×

เปิดพื้นที่เสี่ยงภัยสูงสุดด้านสภาพภูมิอากาศ จีน สหรัฐฯ อินเดีย ติด Top 50 มากที่สุด

21.02.2023
  • LOADING...

องค์กร The Cross Dependency Initiative (XDI) ซึ่งเป็นการรวมตัวกันของกลุ่มผู้เชี่ยวชาญอิสระด้านการวิเคราะห์สภาพภูมิอากาศทางกายภาพและการปรับตัว ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2006 และประสานความร่วมมือกับบรรดาธนาคาร รวมถึงองค์กรชั้นนำในประเทศต่างๆ ได้สำรวจและประเมินพื้นที่ต่างๆ กว่า 2,600 แห่งทั่วโลก โดยใช้แบบจำลองสภาพภูมิอากาศร่วมกับข้อมูลด้านสภาพอากาศและสิ่งแวดล้อม เพื่อประเมินความเสียหายทางเศรษฐกิจที่อาจจะเกิดขึ้นจากวิกฤตด้านสภาพอากาศ รวมถึงปัญหาน้ำท่วม ปัญหาไฟป่า และปัญหาระดับน้ำทะเลเพิ่มสูงขึ้น ตั้งแต่ปี 1990 จนถึงปี 2050

 

โดยหลายพื้นที่ของจีนนับเป็นพื้นที่เฝ้าระวังที่มีความเสี่ยงสูงมากที่สุด โดยเฉพาะมณฑลเจียงซูของจีนที่ได้รับการจัดอันดับให้เป็นอันดับ 1 ของพื้นที่เสี่ยงภัยที่คาดว่าจะได้รับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศมากที่สุดภายในปี 2050 จากรายงานฉบับล่าสุดของ XDI ตามมาด้วยพื้นที่ใกล้เคียงอย่างมณฑลซานตง รวมถึงมณฑลเหอเป่ยและมณฑลเหอหนาน ที่อยู่อันดับที่ 2-4 ตามลำดับ

 

โดย 9 ใน 10 อันดับแรกล้วนเป็นพื้นที่ที่อยู่ในประเทศจีน ขณะที่อันดับ 10 คือรัฐฟลอริดา สหรัฐอเมริกา ที่ได้รับการจัดให้เป็นพื้นที่นอกประเทศจีนที่มีโอกาสเสี่ยงภัยจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศสูงที่สุด ตามมาด้วยรัฐแคลิฟอร์เนีย อันดับที่ 19, รัฐเท็กซัส อันดับที่ 20 และรัฐนิวยอร์ก อันดับที่ 46

 

นอกจากพื้นที่ในประเทศจีนที่ติดอันดับ Top 50 เกินกว่า 25 เมืองหรือมณฑล รวมถึงอีกหลายเมืองในสหรัฐอเมริกาแล้ว หลายพื้นที่ในอินเดียก็ติดอันดับ Top 50 พื้นที่เสี่ยงภัยตามรายงานล่าสุดของ XDI ด้วยเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นรัฐพิหาร รัฐอุตตรประเทศ รัฐอัสสัม รัฐราชสถาน รัฐทมิฬนาฑู รัฐมหาราษฏระ รัฐคุชราต รัฐปัญจาบ และรัฐเกรละ ที่ต่างเผชิญกับปัญหาน้ำท่วมและภาวะดินโคลนถล่มอยู่บ่อยครั้ง ทำให้เมืองในจีน สหรัฐอเมริกา และอินเดีย รวมคิดเป็น 80% ของเมืองที่ได้รับการจัดอันดับให้อยู่ใน Top 50 พื้นที่เสี่ยงภัยในครั้งนี้

 

ขณะที่โลเวอร์แซกโซนีในเยอรมนีและเวเนโตในอิตาลี ก็ได้รับการจัดอันดับให้อยู่ใน Top 100 และเป็นพื้นที่ที่มีความเสี่ยงสูงเป็นอันดับต้นๆ ในทวีปยุโรป รวมถึงบัวโนสไอเรส อาร์เจนตินา, เซาเปาโล บราซิล, จาการ์ตา อินโดนีเซีย, ปักกิ่ง จีน, โฮจิมินห์ซิตี้ เวียดนาม รวมถึงไต้หวัน ต่างก็ได้รับการจัดอันดับให้อยู่ใน Top 100 พื้นที่เสี่ยงภัยที่คาดว่าจะได้รับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศมากที่สุดภายในปี 2050 ด้วยกันทั้งสิ้น

 

โดย XDI คาดการณ์ว่า มูลค่าต้นทุนและความเสียหายที่จะได้รับจากวิกฤตการเปลี่ยนแปลงด้านสภาพภูมิอากาศมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นอีกในอนาคต ตัวอย่างเช่น วิกฤตน้ำท่วมครั้งใหญ่ในมณฑลกวางตุ้ง เมื่อช่วงกลางปี 2022 ที่ผ่านมา สร้างความเสียหายทางเศรษฐกิจสูงถึง 7.5 พันล้านหยวน (ราว 3.77 หมื่นล้านบาท) ขณะที่เฮอริเคนเอียนที่พัดถล่มรัฐฟลอริดาช่วงเดือนกันยายนปีที่ผ่านมา ก็สร้างมูลค่าความเสียหายสูงถึงประมาณ 6.7 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 2.3 ล้านล้านบาท)

 

XDI ยังคาดการณ์อีกว่า ด้วยวิกฤตด้านสภาพอากาศที่มีแนวโน้มรุนแรงมากยิ่งขึ้นและเกิดบ่อยครั้งขึ้น อาจมีส่วนทำให้เมืองกว่างโจวในมณฑลกวางตุ้งของจีนได้รับการจัดอันดับให้เป็นเมืองที่มีความเปราะบางทางด้านเศรษฐกิจสูงที่สุดในโลก เนื่องจากปัญหาระดับน้ำทะเลเพิ่มสูงขึ้นภายในปี 2050 นี้

 

ดังนั้นการทำความเข้าใจถึงผลกระทบทางด้านการเงินและเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นจากวิกฤตด้านสภาพอากาศและสิ่งแวดล้อมจึงมีความสำคัญอย่างมากต่อทั้งภาครัฐและภาคเอกชน ในการวางแผนและประเมินความเสี่ยงถึงแนวโน้มที่จะเกิดขึ้นในอนาคต

 

 

ภาพประกอบ: พิชามญชุ์ วรรณสาร

อ้างอิง:

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising