×

‘วายแอลจี’ แนะ จับตาจีนคุมเข้มกลุ่มเทคฯ กดดันตลาดหุ้น ดันเงินไหลเข้าทองคำ

21.08.2021
  • LOADING...
Gold Market

วายแอลจีเผย ทองคำเริ่มมีแรงซื้อระยะสั้นพยุงราคา หลังนักลงทุนเลี่ยงความเสี่ยงเข้าซื้อสินทรัพย์ปลอดภัย แต่แรงซื้อยังเป็นระยะสั้น เหตุมีปัจจัยลบต้องจับตาคือเงินดอลลาร์ที่อาจแข็งค่า และผลประชุม Fed ที่แจ็กสันโฮลในปลายสัปดาห์นี้ (วันที่ 26-28 สิงหาคม) ส่วนปัจจัยบวกต่อทองคำมีทั้งการฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่ช้ากว่าคาด จากผลกระทบเดลตาและจีนเข้มกฎระเบียบหุ้นเทคฯ​ ซึ่งจะทำให้เงินไหลเข้าสินทรัพย์ปลอดภัยเพิ่ม พร้อมมองแนวต้านระยะสั้นที่ 1,796-1,814 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ แนวรับระยะสั้น 1,768-1,751 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ 

 

พวรรณ์ นววัฒนทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (YLG) ผู้นำเข้าและส่งออกทองคำแท่งรายใหญ่ของไทย กล่าวว่า ในระยะนี้นักลงทุนต้องจับตาว่าราคาทองคำจะเคลื่อนไหวไปแบบไหน เพราะแม้จะมีสัญญาณบวกในระยะสั้น แต่ระยะกลางยังเป็นสัญญาณอ่อนตัว โดยเฉพาะราคาทองคำในประเทศที่ขณะนี้ได้รับผลกระทบจากเงินบาทแข็งค่าช่วงสั้นๆ

 

โดยปัจจัยที่มีผลกระทบต่อราคาทองคำในช่วงนี้มีทั้งปัจจัยลบและปัจจัยบวก โดยในด้านปัจจัยลบนั้นมาจากกองทุน SPDR ซึ่งเป็นกองทุนทองคำขนาดใหญ่ขายทองคำออกมาอย่างต่อเนื่อง ทำให้ราคาทองคำกลับมามีสัญญาณชะลอตัวหรือขยับขึ้นอย่างจำกัด รวมถึงปัจจัยของค่าเงินดอลลาร์สหรัฐที่ต้องจับตามอง 

 

ส่วนปัจจัยบวก ทองคำยังได้รับแรงหนุนจากการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงที่ถูกกดดันจากผลกระทบการระบาดของโควิด และกรณีที่จีนมีนโยบายป้องปรามการขยายตัวของธุรกิจเทคโนโลยี ห้ามการผูกขาด ห้ามแข่งขันที่ไม่เป็นธรรม ทำให้หุ้นในจีนปรับฐานและอ่อนตัวลงในช่วงหลายวันที่ผ่านมาอย่างชัดเจน ทั้งนี้ บริษัทเทคโนโลยีของจีนนั้นจดทะเบียนทั้งในตลาดหุ้นจีนและสหรัฐฯ จึงอาจส่งผลกระทบในวงกว้าง ประเด็นนี้จึงเป็นหนึ่งปัจจัยที่พยุงทองคำให้ไม่ปรับตัวลดลงไปอย่างรวดเร็ว

 

ทั้งนี้ ราคาทองคำปรับลดค่อนข้างมากในสัปดาห์ก่อน แต่ในระยะสั้นเริ่มมีการดีดกลับ แต่ก็ยังมีแรงขายเมื่อปรับตัวขึ้นไปถึงแนวต้าน ทำให้การเคลื่อนไหวในช่วงนี้จะยังเป็นการแกว่งตัวในกรอบ อย่างไรก็ดี สาเหตุที่ราคาทองคำไม่ได้ปรับลดลงอย่างรวดเร็วเช่นสัปดาห์ก่อน เนื่องจากนักลงทุนวิตกเกี่ยวกับสถานการณ์ในอัฟกานิสถาน การที่จีนคุมเข้มกฎระเบียบในบริษัทกลุ่มเทคโนโลยี และการระบาดของโควิดสายพันธุ์เดลตา ส่งผลให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ​ อายุ 10 ปี ปรับตัวลดลงจากแรงซื้อพันธบัตรในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย ส่งผลให้ตลาดทองคำยังคงปรับตัวลดลงอย่างจำกัด

 

โดยเมื่อต้นสัปดาห์ ราคาทองคำได้ปรับตัวขึ้นไปทำจุดสูงสุดที่ 1,795 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ แต่เป็นแนวโน้มการปรับขึ้นในระยะสั้น แม้ต้นสัปดาห์จะปรับขึ้นมาค่อนข้างดี แต่เมื่อทองคำเข้าใกล้แนวต้านจะมีแรงขายออกมา แต่แรงขายก็ไม่ได้ทำให้ทองคำปรับลงมามาก 

 

สำหรับปัจจัยทางเทคนิค หากทองคำมีแรงซื้อเข้ามาอย่างต่อเนื่องและขึ้นไปยืนเหนือ 1,800 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ จะทำให้มีโอกาสปรับตัวได้อีก แม้ว่าทิศทางทองคำระยะกลางยังเป็นลักษณะอ่อนตัวลง แต่หากราคาไม่มีระดับต่ำสุดใหม่ และมีปัจจัยบวกมาหนุนจากการไหลเข้าของเงินทุนที่ไหลออกจากการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยง โดยเฉพาะตลาดหุ้น ก็มีโอกาสปรับขึ้นได้ 

 

โดยมองแนวต้านระยะสั้นที่ 1,796 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ หรือ 28,350 บาท หากผ่านได้มีโอกาสทดสอบ 1,814 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ หรือ 28,650 บาท ด้านแนวรับ 1,768 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ หรือ 27,900 บาท โดยมีแนวรับสำคัญที่ 1,751 หรือ 27,650 บาท

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising