ยกให้เป็นอีกปีสุดเดือดที่มีร้านอาหารเปิดใหม่ไม่ยอมหยุดพัก เชื่อว่าหลายร้านอาจเฝ้ารอวันเฉิดฉายมาตั้งแต่ปีก่อนหน้าที่จังหวะไม่ดีเท่าไร เมื่อมาถึงปีนี้ที่หลายๆ อย่างลงตัวมากขึ้น ทุกคนอยากกินข้าวนอกบ้านมากขึ้น แถมร้านเองก็มีเวลาคราฟต์รสชาติอาหารแต่ละจานจนไม่มีที่ติด้วย พวกเราจึงได้เห็นร้านอาหารเปิดใหม่ที่น่าสนใจตลอดทั้งปีที่ผ่านมา
แต่หากเราต้องเลือกร้านที่อยากให้ทุกคนตามไปลองจริงๆ น่าเสียดายที่พูดถึงทุกร้านในปีนี้ไม่ได้ เราจึงต้องเลือกมาเฉพาะร้านเด็ดๆ เจ๋งๆ ที่อยากแนะนำว่าห้ามพลาดที่สุด!
แล้วร้านอาหารใหม่ 11 แห่งที่เราขอยกให้เป็นร้านใหม่แห่งปี 2022 จะมีที่ไหนบ้าง มาดูพร้อมกันได้เลย โดยลิสต์นี้ไม่มีการจัดอันดับแต่อย่างใด
Fran’s
Brunch Spot ยอดนิยมแห่งปีในย่านสาทร มาพร้อมบรรยากาศกลาสเฮาส์ สวนสีเขียวร่มรื่น และเมนูอาหารเช้าถึงสายที่เรียบง่าย ถ่ายรูปสวย และมีรสชาติชัดเจนในรูปแบบของตัวเอง ผู้อยู่เบื้องหลังก็ไม่ใช่ใครเสียจาก ปลา-อัจฉรา บุรารักษ์ เจ้าของเครือร้านอาหาร iberry, กานต์ กิตติเวช จากร้านทองสมิทธ์ ร่วมกับ ชาลี กาเดอร์ เชฟฝีมือดีเจ้าของร้านอาหารดังอีกหลายแห่ง
เมนูแนะนำคือ Velvet Egg & Bacon (290 บาท) แซนด์วิชหน้าเปิดที่ใช้ขนมปังซาวโดว์ ท็อปด้วยไข่คนและเบคอนเคลือบซอสเมเปิลชิ้นหนายั่วยวนใจ เมนูนี้เป็นซิกเนเจอร์ของร้านที่ต้องมีทุกโต๊ะด้วย
Fran’s อยู่ในซอยงามดูพลี ราคาเริ่มต้น 500-1,000 บาท เปิดทุกวัน เวลา 08.00-18.00 น.
(อ่านรีวิวได้ที่: https://thestandard.co/frans/)
Baan Phraya
เดิมทีบ้านหลังนี้เป็นที่พักอาศัยของพระยามไหสวรรย์ และ คุณหญิงเลื่อน มไหสวรรย์ ซึ่งหากย้อนกลับไปสัก 50 ปี บ้านพระยานับว่าเป็นเรือนต้อนรับแขกบ้านแขกเมืองที่เลื่องชื่อด้วยอาหารไทยรสมือคุณหญิงเลื่อนที่ใครชิมก็ถูกใจ เมื่อโรงแรมต้องคืนชีพให้บ้านหลังนี้ใหม่ จึงตัดสินใจเปิดเป็นห้องอาหารไทยที่นำเมนูโบราณมานำเสนออย่างโมเดิร์น และใช้เครื่องปรุงหลักๆ เพียงแค่ ‘น้ำปลาและเกลือ’ อย่างคนสมัยก่อน
ห้องอาหารไทยบ้านพระยา นำโดยเชฟหญิงรุ่นใหม่ ป้อม-พัชรา พิระภาค ผู้รังสรรค์อาหารไทยให้กลมกล่อม เสิร์ฟผ่านคอร์สเมนู 8 อย่าง ที่ได้แรงบันดาลใจมาจากอาหารหลายภาค
Baan Phraya อยู่ในโรงแรมแมนดาริน โอเรียนเต็ลฯ ราคา 8 คอร์ส 3,500++ บาท เปิดวันพุธ-อาทิตย์ เวลา 19.00-22.30 น.
(อ่านรีวิวได้ที่: https://thestandard.co/baan-phraya-2/)
Maison Dunand
บ้านหลังใหม่ของ เชฟอาโน ดูนัง ที่มาพร้อมกลิ่นอายกระท่อมบนเนินเขาในประเทศฝรั่งเศส เชฟใช้บ้านเกิดและแคว้นที่ผูกพันแต่เด็กมาเป็นแรงบันดาลใจในการตกแต่งร้าน ไปจนถึงเมนูอาหารที่จะเสิร์ฟให้ทุกคนชิม
อาหารฝรั่งเศสที่นี่จะมีความเป็นตัวตนของเชฟชัดขึ้น เพราะเชฟบอกว่าเขาจะทำทุกอย่างที่ตนเองต้องการ ไม่ว่าจะเป็นการจัดจาน วัตถุดิบ หรือรสชาติที่หลายคนคิดถึง เนื่องจากที่นี่คือบ้านของเขาเอง และไฮไลต์นอกจากเมนูอาหารที่อยากให้ทุกคนได้ลองก็คือ รถเข็นชีส ที่เชฟนำชีสบางชนิดมาเองจากฝรั่งเศสเลย
Maison Dunand อยู่ในซอยสีลม 9 ใกล้บีทีเอสเซนต์หลุยส์ ราคามื้อกลางวัน 2,600++ บาท, มื้อค่ำ 4,800++ บาท และ 6,900++ บาท เปิดทุกวัน เวลา 12.00-14.30 น. และ 17.30-22.00 น.
(อ่านรีวิวได้ที่: https://thestandard.co/taste-maison-dunand/)
Sushi Saryu
โอมากาเสะพรีเมียมที่ฉายเดี่ยวโดย เชฟเซย์จิ ซุโด ผู้ทำอาหารและตระเตรียมวัตถุดิบเองทุกขั้นตอน เพราะเชฟบอกว่าสิ่งสำคัญที่สุดในการทำอาหารสำหรับเขาคือความเสมอต้นเสมอปลาย โดยแฟนโอมากาเสะน่าจะคุ้นชื่อเชฟดี เพราะเขาเคยประจำอยู่ที่ Tama Sushi และ Ginza Sushi Ichi ในประเทศสิงคโปร์
โอมากาเสะที่นี่เสิร์ฟทั้งหมด 15 คอร์ส เชฟทำทุกอย่างตามสไตล์ดั้งเดิม ทว่านำเสนออย่างสมัยใหม่ มาพร้อมวัตถุดิบชั้นเลิศ สาเกชั้นดี และจานชาม จอกสาเกที่เลือกมาเองกับมือแบบไม่ซ้ำที่ไหน
Sushi Saryu อยู่ในอาคารโครนอส สาทร ราคา 15 คอร์ส 8,000++ บาท เปิดวันอังคาร-อาทิตย์ เวลา 18.00-22.00 น.
(อ่านรีวิวได้ที่: https://thestandard.co/sushi-saryu-2/)
Vilas
แม้เชฟปริญญ์จะยืนหนึ่งผูกกับอาหารไทยมานาน แต่สำหรับร้าน Vilas เชฟเลือกยืนคนละฝั่งกับสำรับสำหรับไทย เพราะต้องการให้ร้านแห่งนี้ขยายขอบเขตอาหารไทย ทั้งเทคนิคและวัตถุดิบไปสู่ชาติอื่นๆ ดูบ้าง
นำเสนอผ่านเมนูอาหาร 12 คอร์ส ซึ่งคอร์สใหม่ล่าสุดได้แรงบันดาลใจมาจากอาหารใต้ นำโดยเชฟชาวสเปน เปเป้ หรือ Pepe Dasi Jimenez โดยอาหารที่นี่มีเอกลักษณ์ตรงเป็นการผสมผสานวัตถุดิบ เทคนิค และวัฒนธรรมนานาชาติเข้าด้วยกัน ทุกคนอาจเจอทั้งไทย ญี่ปุ่น เกาหลี หรือตะวันตกในมื้อเดียว
Vilas อยู่ในตึกมหานครคิวบ์ ราคา 12 คอร์ส 4,500++ บาท เปิดวันอังคาร-อาทิตย์ เวลา 17.30-23.00 น.
(อ่านรีวิวได้ที่: https://thestandard.co/vilas/)
Larder
อีกร้านบรันช์ยอดฮิตในย่านพร้อมพงษ์ที่เกิดจากสองเชฟเพื่อนซี้ชาวโปแลนด์ Adrian Klonowski และ Radek Zarębiński โดยพวกเขาเคยทำงานในร้านอาหารมิชลินอยู่พักใหญ่ๆ ก่อนตัดสินใจออกมาเปิดร้านของตัวเองเพื่อทำในสิ่งที่ชอบ นั่นก็คือเบเกอรีและชาร์คูเทอรีสไตล์โปแลนด์ที่พวกเขาลุยเองทุกขั้นตอน
เมนูอาหารเช้าที่ Larder มีตั้งแต่ขนมปัง ชาร์คูเทอรี ไส้กรอก อาหารจานเล็ก และแซนด์วิชโปแลนด์ (Ka Nap Ki) โดยเมนูแนะนำคือ ‘Tuna 3000’ (250 บาท) แซนด์วิชโปแลนด์ใช้ขนมปังซาวโดว์ ท็อปด้วยซอสทาร์ทาร์ ไข่ต้ม และทูน่าชิ้นสวย เป็นเมนูรสชาติดีแบบไม่ต้องปรุงแต่งอะไรมาก
Larder อยู่ในซอยพร้อมใจ ด้านหลังเอ็มควอเทียร์ ราคาเริ่มต้น 250-500 บาท เปิดทุกวันอังคาร-อาทิตย์ เวลา 08.00-17.00 น.
(อ่านรีวิวได้ที่: https://thestandard.co/larder/)
Taahra
ร้านอาหารไทยที่ชูเทคนิคการย่างด้วยเตาถ่าน นำทีมโดย เชฟน็อค-พัทธ์อินทร์ พรหมสวัสดิ์ ผู้คุ้นเคยกับอาหารยุโรป เมื่อได้มาทำอาหารไทยจึงไม่ลืมหยิบเทคนิคต่างชาติมาประยุกต์ใช้ ผสมกับการเลือกวัตถุดิบชั้นดีจากทั่วทุกมุมโลกมารังสรรค์เป็นเมนูอาหารไทยหน้าตาทันสมัยให้ชิมผ่านเมนู 13 คอร์ส
ทุกจานจะผ่านการย่างด้วยเตาญี่ปุ่นและเตาสเปน แบ่งวิธีเป็น 3 แบบ คือเตาชั้นล่างจะเน้นทำให้สุก ด้านบนขึ้นมาเป็นการย่างแบบ Slow Cook และชั้นบนสุดจะเป็นการสโมกหรือการรมควัน ทำให้เมื่อไขมันหยดลงมาจะยิ่งเพิ่มรสชาติให้วัตถุดิบ
Taahra อยู่บนถนนเจริญกรุง ราคา 13 คอร์ส 3,800++ บาท เปิดวันอังคาร-อาทิตย์ เวลา 17.00-22.00 น.
(อ่านรีวิวได้ที่: https://thestandard.co/taste-taahra/)
Villa Frantzén
ร้านอาหารไฟน์ไดนิ่งสไตล์นอร์ดิกจากสวีเดน เจ้าของคือ เชฟบยอร์น ฟรันต์เซน (Björn Frantzén) เจ้าของร้านอาหาร Frantzén ดีกรี 3 ดาวมิชลินในบ้านเกิด เชฟบินมาเปิดร้านอาหารลูกพี่ลูกน้องอย่าง Villa Frantzén เพื่อนำเสนออาหารสไตล์โมเดิร์นนอร์ดิกในบรรยากาศสบายๆ เหมือนบ้านหลังหนึ่ง
เสน่ห์ของคอร์สเมนูที่นี่คือทุกคนเลือกอาหารแต่ละจานได้เอง โดยมี 3 ตัวเลือกในแต่ละคอร์ส พร้อมกับเมนู Add On ที่ไม่ควรพลาดอย่าง Villa Frantzén caviar เสิร์ฟคาเวียร์ 30 กรัมให้กินพร้อมวาเฟิลมะพร้าวขนุน ซาวครีม และบราวน์บัตเตอร์สาหร่าย (1,950++ บาท)
Villa Frantzén อยู่ในซอยเย็นอากาศ 3 ราคา 2 คอร์ส 4,200++ บาท เปิดวันอังคาร-ศุกร์ เวลา 17.30-23.30 น. และวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 12.00-23.30 น.
(อ่านรีวิวได้ที่: https://thestandard.co/taste-villa-frantzen/)
Choen
ร้านอาหารร่วมสมัยที่ใช้ฟืนไฟอันลุกโชนในการประกอบอาหารเท่านั้น ทำให้แทบทุกเมนู ทุกคำที่ได้ชิม มีสัมผัสและความหอมไม่เหมือนใคร นำโดย เชฟมิว-จีราวิชช์ มีแสงนิลวีรกุล ผู้เคยทำงานในครัว Nahm และหนึ่งในอดีตทีมงานเบื้องหลังร้านชามแกง
เชฟมิวออกมาเปิดร้านนี้เองด้วยแพสชันไฟลุก เพราะอยากนำเสนออาหารปรุงสุกด้วยฟืนอย่างที่ตัวเองถนัด นำเสนอผ่านอาหาร 8 คอร์สที่ไม่จำกัดว่าเป็นอาหารชาติใด เน้นรสชาติที่ทุกคนคุ้นเคยเป็นหลัก และใช้วัตถุดิบชั้นดีที่หลากหลาย มีเมนูน่าสนใจ เช่น แขนงหมูกรอบ สแกลลอปฮอกไกโดซอสยำกะทิ หรือแกงคั่วกุ้งแม่น้ำย่างกับจาวมะพร้าวเผา
Choen (โฌณ) อยู่ในซอยพันธจิตร ย่านหัวลำโพง ราคา 8 คอร์ส 2,600++ บาท เปิดวันอังคาร-อาทิตย์ เวลา 18.00-23.00 น.
(อ่านรีวิวได้ที่: https://thestandard.co/choen-restaurant/)
Laun
ร้านนี้เริ่มต้นจากคุณทอมมี่และคุณยุ เจ้าของร้านอาหารคิวยาว บ้านนวล อยากทำร้านที่มีบรรยากาศสบายๆ กว่าร้านแรก และอยากให้ร้านนี้เป็นเหมือนร้านอาหารที่คนท้องถิ่นจะนึกถึง หรือแนะนำให้นักท่องเที่ยวแวะมากิน อาหารที่เสิร์ฟในร้าน Laun จึงเป็นเหมือนเมนู ‘มินินวล’ คือหลายจานมีกลิ่นอายของบ้านนวลผสมอยู่ แต่จะเป็นอาหารกินจบในจานเดียว โดยทุกเมนูปรุงโดยฝีมือคุณยุเช่นเดิม
เมนูส่วนใหญ่เป็นคอมฟอร์ตฟู้ด กินง่ายๆ ไม่ซับซ้อน และสามารถกินได้บ่อยๆ มีเมนูแนะนำคือ ข้าวหมูตุ๋นและไข่ดาว (280 บาท)
Laun อยู่ในซอยสามเสน 4 ราคาเริ่มต้น 250 บาท เปิดทุกวัน (ปิดวันอังคาร) เวลา 08.30-16.00 น.
(อ่านรีวิวได้ที่: https://thestandard.co/laun/)
Sushi Yamazato
หลังจากปรับลุคห้องอาหารใหม่ Yamazato ในโรงแรมดิ โอกุระฯ จึงมีอาหารญี่ปุ่น 3 สไตล์รวมกันไว้ในที่เดียว ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือ Sushi Yamazato เคาน์เตอร์บาร์โอมากาเสะจำนวน 8 ที่นั่ง ที่เสิร์ฟประสบการณ์เหมือนญี่ปุ่นต้นตำรับให้ทุกคนได้สัมผัส ผ่านอาหารที่ใช้เทคนิคชั้นสูง ผสานกับวัตถุดิบชั้นเลิศคัดสรรตามฤดูกาลส่งตรงจากญี่ปุ่น
นอกจากความสดใหม่ในทุกคำ อีกเมนูที่อยากให้ตั้งตารอคือขนมหวาน เป็นชีสเค้กญี่ปุ่นสัมผัสนุ่มเบา มาพร้อมพุดดิ้งเก็นไมฉะกับครัมเบิลแปะก๊วย และยูซุเชอร์เบตกับแผ่นเยลลี่สตรอว์เบอร์รี
Sushi Yamazato อยู่ในโรงแรมดิ โอกุระ กรุงเทพฯ ราคา 4,900++ บาท และ 6,500++ บาท เปิดวันพุธ-อาทิตย์ เวลา 12.30 น. และ 18.30 น.
(อ่านรีวิวได้ที่: https://thestandard.co/yamazato/)