื่องจากเป็นคดีใหญ่ และเป็นคดีที่ส่งผลกระทบต่อพี่น้องประชาชนเป็นอย่างมาก เมื่อผ่านพ้นมาระยะหนึ่งแล้วจึงเรียกมาเพื่อติดตาม และจะนำเรียนนายกรัฐมนตรีในวันที่ 29 ตุลาคมนี้
ตำรวจเตรียมส่งสำนวนคดีให้ DSI 28 ตุลาคมนี้
ภายหลังการประชุม ภูมิธรรมพร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมกันแถลงผลการประชุมติดตามความคืบหน้าคดีดิไอคอนกรุ๊ปว่า ทั้งสำนักงานตำรวจแห่งชาติ, DSI และ ปปง. ถือเป็นเครื่องมือของรัฐบาลในการอำนวยความยุติธรรมให้เกิดขึ้นในคดีที่ส่งผลกระทบต่อประชาชน ซึ่งได้รับรายงานจากตำรวจว่า ขณะนี้ทำหน้าที่อย่างเต็มที่จากการรับเรื่องราวร้องทุกข์ทั้งจากส่วนกลางและต่างจังหวัด และผลการสืบสวนเข้าเงื่อนไขที่จะส่งมอบให้ DSI เพื่อให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นตามกระบวนการทางกฎหมาย และการสอบสวนขณะนี้สำนวนใกล้เสร็จหมดแล้ว โดยตำรวจจะส่งสำนวนคดีให้กับ DSI ในวันจันทร์ที่ 28 ตุลาคมนี้ ขณะที่ ปปง. จะช่วยรักษาทรัพย์
ภูมิธรรมยืนยันว่า ทั้ง 3 หน่วยงานจะยังร่วมมือกันทำงาน แม้จะเปลี่ยนมือไปที่ DSI แล้ว เพราะเป็นคดีพิเศษที่เกี่ยวข้องกับความเสียหาย 300 ล้านบาทขึ้นไป และมีผู้เสียหายกว่า 100 คน หากติดขัดอะไรฝ่ายการเมืองก็พร้อมเข้าไปสนับสนุน
ส่วนการทำงานของ สคบ. เนื่องจาก สคบ. ถูกกล่าวหาว่ามีบุคคลเกี่ยวข้องในคดีจึงไม่ได้ให้เข้ามาเป็นคณะทำงานเรื่องการสอบสวน แต่จะสนับสนุนให้การสอบสวนเกิดความยุติธรรม ยืนยันว่าจะทำคดีให้เร็วที่สุด เชื่อว่ากระบวนการจะไม่มีอะไรสะดุด ถ้ายังมีส่วนใดที่เกี่ยวข้องจะไม่นิ่งนอนใจ โดยจะสามารถปิดคดีได้ ซึ่งประชาชนจะได้รับประโยชน์