สัปดาห์นี้เรายังคงอยู่ในบรรยากาศของการประกาศรางวัลมิชลินไกด์ กรุงเทพฯ ภูเก็ต พังงา เชียงใหม่ และพระนครศรีอยุธยา ประจำปี 2022 ที่เพิ่งประกาศไปเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 16 ธันวาคม 2564 ใกล้ๆ กับอีกหลายๆ ประเทศที่ประกาศในช่วงเวลาเดียวกัน ทำให้เมื่ออ่านข่าวสารเกี่ยวกับอาหาร ก็มีแง่มุมมากมายเกี่ยวกับเรื่องราวของมิชลินมาให้เห็นไม่หยุดหย่อน
เช่นเดียวกับ Chef’s Pencil นิตยสารเกี่ยวกับวงการอาหารที่เพิ่งเปิดลิสต์รายชื่อ 15 อันดับร้านอาหารดีกรีมิชลินที่แพงที่สุดในโลกไปเมื่อต้นเดือนธันวาคมที่ผ่านมา โดยผลการสำรวจที่เป็นผลพวงต่อเนื่องมาจากรายงานก่อนหน้าที่ทางนิตยสารรวบรวมเก็บผลสำรวจเกี่ยวกับรายชื่อประเทศ และเมืองที่มีค่าใช้จ่ายในการรับประทานอาหารนอกบ้านแพงที่สุดในโลก นั่นทำให้พวกเขามีข้อมูลของร้านอาหารติดดาวกว่า 500 รายชื่อจากทั่วโลก จึงเกิดเป็นจุดเริ่มต้นของผลสำรวจนี้ตามมา
สิ่งที่น่าสนใจคือไม่รู้ทำไมเมื่อพูดถึงมื้ออาหารหรูหราราคาสูง เรามักจะคิดถึงประเทศฝั่งตะวันตกก่อนเป็นอันดับแรก แต่ผลสำรวจแสดงให้เห็นว่ากว่าครึ่งของ 10 อันดับแรกอยู่ในทวีปเอเชีย โดยเฉพาะประเทศญี่ปุ่น และญี่ปุ่นก็เป็นประเทศเดียวที่มีร้านอาหารติดอันดับท็อป 10 ในลิสต์นี้มากกว่า 1 ร้าน
จริงอยู่ว่าการกินอาหารในร้านที่ได้รับดาวมิชลินไม่จำเป็นต้องแพงเสมอไป แต่ก็จริงอีกว่า จำนวนไม่น้อยที่ราคาสูงชนิดที่ต้องเก็บเงินก่อนถึงจะไปกินได้ ส่วนที่ว่าแพงมันจะขนาดไหน และหน้าตาหรือประสบการณ์จะเป็นอย่างไร เรารวบรวมข้อมูลมาให้อ่านกัน
หมายเหตุ:
- ราคาคำนวณเป็นเงินไทยตามอัตราแลกเปลี่ยนวันที่ 17 ธันวาคม 2564 และระบุราคาออริจินัลกำกับไว้
- เทียบราคา Tasting Menu ที่แพงที่สุดของร้านต่อท่าน ยังไม่รวมเครื่องดื่มและ VAT หรือ Service Charge
อ้างอิง:
1. Sublimotion (Ibiza, Spain)
ราคา: 1,500 ยูโร หรือ 56,530 บาท
Sublimotion คือโชว์เต็มรูปแบบมากกว่าแค่อาหาร 1 มื้อ ภายในห้องอาหารใช้ VR เทคโนโลยี และ Film Projection เข้ามาประกอบ ทำให้เหมือนเราเดินทางย้ายร้านไปที่ใหม่ๆ อยู่ตลอดเวลาขณะเปลี่ยนคอร์ส ถึงตอนนี้ Sublimotion ยังไม่ได้รับดาวมิชลินก็จริง แต่ผู้อยู่เบื้องหลังมื้ออาหารและโชว์นี้ได้แก่เชฟ Paco Roncero ซึ่งร้านอาหารของเขาได้รับรางวัล 2 ดาวมิชลิน
2. Ultraviolet by Paul Pairet (Shanghai, China)
ราคา: 8,888 หยวน หรือ 46,454 บาท
ร้านอาหาร Ultraviolet คือร้านอาหารดีกรีมิชลิน 3 ดาว ที่จัดเป็นห้องขนาด 10 ที่นั่ง และใช้ Multi-sensory Technology เพื่อให้ลูกค้าได้รับประสบการณ์ทุกประสาทสัมผัส ตลอดทั้ง 22 คอร์สคุณจะรู้สึกเหมือนย้ายสถานที่ไปเรื่อยๆ และมีอะไรมาเซอร์ไพรส์ตลอดมื้อ
ภาพ: Asia’s 50 Best Restaurants
3. Kitcho Arashiyama Honten (Kyoto, Japan)
ราคา: 100,000 เยน หรือ 29,397 บาท
Kitcho Arashiyama Honten คือร้านอาหารไคเซกิดีกรีมิชลิน 3 ดาวในเกียวโต ที่ไม่ได้เพียงแค่เสิร์ฟอาหารญี่ปุ่นแบบดั้งเดิมที่เน้นวัตถุดิบท้องถิ่นประจำฤดูกาลเท่านั้น แต่ภายในถูกออกแบบให้ไฮไลต์งานสถาปัตยกรรมแบบญี่ปุ่น และทุกห้องจะมองเห็นสวนที่เป็นอีกหนึ่งอาหารตาที่ตั้งใจให้เสริมความสมบูรณ์ของอาหาร
4. Azabu Kadowaki (Tokyo, Japan)
ราคา: 90,750 เยน หรือ 26,696 บาท
Azabu Kadowaki ร้านอาหารญี่ปุ่นดีกรีมิชลิน 3 ดาวในโตเกียว ที่มีการใช้เทคนิคโมเดิร์นเข้ามาผสมผสานเมนูญี่ปุ่นแบบดั้งเดิมให้แตกต่างมากยิ่งขึ้น ที่นี่เสิร์ฟ 6 ที่นั่งบนเคาน์เตอร์ที่คุณจะได้เห็นเชฟปรุงแต่ละขั้นตอนสดๆ ตรงหน้า
ภาพ: Michelin Guide
5. Masa (New York City, United States)
ราคา: 800 ดอลลาร์สหรัฐ หรือ 26,672 บาท
ถึงจะอยู่ในสหรัฐอเมริกา Masa คือร้านอาหารญี่ปุ่นโอมากาเสะระดับรางวัลมิชลิน 3 ดาว โดยเชฟ Masa Takayama เชฟใช้วัตถุดิบตามฤดูกาล ปลาส่งตรงมาจากญี่ปุ่น และวัตถุดิบหายากหลายๆ ชนิด
ภาพ: www.masanyc.com
6. Joël Robuchon (Tokyo, Japan)
ราคา: 70,000 เยน หรือ 20,583 บาท
ร้านอาหารของเชฟ Joël Robuchon เชฟชาวฝรั่งเศสผู้ที่ครองดาวมิชลินมากที่สุดในโลกถึง 24 ดวง เชฟ Robuchon มีร้านอาหารของเขาในหลายประเทศทั่วโลก เช่นเดียวกับในประเทศไทย (ปัจจุบันปิดแล้ว) สำหรับสาขาโตเกียวเวอร์วังมากด้วยดีไซน์สไตล์ฝรั่งเศสท่ามกลางสถาปัตยกรรมญี่ปุ่นรอบข้าง
ภาพ: Michelin Guide
7. Kikunoi Honten (Kyoto, Japan)
ราคา: 70,000 เยน หรือ 20,583 บาท
ร้านอาหารญี่ปุ่นดีกรีมิชลิน 3 ดาว ที่เฮดเชฟ Yoshihiro Murata ใช้ประสบการณ์จากการเป็นชาวประมงมาก่อนในการหาปลา และเลือกวัตถุดิบที่ดีที่สุดมาเสิร์ฟในมื้อของเขา ซึ่งก็ไม่ใช้แค่วัตถุดิบท้องถิ่นอย่างเดียว เพราะเชฟยังเลือกวัตถุดิบจากนานาชาติอย่างฟัวกราส์ มาใช้ในเมนูสไตล์ญี่ปุ่นของเขาด้วย
8. Gion Maruyama (Kyoto, Japan)
ราคา: 70,000 เยน หรือ 20,583 บาท
ร้านอาหารญี่ปุ่นดีกรีมิชลิน 2 ดาว ที่เน้นความเป็นฤดูกาลที่ไม่ใช่เพียงแค่วัตถุดิบ แต่ตั้งแต่การตกแต่งร้านที่เปลี่ยนไปเรื่อยๆ และไฮไลต์รสชาติของวัตถุดิบนั้นๆ มากกว่าการปรุงแต่ง
ภาพ: Michelin Guide
9. Guy Savoy (Paris, France)
ราคา: 530 ยูโร หรือ 19,940 บาท
ร้านอาหารฝรั่งเศสริมฝั่งแม่น้ำแซนในกรุงปารีส ของหนึ่งในเชฟฝรั่งเศสระดับตำนาน Guy Savoy ที่ปัจจุบันได้รับดาวมิชลินถึง 3 ดวง
10. Piazza Duomo (Alba, Italy)
ราคา: 500 ยูโร หรือ 18,811 บาท
Piazza Duomo คือร้านอาหารอิตาเลียนระดับ 3 ดาวที่เชฟใช้เทคนิค ความสวยงามสไตล์ฝรั่งเศสมาประยุกต์ใช้กับรสชาติแบบอิตาเลียนของเขา รวมถึงผักผลไม้ที่ใช้ในร้านอาหารก็มาจากสวนไบโอไดนามิกของร้านอาหารเอง
ภาพ: Michelin Guide
