วันนี้ (12 ธันวาคม) อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ระบุว่า พรรคภูมิใจไทยหล่อเร็วไปหน่อยกรณีเห็นต่างร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) จัดระเบียบราชการกระทรวงกลาโหมว่าหากรออีกหน่อยจะหล่อกว่านี้ว่า ไม่ใช่ตนเอง เพราะยังไม่เคยมีใครบอกว่าตนหล่อ ตนแค่ดูดีเฉยๆ
“ยังไม่หล่อเลย ทำให้ไฮฟูอยู่ ก็ยังไม่หล่อ หล่อช้าไปด้วยซ้ำ“ ก่อนที่อนุทินจะชี้ไปที่หน้าตนเอง
เมื่อถามว่า การทำหน้าที่ค้านในประเด็นร้อนเป็นสิ่งที่ถูกต้องแล้วหรือไม่ อนุทินกล่าวว่า แต่ละพรรคมีจุดยืน และที่ตนทราบมาก็ไม่ใช่มติพรรค ไม่ใช่มติของรัฐบาลและมติพรรคเพื่อไทย เป็นเพียง สส. คนหนึ่งเสนอขึ้นมา ไม่เกี่ยวอะไรกับพรรค
เราไม่เห็นด้วยกับการปฏิวัติ อันนี้ชัดเจน ใครก็ปฏิวัติไม่ได้ และกฎหมายห้ามปฏิวัติก็อยู่ในรัฐธรรมนูญ มาตรา 43 และ 113 ถัดจากมาตรา 112 เพียงมาตราเดียว ขอให้ไปดูบทลงโทษ มีทั้งการห้ามการแบ่งดินแดนและการล้มล้างรัฐธรรมนูญ เขียนไว้ชัดเจน ตนไม่ต้องไปแตะอะไรอยู่แล้ว เราต้องทำให้ไม่มีการปฏิวัติ ตนพูดมาตลอดว่าอย่าสร้างเงื่อนไขให้มีการทำปฏิวัติรัฐประหาร เพราะไม่ดีสำหรับประเทศชาติ
เมื่อถามต่อว่า ประยุทธ์ ศิริพานิชย์ สส. แบบบัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ในฐานะผู้เสนอร่างดังกล่าว ให้เหตุผลการถอนร่างครั้งนี้ว่าเพื่อกลับมาแก้ไข หากพรรคเพื่อไทยจะเสนออีกครั้งจะต้องพูดคุยกับพรรคร่วมรัฐบาลก่อนหรือไม่ อนุทินกล่าวว่า จะต้องพูดคุยกันอยู่แล้ว เป็นพรรคร่วมรัฐบาลก็ต้องพูดคุยกัน อย่างกรณีของประยุทธ์ก็เสนอในฐานะ สส. เราไม่จำเป็นจะต้องไปอ่านอะไร ดูแค่หลักการ ตนก็ต้องพูดในส่วนของพรรคภูมิใจไทย ไม่ได้พูดในฐานะรัฐบาลว่าพรรคภูมิใจไทยไม่เห็นด้วยกับเรื่องพวกนี้ เพราะมันมีอยู่แล้ว ไม่ต้องไปแตะ เราต้องทำไม่ให้เกิดการปฏิวัติรัฐประหาร เป็นการพูดตามเนื้อผ้าและเจตนารมณ์ของพรรคภูมิใจไทย
เมื่อถามต่อว่า ทักษิณออกมาระบุว่า หลังจากนี้พรรคร่วมรัฐบาลจะต้องพูดคุยกันมากขึ้น อนุทินกล่าวว่า เราเป็นพรรคร่วม ไม่ใช่พรรคแกนนำ ไม่ว่าพรรคแกนนำจะทำอะไรก็ต้องเรียกพรรคร่วมไปหารือ ต้องดูว่าในส่วนของพรรคภูมิใจไทยมีอะไรที่นายกรัฐมนตรีหรือพรรคแกนนำประสานหารือแล้วเราไม่ให้ความร่วมมือหรือไม่ ยืนยันว่า ไม่มีแม้แต่เรื่องเดียว และทุกเรื่องสำเร็จโดยเร็ว
ส่วนที่หลายฝ่ายตั้งข้อสังเกตว่า การที่ทักษิณออกมาเคลื่อนไหวเป็นการกลบบารมีของนายกฯ หรือไม่ อนุทินกล่าวว่า ถามแบบนี้ไปเพื่ออะไร เวลาตนเคารพนับถือใครไม่ขอวิพากษ์วิจารณ์ พอเราเคารพนับถือแล้ว และเมื่อรู้สึกว่ามีอะไรไม่ถูกต้องก็ต้องไปชี้แจง แต่ตอนนี้ไม่มีวันที่ตนจะไปต่อล้อต่อเถียง เห็นแย้ง หรือตอบโต้อะไรกับทักษิณเป็นอันขาด เพราะเป็นผู้ที่มีพระคุณต่อตน 20-30 ปีแล้ว ฉะนั้นตรงนี้ไม่ต้องถาม
