ประเทศไทยต้องเผชิญกับการระบาดของโควิดระลอกเดือนเมษายน ถ้านับจนถึงวันนี้ (27 กรกฎาคม) ก็เกือบ 4 เดือนมาแล้ว โดยเฉพาะในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑลที่ตกอยู่ในสภาวะปิดๆ เปิดๆ มาหลายต่อหลายครั้ง และครั้งนี้ที่กำลังประสบอยู่ นับเป็นการล็อกดาวน์ครั้งที่หนักหนาที่สุดนับแต่มีการระบาดมา
การเผชิญกับสถานการณ์โควิดระลอกแรกที่หลายคนอาจจะยังพอรับมือได้ ประกอบกับตัวเลขผู้ติดเชื้อที่ไม่สูงมากนัก ทำให้สถานการณ์คลี่คลายภายในระยะเวลาไม่กี่เดือน กลับมาฟื้นกิจการหรือธุรกิจได้บ้าง แม้ว่าจะอยู่ในสภาวะเศรษฐกิจที่ไม่เอื้ออำนวย
ทว่า การระบาดในระลอกนี้ ซึ่งอาจกล่าวได้ว่าเป็นระลอกที่ 3 ที่ผ่านมาเกือบ 4 เดือน แต่ตัวเลขผู้ติดเชื้อยังมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับการล็อกดาวน์ที่กินเวลายาวนาน โดยเฉพาะบางอาชีพที่หลายคนอาจลืมไปแล้ว นั่นคือสถานบันเทิงหรือสถานประกอบการในลักษณะเดียวกันที่ปิดมาแล้วตลอด 4 เดือนที่ผ่านมา
ทั้งสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคประกอบกับสถานการณ์ทางเศรษฐกิจผสมกับการล็อกดาวน์ และเงินเยียวยาที่ยังมาไม่ถึงมือประชาชน เป็นวิกฤตที่ปฏิเสธไม่ได้ว่าประชาชนบางส่วนเริ่มหายใจรวยริน ที่นอกจากจะต้องยกการ์ดเพื่อป้องกันโรคตามคำแนะนำของรัฐแล้ว ยังต้องดิ้นรนต่อสู้กับปัญหาปากท้องอีกด้วย
