โลกกำลังเตรียมพร้อมก้าวกระโดดครั้งสำคัญในด้านการสื่อสารโทรคมนาคมจาก 5G สู่ 5.5G ในการปฏิวัติเทคโนโลยีครั้งใหม่ที่จะเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตของเราอย่างไม่เคยมีมาก่อน โดยคาดว่าประเทศไทยจะเริ่มใช้งานเทคโนโลยีล้ำยุคนี้ในปี 2568
ในงาน Asia-Pacific ICT Summit 2024 ที่จัดขึ้นที่กรุงเทพมหานคร ระหว่างวันที่ 14-15 สิงหาคมที่ผ่านมา John Gao, President of HUAWEI’s 5.5G Domain เปิดเผยถึงความก้าวหน้าอันน่าตื่นเต้นนี้ โดยย้ำว่าบริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่กำลังทำงานร่วมกับหน่วยงานต่างๆ ทั่วโลก รวมถึงในประเทศไทย เพื่อเร่งการเปลี่ยนผ่านสู่ยุค 5.5Gอย่างเต็มรูปแบบ
“5.5Gไม่ใช่แค่การอัปเกรดธรรมดา แต่เป็นการปฏิวัติที่จะยกระดับประสิทธิภาพของเครือข่ายได้มากถึง 10 เท่า” Gao กล่าวด้วยความกระตือรือร้น “นอกจากนี้ยังสนับสนุนความสามารถใหม่ๆ ที่น่าทึ่ง เช่น Passive IoT และ Native Intelligence ซึ่งจะขยายขอบเขตการบริการของผู้ให้บริการเครือข่ายไปสู่มิติใหม่ที่ไม่เคยมีมาก่อน”
ในแง่ของประสิทธิภาพที่จะเปลี่ยนแปลงโลก 5.5Gสามารถให้ความเร็วในการดาวน์โหลดที่มากถึง 100Gbps เมื่อเทียบกับ 5G ที่ให้ความเร็วสูงสุดที่ 10Gbps เท่านั้น นอกจากนี้ ยังลดความหน่วงเวลาลงเหลือเพียง 1 มิลลิวินาที ซึ่งจะทำให้ประสบการณ์การใช้งานแบบเรียลไทม์ลื่นไหลราวกับโลกเสมือนจริง พร้อมกับลดการใช้พลังงาน ตอบโจทย์การพัฒนาอย่างยั่งยืน
สำหรับผู้บริโภคทั่วไป นี่หมายถึงการได้สัมผัสกับความเร็วอินเทอร์เน็ตที่เหนือจินตนาการ ลดการใช้พลังงานจากอุปกรณ์พกพา และคุณภาพสัญญาณที่เหนือชั้นแม้อยู่ในพื้นที่ที่มีความหนาแน่นสูง ทำให้การเชื่อมต่อไร้สายกลายเป็นประสบการณ์ที่ราบรื่นไร้ที่ติ
แต่ผลกระทบของ 5.5Gไม่ได้จำกัดเพียงแค่การเชื่อมต่อมือถือที่ดียิ่งขึ้นเท่านั้น หนึ่งในแอปพลิเคชันที่น่าจับตามองที่สุดคือการขับขี่อัตโนมัติ ซึ่งความหน่วงต่ำและอัตราการส่งข้อมูลสูงของ 5.5Gจะปลดล็อกศักยภาพของยานพาหนะอัจฉริยะ ทำให้สามารถนำทางได้อย่างแม่นยำและตอบสนองต่อคำสั่งจากระยะไกลได้แทบจะทันที นำไปสู่การใช้บริการแท็กซี่ไร้คนขับที่จะกลายเป็นเรื่องปกติในชีวิตประจำวัน และอาจลดต้นทุนการเดินทางอย่างมหาศาล
นอกจากนี้ ในขณะที่การเปิดตัว 5G ช่วยอำนวยความสะดวกในการใช้งานโทรเวชกรรม ความเร็วที่สูงขึ้น เสถียรภาพที่ดีกว่า และความหน่วงต่ำของ 5.5Gอาจเปิดโอกาสให้กับการผ่าตัดทางไกลที่แม่นยำเหมือนแพทย์อยู่ตรงหน้า ปฏิวัติวงการแพทย์อย่างไม่เคยมีมาก่อน
เมื่อเทคโนโลยีนี้พัฒนาขึ้น จึงคาดว่าจะมีนวัตกรรมใหม่ๆ ที่เหนือความคาดหมายในหลากหลายภาคส่วน ในช่วงต้นปีนี้ 3rd Generation Partnership Project (3GPP) องค์กรที่รับผิดชอบการกำหนดมาตรฐานการสื่อสารโทรคมนาคมระดับโลก เผยแพร่มาตรฐานแรกสำหรับ 5.5Gซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของการปฏิวัติครั้งใหม่
การพัฒนานี้ทำให้เกิดความพยายามในการใช้งานเทคโนโลยีล้ำสมัยนี้อย่างรวดเร็ว โดยมีผู้ให้บริการ 60 รายทั่วโลก รวมถึงในจีน สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ฮ่องกง และอัมมาน ที่เริ่มใช้งาน 5.5Gสำหรับบริการแล้ว แสดงให้เห็นถึงความตื่นตัวในระดับโลก
คาดไทยได้ใช้ 5.5G ภายในปี 2568
สำหรับประเทศไทยซึ่งกำลังก้าวสู่การเป็นศูนย์กลางเทคโนโลยีของภูมิภาค คาดว่าจะเริ่มใช้ 5.5Gภายในปี 2568 ตามที่ วรกาน ลิขิตเดชาศักดิ์ Chief Technology Officer, HUAWEI Thailand กล่าวไว้ด้วยความมั่นใจ พร้อมระบุถึงการที่ HUAWEI สร้างพันธมิตรเชิงกลยุทธ์กับรัฐบาลไทย ซึ่งส่งเสริมการนำเทคโนโลยีนี้มาใช้ เนื่องจากสอดคล้องกับนโยบายประเทศไทย 4.0 ที่เน้นการพัฒนาทางเทคโนโลยี เพื่อยกระดับประเทศสู่การเป็นผู้นำในยุคดิจิทัล
HUAWEI ยังร่วมมือกับผู้ให้บริการโทรคมนาคมรายใหญ่ในประเทศไทย เช่น True และ AIS เพื่อให้การเปิดตัว 5.5Gเป็นไปอย่างราบรื่นและประสบความสำเร็จ สร้างรากฐานสำหรับการปฏิวัติดิจิทัลครั้งใหญ่ของประเทศ
ในส่วนของการอัปเกรด วรกานแสดงความมั่นใจว่าการเปลี่ยนผ่านนี้จะเป็นไปอย่างไร้รอยต่อ ความพิเศษของการอัปเกรดนี้คือประสิทธิภาพที่เพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดดของ 5.5Gและการใช้โครงสร้างพื้นฐาน 5G ที่มีอยู่แล้ว โดยต้องการเพียงการปรับเปลี่ยนเล็กน้อยและการอัปเกรดซอฟต์แวร์ ซึ่งทำให้ผู้ให้บริการเครือข่ายสามารถใช้งานเทคโนโลยีใหม่นี้ได้อย่างรวดเร็ว โดยไม่หยุดชะงักหรือมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมมากนักTECH