ก.ล.ต. สั่งเพิกถอนการให้ความเห็นชอบผู้แนะนำการลงทุน คือ ปวีรญา เกื้อขำ (ชื่อเดิม รัตตา เกื้อขำ) เป็นเวลา 10 ปี กรณีกระทำมิชอบต่อทรัพย์สินของผู้ลงทุนและมีพฤติกรรมอันส่อไปในทางไม่สุจริตที่ส่งผลกระทบต่อความน่าเชื่อถือในการเป็นบุคลากรในธุรกิจตลาดทุนอย่างมีนัยสำคัญ ขณะกระทำผิดสังกัดบริษัท กรุงเทพประกันชีวิต จำกัด (มหาชน)
สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ได้รับรายงานการตรวจสอบจากบริษัท กรุงเทพประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) และตรวจสอบข้อเท็จจริงเพิ่มเติมพบว่า ในปี 2557-2561 ปวีรญามีพฤติกรรมไม่เหมาะสม ดังนี้
- ในฐานะผู้แนะนำการลงทุนได้รับเงินค่าซื้อกองทุนรวมจากผู้ลงทุน 2 ราย แต่ไม่ทำรายการซื้อตามความประสงค์ของลูกค้า นำเงินบางส่วนไปใช้ส่วนตัวและแก้ไขยอดซื้อกองทุนในสมุดบัญชีกองทุนให้ตรงกับจำนวนเงินที่ลูกค้าประสงค์ลงทุน ปลอมลายมือชื่อผู้ลงทุนเพื่อสั่งขายหน่วยลงทุนหลายครั้ง
เมื่อเงินค่าขายกองทุนโอนเข้าบัญชีผู้ลงทุน ปวีรญาจะแจ้งว่าเป็นผลตอบแทนจากการลงทุนและพาผู้ลงทุนไปถอนเงิน พร้อมกับขอแบ่งเงินบางส่วนโดยอ้างว่าจะนำไปลงทุนต่อ แต่กลับไปซื้อหุ้นในนามตนเอง ทั้งนี้ ภายหลังจากที่บริษัทตรวจพบ บริษัทได้ชดใช้เงินแก่ลูกค้ารวมจำนวน 10,717,178.68 บาท
- ในฐานะตัวแทนประกันชีวิตมีพฤติกรรมไม่สุจริต โดยรับเงินค่าเบี้ยประกันชีวิตจากลูกค้าอีกหนึ่งรายจำนวน 215,000 บาท แต่ไม่นำส่งให้บริษัท
ก.ล.ต. พิจารณาแล้วเห็นว่าปวีรญาในฐานะผู้แนะนำการลงทุนไม่ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์สุจริตตามประกาศคณะกรรมการกำกับตลาดทุน โดยกระทำมิชอบต่อทรัพย์สินของผู้ลงทุน และในฐานะตัวแทนประกันชีวิตมีพฤติกรรมอันส่อไปในทางไม่สุจริต ที่ส่งผลกระทบต่อความน่าเชื่อถือในการเป็นบุคลากรในธุรกิจตลาดทุนอย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งเป็นลักษณะต้องห้ามของบุคลากรในธุรกิจตลาดทุน ก.ล.ต. จึงเพิกถอนการให้ความเห็นชอบเป็นผู้แนะนำการลงทุนตราสารซับซ้อนประเภท 1 และกำหนดระยะเวลาในการรับพิจารณาคำขอความเห็นชอบของปวีรญาเป็นบุคลากรในธุรกิจตลาดทุนในคราวต่อไป เป็นเวลา 10 ปี นับตั้งแต่วันที่ 7 ธันวาคม 2565
ทั้งนี้ ในการพิจารณากำหนดระยะเวลาข้างต้น ก.ล.ต. ได้นำปัจจัยดังต่อไปนี้มาใช้ประกอบการพิจารณาของ ก.ล.ต. ด้วย ได้แก่ บทบาทความเกี่ยวข้องและพฤติกรรมของบุคคลที่ถูกพิจารณา การลงโทษที่บุคคลนั้นได้รับไปแล้ว ผลกระทบ ความเสียหาย หรือผลประโยชน์ที่เกิดขึ้น การแก้ไขหรือการดำเนินการอื่นที่เป็นประโยชน์หรือขัดขวางการปฏิบัติงานของ ก.ล.ต. และประวัติหรือพฤติกรรมในอดีตอื่นใดที่แสดงถึงความไม่เหมาะสมที่จะเป็นบุคลากรในธุรกิจตลาดทุน
ก.ล.ต. ขอเตือนให้ผู้ลงทุนใช้ความระมัดระวังในการลงทุน โดย ก.ล.ต. พบว่า กรณีทุจริตจากการลงทุนมักเกิดจากการที่ผู้ลงทุนไว้วางใจในตัวผู้แนะนำการลงทุนจนละเลยการตรวจสอบรายการธุรกรรมและยอดเงินลงทุนของตนเอง ดังนั้น ก.ล.ต. จึงขอย้ำให้ผู้ลงทุนคอยหมั่นดูแลและติดตามการลงทุนอย่างสม่ำเสมอ และควรโอนเงินค่าซื้อหน่วยลงทุนเข้าบัญชีของผู้ประกอบธุรกิจแทนการมอบเงินให้ผู้แนะนำการลงทุนดำเนินการแทน เพื่อป้องกันความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นได้ และหากมีข้อสงสัยควรติดต่อบริษัทผู้ให้บริการ หรือสอบถามได้ที่ ‘ศูนย์บริการประชาชน ก.ล.ต.’ โทร. 1207 หรือเฟซบุ๊กเพจ ‘สำนักงาน กลต.’ หรือ SEC Live Chat ที่เว็บไซต์ ก.ล.ต.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
- ก.ล.ต. เล็งกำหนดมูลค่าการซื้อคริปโตขั้นต่ำที่ 5,000 บาท พร้อมมองว่าเหรียญส่วนใหญ่ไร้ปัจจัยพื้นฐานรองรับ
- ก.ล.ต. สั่ง MORE แจงข้อมูลกรณีบอร์ดให้ข้อมูลโครงการ Rolling Loud แตกต่างกับ IFA แบบมีนัยสำคัญ ชี้มีข้อมูลไม่เพียงพอให้ผู้ถือหุ้นตัดสินใจ
- ก.ล.ต. เตือนผู้ถือหุ้น TNL ใช้สิทธิออกเสียงกรณีขายหุ้นเพิ่มทุน PP ให้แก่ BTS หลัง IFA ชี้ราคาเสนอขายไม่เหมาะสม ต่ำกว่ามูลค่ายุติธรรม