เมื่อถามต่อว่า เหมือนทักษิณคิด เพื่อไทยทำ ภูมิใจไทยเบรก อนุทินกล่าวว่า ไม่ใช่ ภูมิใจไทยหนุนหากเป็นประโยชน์กับประเทศชาติและประชาชน ไม่เห็นมีเรื่องไหนที่เบรกเลย เบรกเมื่อไร เบรกกี่โมง
เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงกรณี Entertainment Complex และคาสิโน อนุทินปฏิเสธว่า ไม่ใช่ไม่เห็นด้วยที่จะมีคาสิโน แต่ยังไม่คุยกันในรายละเอียดว่าในร่าง พ.ร.บ. จะเป็นอย่างไร พ.ร.บ.การพนันจะเป็นอย่างไร และใครเป็นคนถือ จะบริหารเรื่องนี้อย่างไร ขณะนี้ยังไม่เริ่มคุยกันเลยในพรรคร่วมรัฐบาล ยืนยันว่า ตนไม่ได้เบรก
ส่วนการแก้ไขรัฐธรรมนูญรายมาตราจะมีความเป็นไปได้มากกว่าทั้งฉบับตามที่ วิษณุ เครืองาม อดีตรองนายกรัฐมนตรีเคยเสนอหรือไม่ อนุทินกล่าวว่า ยังไม่ได้หารือกัน
เมื่อถามว่า 3 เดือนที่ผ่านมาพรรคร่วมรัฐบาลพูดคุยกันน้อยมากใช่หรือไม่ อนุทินกล่าวว่า คุยกันเรื่องงานและเรื่องที่เป็นประโยชน์ พร้อมยกตัวอย่างเรื่องการจ่ายเงินเยียวยา 9,000 บาทให้กับประชาชนที่ประสบอุทกภัย ที่ถึงมือชาวบ้านทั่วประเทศอย่างรวดเร็ว
ผู้สื่อข่าวจึงถามย้ำว่า เรื่องการเมืองคุยกันน้อยมากใช่หรือไม่ อนุทินกล่าวว่า การเมืองจะมีอะไร รัฐบาล 320 เสียงก็แน่นดีอยู่แล้ว ไม่มีอะไรที่จะต้องไปแก้ไขเร่งด่วนในตอนนี้ ตอนนี้ต้องทำงานให้กับประชาชน พร้อมระบุว่า งบประมาณปี 2567 เพิ่งจะได้ใช้ยังไม่ถึง 2 เดือน ยังไม่มีเรื่องอะไรต้องวิตกกังวล
เมื่อถามว่า การเมืองท้องถิ่นกับการเมืองระดับประเทศจะมีการเปิดหน้าสู้กันอย่างชัดเจนหรือไม่ อนุทินกล่าวว่า นายก อบจ. เลือกตั้งทั่วประเทศในเวลาเดียวกัน ทุกคนก็ต้องเร่งหาเสียงและใช้กุศโลบายให้ได้รับความไว้วางใจ เดี๋ยวจะไม่ได้เลือกแค่นายก อบจ. อย่างเดียว จะมีสมาชิกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (ส.อบจ.) ด้วย ก็ไม่ต่างอะไรกับการเลือกตั้งใหญ่ เพราะ ส.อบจ. เป็นเรื่องของเขต ส่วน อบจ. เป็นเรื่องของจังหวัด กระทรวงมหาดไทยมีหน้าที่ทำให้การเลือกตั้งผ่านไปได้ด้วยดีและราบรื่นที่สุด
เมื่อถามต่อว่า จะเป็นการวัดพลังก่อนเลือกตั้งสนามใหญ่ใช่หรือไม่ อนุทินกล่าวว่า สนามใหญ่และสนามท้องถิ่นกินแห้วไปกี่คนแล้วที่คิดว่าได้แน่ๆ ทางที่ดีคือทำให้ประชาชนไว้วางใจ
เมื่อถามว่า พรรคภูมิใจไทยมั่นใจใช่หรือไม่ อนุทินกล่าวว่า มั่นใจ และนโยบายของพรรคภูมิใจไทยก็ได้รับการสนับสนุนจากนายกฯ นายกฯ ต้องการให้เราดำเนินการอะไรเราก็ดำเนินการ ทุกคนทำงานสนองนโยบายและข้อสั่งการของนายกฯ