อีกไม่กี่สัปดาห์ปี 2017 ก็กำลังจะผ่านพ้นไปแล้วนะครับ เป็นปีที่มีทั้งสิ่งดีๆ และสิ่งร้ายๆ เกิดขึ้นกับคนไทย แต่ไม่ว่าจะเป็นอย่างไร ชีวิตของคนเราก็ต้องก้าวต่อไป ทั้งนี้การดูแลสุขภาพให้สมบูรณ์แข็งแรงพร้อมรับเรื่องราวต่างๆ ก็ยังเป็นเรื่องสำคัญอันดับต้นๆ ที่ผู้คนทั่วโลกต่างก็ให้ความสนใจ เรามาดูกันดีกว่าครับว่า 5 เทรนด์อาหารสุขภาพในปี 2018 นั้น มีอะไรน่าสนใจกันบ้าง

1. Keto food

ปกติแล้วเมื่อรับประทานอาหารเข้าไป ร่างกายเราจะย่อยสลายเป็นสารอาหารเพื่อนำไปใช้เป็นพลังงาน และพลังงานหลักๆ ของร่างกายมาจากคาร์โบไฮเดรต ซึ่งมีอยู่ในแป้งและน้ำตาลนั่นเอง Keto food คืออาหาร Low carb หรือกลุ่มที่มีคาร์โบไฮเดรตต่ำ เมื่อเราจำกัดคาร์โบไฮเดรต ร่างกายจะหันไปใช้พลังงานจากไขมันแทน ซึ่งกระบวนการใช้สลายไขมันให้เกิดเป็นพลังงานนั้นเราเรียกว่า Ketosis (อันเป็นที่มาของชื่อ Keto food นั่นเอง) ผลดีคือร่างกายจะมีไขมันลดลง ผลเสียของกระบวนการย่อยสลายก็คือเกิดสารชื่อ Ketone ขึ้น ซึ่งสารนี้มีมากๆ จะไม่ดีต่อร่างกาย หากคุณสนใจเลือกบริโภคอาหารกลุ่ม Keto food ควรแน่ใจว่าร่างกายแข็งแรงดี ไม่มีโรคประจำตัว และควรดื่มน้ำมากๆ เพื่อช่วยให้ร่างกายขับ Ketone ทิ้งออกไปครับ

2. Back to black

ความนิยมอาหารแนวสีดำที่ยังคงดำเนินมาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะกลุ่มที่ทำมาจากผงถ่านหรือชาร์โคล (Charcoal) ยังคงอยู่ในเทรนด์ และจะมากขึ้นไปกว่าปี 2017 แน่นอน กูรูด้านอาหารสุขภาพฟันธงไว้เช่นนั้น แน่นอนครับว่าปีหน้าเราจะเห็นอาหารที่มีสีดำเป็นพื้นฐานเพิ่มขึ้นอีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นไอศกรีมชาร์โคล, พิซซ่าชาร์โคล และอื่นๆ อีกหลายเมนู ผงถ่านสีดำที่นำมาประกอบอาหารนั้น ส่วนมากทำมาจากกะลามะพร้าวนำไปเผาด้วยความร้อนสูงจนกลายเป็นถ่าน ผงถ่านที่เรียกว่า ‘activated charcoal’ นั้นจะถูกนำมาประกอบอาหารอีกที โดยปกติแล้วในทางการแพทย์นั้น เราใช้ผงถ่านสำหรับรักษาผู้ถูกสารพิษ ผงถ่านมีคุณสมบัติพิเศษในการดูดซับสารที่เป็นอันตรายกับร่างกาย เราจึงเชื่อกันว่าการนำเอาผงถ่านมาประกอบเป็นอาหารนั้น มีผลคล้ายๆ กับช่วยร่างกายในการดีท็อกซ์ไปในตัว เรียกว่าอร่อยด้วย ได้ประโยชน์ด้วยไปพร้อมๆ กัน อย่างไรก็ตาม อะไรที่มีคุณก็สามารถเกิดโทษได้เช่นกัน เนื่องจากผงถ่านช่วยดูดซับสารต่างๆ ในร่างกาย การบริโภคอาหารที่มีผงถ่านเป็นส่วนประกอบทุกวัน อาจทำให้คุณขาดสารอาหารได้ เพราะผงถ่านจะไปจับตัวกับสารอาหารที่จำเป็นต่อร่างกาย ทำให้ดูดซึมได้น้อยลง ดังนั้นจึงควรบริโภคแต่เพียงพอดีครับ

อาหารกลุ่มถั่ว โดยเฉพาะถั่วลันเตากำลังจะกลับมาอย่างสมศักดิ์ศรีในปี 2018 ครับ ถั่วเป็นอาหารที่มีประโยชน์มาก นอกจากโปรตีนแล้ว เห็นเม็ดเล็กๆ แบบนั้นแต่ในถั่วยังมีไฟเบอร์ สารต้านอนุมูลอิสระและอื่นๆ อีกมากมาย

3. Give Peas a Chance

อาหารกลุ่มถั่ว โดยเฉพาะถั่วลันเตากำลังจะกลับมาอย่างสมศักดิ์ศรีในปี 2018 ครับ ถั่วเป็นอาหารที่มีประโยชน์มาก นอกจากโปรตีนแล้ว เห็นเม็ดเล็กๆ แบบนั้นแต่ในถั่วยังมีไฟเบอร์ สารต้านอนุมูลอิสระและอื่นๆ อีกมากมาย โดยเฉพาะกรดอะมิโนที่จำเป็นต่อร่างกายของเราถึง 8 ชนิด งานวิจัยทางการแพทย์ตลอด 2-3 ปีที่ผ่านมา ชี้ให้เห็นถึงประโยชน์อันมากมายมหาศาลในการบริโภคถั่ว และนั่นทำให้กระแสของ healthy food หมุนกลับมาที่ถั่วอีกครั้งหนึ่งในปีหน้า

4. Avocado Oil

น้ำมันจากอะโวคาโดนั้นมีคุณค่าทางโภชนาการสูง ประกอบไปด้วย Omega 9 และวิตามินอี ซึ่งมีประโยชน์ต่อสมองและความจำ, สารต้านอนุมูลอิสระ, ไขมันไม่อิ่มตัว เป็นต้น น้ำมันจากอะโวคาโดนั้นไม่มีกลิ่น คนที่ไม่ชอบกลิ่นและรสของอะโวคาโดก็สามารถบริโภคได้สบายมาก แถมสารต่างๆ ที่มีประโยชน์ยังทนความร้อนได้สูงกว่าน้ำมันชนิดอื่นๆ ปัจจุบันเริ่มมีผลิตภัณฑ์อาหารสำเร็จรูปที่ใช้นำมันอะโวคาโดเป็นส่วนประกอบมากขึ้นเรื่อยๆ เช่น มายองเนสผสมน้ำมันอะโวคาโด เป็นต้น

5. Poke Bowls

ปีที่ผ่านมาเราเริ่มเห็นว่ามีร้านอาหารที่บรรจุเมนู Poke Bowl หรืออาหารสไตล์ฮาวายที่ใส่มาในชามลักษณะคล้ายๆ กับข้าวหน้าปลาดิบมาให้เห็นกันบ้างแล้ว และอาหารจานนี้เป็นอาหารสุขภาพที่คาดว่ากำลังจะมาแรงในปี 2018 ครับ เพราะในหนึ่งชามจะประกอบไปด้วยผักเนื้อสัตว์จำพวกปลา อย่างปลาดิบหั่นเต๋า โดยยังสามารถใส่ข้าวและวัตถุดิบสดใหม่อื่นๆ ที่สามารถตกแต่งให้สวยงามและอร่อยได้อย่างง่ายๆ โดยเน้นวัตถุดิบสดใหม่จากธรรมชาติ ทำเดี๋ยวนั้นรับประทานเดี๋ยวนั้นทันที ทำให้มั่นใจได้ว่าอาหารที่นำมาเสิร์ฟนั้นสดใหม่เสมอ ทั้งยังมีความคลีนที่ดีต่อสุขภาพ จึงทำให้โปเก้เป็น Healthy Fast Casual หรืออาหารสุขภาพจานด่วนที่คาดว่าจะได้รับความนิยมมากขึ้นในปีหน้าครับ

อ้างอิง:

• www.unileverfoodsolutions.com.my/en/chef-inspiration/latest-trends/2018-food-trend-predictions.html
• artofhealthyliving.com/healthy-food-trends-2018/