เอกลาภ ยิ้มวิไล ประธานผู้บริหารและผู้ร่วมก่อตั้ง Zipmex ประเทศไทย เปิดเผยว่า นับตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2563 ที่ Zipmex เข้ามาดำเนินกิจการในประเทศไทยจนถึงขณะนี้ได้รับการตอบรับจากผู้ลงทุนเป็นอย่างดี พบว่าคนไทยให้ความสนใจและก้าวเข้าสู่การลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัลเป็นจำนวนมาก ซึ่งในปี 2564 นี้ Zipmex มีสินทรัพย์เพิ่มขึ้น 450% มีมูลค่าซื้อขายเฉลี่ยสูงกว่าปีที่ผ่านมา 4,800% และมีจำนวนผู้ใช้งานเพิ่มขึ้นกว่า 700,000 คน
ทั้งนี้ ไม่เพียงธุรกิจของ Zipmex ในไทยจะเติบโตอย่างรวดเร็ว ภาพรวมในระดับภูมิภาคทั้งในสิงคโปร์ อินโดนีเซีย และออสเตรเลีย ก็ขยายตัวในระดับสูง โดย Zipmex คาดว่าเทรดดิ้งวอลุ่มจะเพิ่มขึ้นถึงหมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐภายในไตรมาสที่ 2 ของปี 2565 ปัจจุบันสินทรัพย์ของบริษัทรวมทุกประเทศเพิ่มขึ้นถึง 8 เท่าในปีที่ผ่านมา โดยมีจำนวนลูกค้าที่ทำการลงทะเบียนกับ Zipmex กว่า 1.5 ล้านคน คิดเป็นการเติบโตถึง 18 เท่าในปีนี้ ส่งผลให้ Zipmex เป็นหนึ่งในแพลตฟอร์มแลกเปลี่ยนสินทรัพย์ดิจิทัลชั้นนำของอาเซียนที่เติบโตแบบก้าวกระโดด
นอกจากการลงทุนแล้ว การให้บริการการออมสินทรัพย์ออมดิจิทัลในแพลตฟอร์มของ Zipmex ก็มีการขยายตัวในระดับสูง จากผลิตภัณฑ์ ZipLock ที่ให้ผลตอบแทนสูงสุดถึง 14% ต่อปี
นอกจากมิติทางด้านมูลค่าทางเศรษฐกิจที่เติบโตขึ้นอย่างมีนัยสำคัญด้วยระยะเวลาการดำเนินงานเพียง 1 ปีแล้ว จำนวนพนักงาน Zipmex ยังเพิ่มขึ้นจากเดิมประมาณ 70 คนทั่วโลกเป็น 400 คน โดยประเทศไทยถือเป็นประเทศแรกในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่ Zipmex ได้รับใบอนุญาตการประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล
ทั้งนี้ ปัจจัยสำคัญที่ทำให้ Zipmex มีการเติบโตและได้รับความมั่นใจจากผู้ใช้บริการเป็นจำนวนมาก ได้แก่
- มีการระดมทุนจากนักลงทุนระดับสากล ในการระดมทุนรอบ Series B มูลค่า 41 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (เทียบเป็นเงินมูลค่ากว่า 1,300 ล้านบาท) ซึ่งนำโดย B Capital, TNB Aura, Krungsri Finnovate, MindWorks, Jump Capital, V Ventures, Plan B และ MACO ซึ่งนับเป็นครั้งแรกที่บริษัทที่จดทะเบียนอยู่ในตลาดหลักทรัพย์ ธนาคาร และ Venture Capitalist ระดับโลกได้ร่วมลงทุนในแพลตฟอร์มสินทรัพย์ดิจิทัลด้วยกัน ทำให้ Zipmex มีมูลค่าหลักหลายร้อยล้านดอลลาร์สหรัฐ และกำลังมุ่งไปสู่การเป็นบริษัทที่มีมูลค่าหลักพันล้านดอลลาร์สหรัฐในไม่ช้านี้
- เป็นแพลตฟอร์มที่มีจำนวนเหรียญมากที่สุดในประเทศไทยถึง 59 เหรียญให้เลือกลงทุน และมีค่าธรรมเนียมการเทรดที่ต่ำที่สุดในตลาดประเทศไทย (0.1%) อีกทั้งยังเป็นแพลตฟอร์มที่สามารถมอบผลตอบแทนหรือโบนัส จากการฝากสินทรัพย์ดิจิทัลอย่าง BTC, ETH, LTC, USDC, USDT และ ZMT สูงสุดถึง 14% ต่อปี ผ่านโปรแกรมการฝากประจำ ZipLock นับเป็นการส่งเสริมการออมสำหรับนักลงทุนสินทรัพย์ดิจิทัลอีกทางหนึ่งด้วย
- ได้รับใบอนุญาตประกอบธุรกิจหลักทรัพย์จากกระทรวงการคลังประเภทนายหน้าซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล (Digital Asset Broker) เพิ่มเติมจากใบอนุญาตศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล (Digital Asset Exchange) และดำเนินการภายใต้การกำกับดูแลของคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย โดยการดำเนินการประเภทนายหน้าซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลจะทำให้ Zipmex สามารถเพิ่มสภาพคล่อง (Liquidity) ในกระดานซื้อขายและทำให้สามารถเสนอราคาสินทรัพย์ดิจิทัลที่ดียิ่งขึ้นให้กับลูกค้าของ Zipmex นอกจากนี้ Zipmex ยังได้มีการพัฒนาแพลตฟอร์มอย่างต่อเนื่องทั้งด้านระบบความปลอดภัย การรับรองและยืนยันตัวตนของนักลงทุน หรือ Know Your Customer (KYC) ที่มีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้น รวดเร็วขึ้น
เอกลาภกล่าวว่า Zipmex ยังคงยืนหยัดที่จะสร้างสรรค์นวัตกรรมด้านการเงินดิจิทัลใหม่ๆ ที่หลากหลาย ตอบสนองต่อทุกไลฟ์สไตล์ในปัจจุบัน เพื่อส่งเสริมวิถีชีวิตแบบสังคมไร้เงินสด รวมถึงพัฒนาและต่อยอดผลิตภัณฑ์และการบริการอย่างต่อเนื่อง ภายใต้แนวคิดหลัก 4 ประการคือ
- การลงทุน (Invest) ส่งเสริมให้เกิดการลงทุนด้านสินทรัพย์ที่เหมาะสม นักลงทุนมีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับสินทรัพย์ดิจิทัลและเงินสกุลดิจิทัลมากขึ้น
- การออม (Save) เพื่อเสริมสร้างวินัยทางการเงินและความั่งคั่งอย่างยั่งยืน ผ่านโปรแกรมการออมต่างๆ ที่ออกแบบมาเพื่อตอบสนองรูปแบบทางการเงินที่เหมาะสมกับทุกกลุ่มนักลงทุน ทั้งการฝากแบบยืดหยุ่น การฝากประจำ ที่เปิดโอกาสให้ลูกค้าได้รับผลตอบแทนสูงสุดถึง 14% ต่อปี จาก Zipmex Token (ZMT), Bitcoin, Ethereum รวมถึง Stablecoin หรือสินทรัพย์ดิจิทัลที่สามารถคงมูลค่าไว้คงที่ได้ตลอดเวลา เช่น USDT
- การใช้จ่าย (Pay) ซึ่งสอดคล้องกับทิศทางสังคมไร้เงินสด (Cashless Society) ผ่านพันธมิตรในหลากหลายกลุ่มอุตสาหกรรม เพื่อช่วยเสริมสร้างและส่งเสริมรูปแบบการชำระเงินปรับตัวเข้าสู่โลกแห่งสินทรัพย์ดิจิทัลมาชำระค่าสินค้าและบริการอย่างแพร่หลายและเข้าถึงง่าย ผ่านการจับมือกับพันธมิตรโดย Zipmex Asia ได้มีการเพิ่มความสะดวกสบายในการใช้จ่ายจากโปรแกรมการชำระเงินกับ Visa เพื่อเพิ่มตัวเลือกให้ลูกค้ามีตัวเลือกในการเข้าถึงร้านค้า 70 ล้านรายในเครือข่ายทั่วโลกของ Visa เป็นส่วนหนึ่งของแผนการดำเนินการระดับภูมิภาคของ Zipmex รวมถึงการให้ความรู้เกี่ยวกับเทคโนโลยีและความคืบหน้าของสินทรัพย์ดิจิทัลแก่ผู้ใช้งาน
- ประสบการณ์เหนือระดับ (Experience) ที่จะช่วยให้นักลงทุนหรือผู้ใช้บริการสามารถเข้าถึงประสบการณ์เอ็กซ์คลูซีฟมากมายจาก ZipWorld ซึ่งเป็นไลฟ์สไตล์แพลตฟอร์มรูปแบบใหม่ที่ได้รวบรวมสินค้าและบริการอันมีลักษณ์เฉพาะ และกำลังมุ่งหน้าดำเนินการต่อยอดไปยังสินทรัพย์ดิจิทัลและเทคโนโลยีรูปแบบใหม่ เช่น NFT และ Metaverse
“ปี 2564 ถือเป็นปีที่น่าตื่นเต้นสำหรับทั้ง Zipmex และตลาดคริปโตในประเทศไทย คนส่วนใหญ่หันมาให้ความสนใจและได้รับความเชื่อถือมากขึ้น ดังจะเห็นได้ว่าตลอดปีที่ผ่านมามีความร่วมมือหรือข้อตกลง (Partnership) ที่เกิดขึ้นจากกลุ่มทุน องค์กร หรือแม้กระทั่งสถาบันทางการเงินการธนาคารอย่างต่อเนื่อง เราเชื่อว่าตลาดคริปโตในไทยยังมีโอกาสเติบโตอีกมากจากฐานนักลงทุน และลูกค้าขนาดใหญ่มีกำลังซื้อสูง” เอกลาภกล่าว
ทั้งนี้ Zipmex ยังได้สร้างนวัตกรรมในการนำเงินดิจิทัลมาซื้อขายสินทรัพย์ได้จริง โดยได้ร่วมกับพันธมิตรทั้งด้านอสังหาริมทรัพย์ ผู้นำเข้ารถยนต์ชั้นนำ และกิจการอื่นๆ ในการนำเงินดิจิทัลเข้ามาใช้ในการซื้อขายสินค้าและบริการ รวมทั้งสร้างสรรค์ธุรกิจใหม่ๆ ร่วมกัน ส่งผลให้ในขณะนี้มีพันธมิตรจากหลากหลายอุตสาหกรรมชั้นนำ เช่น ยานยนต์ อสังหาริมทรัพย์ สถาบันการเงิน เทคโนโลยี สื่อบันเทิง ความงามและสุขภาพ การบริการ เฟอร์นิเจอร์และศิลปะ รวมหลากหลายราย ได้แก่ CMC Group, ธนาคารกรุงศรีอยุธยา, GMM Grammy, Grand Asset Hotels, Major Cineplex, MQDC, The 1, SC Asset, Siam Piwat รวมไปถึงแบรนด์ชั้นนำ เช่น A.G. Cars and Marines, B Autohaus, Cavallino Motors, DJI13, Mirage, Omazz, Renazzo Motor, StockRadars, The Brooker Group, Trisara, Wasutha Group และอื่นๆ ที่กำลังจะตามมา
“ในช่วงที่ผ่านมา ลูกค้าของ Zipmex ได้นำเงินดิจิทัลเข้ามาซื้อขายสินค้าอย่างหลากหลาย โดย Zipmex ได้จับมือกับศูนย์การค้าสยามพารากอนเพื่อจัด 2 กิจกรรมสำหรับผู้สนใจลงทุนสินทรัพย์ดิจิทัล เปิดประสบการณ์ Crypto Arcade และ Experience Center เพื่อให้ความรู้ก่อนการลงทุนในคริปโต ที่จะทำให้ทุกคนเข้าถึงคริปโตได้ง่ายขึ้น โดยการบริการเปิดบัญชีที่มาพร้อมกับ Customer Support ที่จะคอยอำนวยความสะดวกในทุกขั้นตอนการเริ่มการลงทุนในคริปโตและการจัดเวิร์กช็อปเพื่อให้ความรู้จากผู้เชี่ยวชาญ Zipmex จะขยายความร่วมมือกับพันธมิตร และขยายการใช้เงินดิจิทัลให้มากขึ้น” เอกลาภกล่าว
นอกจากนี้จะเร่งขยายจำนวนผู้ใช้เงินดิจิทัลให้มากขึ้น เนื่องจากประเทศไทยมีศักยภาพในธุรกิจเงินดิจิทัลสูงมาก เพราะมีประชากรสูงถึง 70 ล้านคน มีกำลังซื้อสูง และมีพื้นฐานความรู้สูง ซึ่งในปัจจุบันประเทศไทยมีผู้เปิดบัญชีสินทรัพย์ดิจิทัลเพียง 1.6-1.7 ล้านคน
ช่องทางติดตาม THE STANDARD WEALTH
Twitter: twitter.com/standard_wealth
Instagram: instagram.com/thestandardwealth
Official Line: https://lin.ee/xfPbXUP