สรุปปฏิบัติการจับกุม ยุนซอกยอล ประธานาธิบดีเกาหลีใต้คนแรกในประวัติศาสตร์

กำลังตำรวจเกาหลีใต้กว่า 3,000 นาย พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่สำนักงานสืบสวนการทุจริตสำหรับเจ้าหน้าที่ระดับสูง หรือ CIO (Corruption Investigation Office for High-ranking) ประสบความสำเร็จในการบุกจับกุมตัว ยุนซอกยอล ประธานาธิบดีเกาหลีใต้ ที่ถูกสมาชิกรัฐสภาโหวตถอดถอนจากตำแหน่ง โดยบุกเข้าไปยังบ้านพักในใจกลางกรุงโซล และบังคับใช้หมายจับเป็นครั้งที่ 2 หลังจากที่ครั้งแรกเมื่อวันที่ 3 มกราคม ประสบความล้มเหลว

โดยยุนถูกนำตัวขึ้นรถไปยังสำนักงาน CIO เพื่อดำเนินการสอบปากคำในคดีก่อกบฏจากการประกาศกฎอัยการศึกเมื่อวันที่ 3 ธันวาคม 2024

ซึ่งหลังจากนี้ในอีก 48 ชั่วโมง เขาจะถูกส่งตัวไปคุมขัง และกลายเป็นประธานาธิบดีเกาหลีใต้ที่ยังอยู่ในตำแหน่งคนแรกในประวัติศาสตร์ที่ถูกคุมขัง

และนี่คือรายละเอียดของปฏิบัติการบุกจับที่เกิดขึ้น

เกิดอะไรขึ้นบ้าง?

ปฏิบัติการจับกุมมีขึ้นตั้งแต่เวลาประมาณ 04.20 น. ของวันนี้ (15 มกราคม) ตามเวลาท้องถิ่นของเกาหลีใต้ ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจนับพันนายต้องพยายามฝ่ากลุ่มผู้สนับสนุนประธานาธิบดียุนหลายพันคนเข้าไปยังบ้านพัก และเกิดการปะทะกับผู้ชุมนุมบางส่วนจนมีผู้ได้รับบาดเจ็บ

ขณะที่หน่วยอารักขาได้นำรถยนต์หลายคันมาจอดกีดขวางทางเข้า และยังมีกลุ่ม สส. จากพรรค People’s Power ของยุนกว่า 20 คน พร้อมทีมทนาย มาขวางประตูทางเข้า ทำให้เจ้าหน้าที่ CIO ต้องใช้บันไดปีนเข้าภายในบริเวณบ้านและบางคนหาทางเข้าจากเส้นทางเดินป่าที่อยู่ใกล้เคียง

ไม่ปะทะหน่วยอารักขา

อย่างไรก็ตาม การบุกจับกุมในครั้งนี้แตกต่างจากครั้งแรก เนื่องจากไม่มีเจ้าหน้าที่อารักขาประธานาธิบดีเข้าขัดขวาง ส่งผลให้ไม่เกิดการปะทะ ขณะที่ คิมซองฮุน รักษาการหัวหน้าหน่วยอารักขาประธานาธิบดี ก็ถูกจับกุมจากการที่พยายามขัดขวางการบังคับใช้หมายจับครั้งแรก

ภายหลังเจ้าหน้าที่ CIO บุกเข้าไปในบ้านได้สำเร็จ ก็มีการเจรจากับทีมทนายความเพื่อให้ยุนสมัครใจเข้ารับการสอบปากคำ ซึ่งทีมทนายพยายามโต้แย้งว่าการออกหมายจับนั้นไม่ถูกต้องและการดำเนินการสืบสวนขัดต่อรัฐธรรมนูญ อีกทั้งยังเป็นการเผยแพร่ข้อมูลเท็จ

ภายหลังการเจรจานานหลายชั่วโมง ในเวลา 10.33 น. ตามเวลาท้องถิ่นของเกาหลีใต้ ทางการเกาหลีใต้ยืนยันว่าได้บังคับใช้หมายจับและจับกุมตัวประธานาธิบดียุนแล้ว ก่อนที่จะนำเขาขึ้นรถ และขบวนรถเดินทางไปยังสำนักงาน CIO เพื่อดำเนินการสอบสวนในคดีก่อกบฏจากการประกาศกฎอัยการศึกและใช้อำนาจโดยมิชอบเมื่อวันที่ 3 ธันวาคม 2024

หลังจากนี้ในอีก 48 ชั่วโมง ยุนจะถูกนำตัวไปคุมขังที่ศูนย์กักกันในเมืองอึยวัง จังหวัดคยองกี ทางใต้ของกรุงโซล

โดยประธานาธิบดียุนวัย 64 ปีที่ยังไม่พ้นจากตำแหน่งอย่างเป็นทางการจนกว่าศาลรัฐธรรมนูญจะลงมติถอดถอนภายในเวลา 180 วันนับตั้งแต่วันที่โหวตถอดถอนในสภาคือเมื่อวันที่ 14 ธันวาคม จะกลายเป็นประธานาธิบดีเกาหลีใต้ที่ยังอยู่ในตำแหน่งคนแรกในประวัติศาสตร์ที่ถูกคุมขัง

ไม่อยากให้นองเลือด

ทั้งนี้ หลังถูกจับกุมไม่นาน คลิปวิดีโอแถลงการณ์ของยุนที่บันทึกไว้ล่วงหน้าก็ถูกเผยแพร่ออกมา โดยเขาอ้างอีกครั้งว่า “การสอบสวนเขาเป็นสิ่งที่ผิดกฎหมาย” และเขายอมปฏิบัติตามเจ้าหน้าที่เพื่อ “ป้องกันการนองเลือดอันน่าอับอาย” เท่านั้น

“หลังจากเห็นพวกเขา (เจ้าหน้าที่ CIO) ใช้อุปกรณ์ดับเพลิงเพื่อบุกรุกพื้นที่ปลอดภัยในวันนี้ ผมจึงตัดสินใจยอมรับการสืบสวนของ CIO แม้ว่าจะผิดกฎหมายก็ตาม เพื่อป้องกันการนองเลือดอันน่าอับอาย แต่ผมไม่ยอมรับการสืบสวนของ CIO” ยุนกล่าว และชี้ว่า “เป็นเรื่องน่าเสียดายที่ได้เห็นหน่วยงานสืบสวนออกเอกสารราชการปลอมเพื่อหลอกลวงประชาชน และบังคับใช้หมายจับที่ไม่ถูกต้องตามกฎหมาย ได้เห็นหมายจับออกให้กับหน่วยงานที่ไม่มีสิทธิในการสืบสวน และเห็นศาลที่ไม่มีสิทธิพิจารณาหมายจับ ออกหมายจับ และหมายค้น”

อ้างอิง: