×

นักกฎหมายชี้หากยิ่งลักษณ์ป่วยจริงต้องตามตัวเจอ ย้ำสังคมต้องให้ความเป็นธรรม

25.08.2017
  • LOADING...

HIGHLIGHTS

2 Mins. Read
  • รศ.ดร. เจษฎ์ โทณะวณิก นักวิชาการด้านกฎหมาย มองว่ายิ่งลักษณ์อาจป่วยจริง คงต้องให้ความเป็นธรรม แต่หลังจากนี้คงต้องดูว่าป่วยอยู่ที่ไหน ตามตัวเจอหรือไม่ หากไม่เจออาจหมายถึงความพยายามหลบหนี
  • นอกจากยิ่งลักษณ์แล้ว ยังมีบุคคลในแวดวงการเมืองหลายคนที่เคยอ้างต่อศาลว่าป่วยไม่สามารถเดินทางมาศาลได้ ทั้งอดีตแกนนำพันธมิตรฯ อดีตแกนนำ นปช. หรือแม้แต่ ส.ส. พรรคเพื่อไทย

     นับเป็นเหตุการณ์พลิกความคาดหมาย เมื่อนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และจำเลยในคดีจำนำข้าวได้ให้ทนายยื่นคำร้องต่อศาลว่าป่วยด้วยโรคน้ำในหูไม่เท่ากัน มีอาการวิงเวียนศีรษะอย่างรุนแรง และไม่สามารถเดินทางมาฟังคำพิพากษาที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งการทางการเมืองได้

     ต่อกรณีนี้ THE STANDARD สอบถามความคิดเห็นไปยัง รศ.ดร. เจษฎ์ โทณะวณิก นักวิชาการด้านกฎหมาย คณบดีบัณฑิตวิทยาลัย คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยสยาม ซึ่ง รศ.ดร. เจษฎ์ ระบุว่าส่วนตัวคิดว่าเรื่องนี้คงต้องมองอย่างเป็นกลาง และให้ความเป็นธรรมกับอดีตนายกฯ ว่าอาจจะป่วยจริง แต่ถึงอย่างนั้นคงต้องจับตาดูสถานการณ์หลังจากนี้ด้วย

     “หลังจากนี้คงต้องดูกันว่าที่ว่าป่วยจริงเธอป่วยอยู่ที่ไหน ถ้าป่วยอยู่ที่บ้านแปลว่าไปตามที่บ้านต้องเจอ ถ้าป่วยอยู่โรงพยาบาลก็ต้องมีโรงพยาบาลสักแห่งในประเทศนี้ที่เธอรักษาตัวอยู่ หรือถ้าป่วยอยู่ ณ สถานที่หนึ่งสถานที่ใดไปตามก็ต้องเจอ ถ้าเป็นกรณีแบบนี้ ในเมื่อออกหมายจับแล้วก็ต้องดำเนินการตามหมายจับ ถ้าหากว่าป่วยจริงก็ต้องมีเหตุที่เธอจะต้องได้รับการประกันตัว

     “แต่หากบอกว่าป่วย แต่หาตัวไม่เจอ คราวนี้ก็ต้องกลายเป็นว่าหนี ซึ่งก็คงต้องตามตัว และแจ้งไปที่สนามบินทุกแห่ง ด่านทุกด่านที่จะสามารถออกจากประเทศนี้ไปได้ สมมติว่าตามจับตัวได้ ทีนี้ก็ต้องดูว่าเมื่อเกิดกรณีแบบนี้ขึ้นสมควรให้ประกันตัวหรือไม่ ซึ่งก็ต้องติดตามดูกันต่อไป”

     นอกจากนี้ รศ.ดร. เจษฎ์ ยังให้มุมมองว่าในคดีทั่วๆ ไป หากจำเลยดำเนินการอย่างตรงไปตรงมาและเปิดเผย ควรจะแจ้งต่อศาลว่าป่วยอยู่ที่ไหน ป่วยด้วยโรคอะไร และอาการป่วยนั้นหนักหนาสาหัสถึงขนาดไม่สามารถเดินทางมาศาลได้จริงๆ ซึ่งส่วนใหญ่ต้องให้ทนายความหรือผู้รับมอบอำนาจถือใบรับรองจากแพทย์ผู้ทำการรักษามายื่นต่อศาล เพื่อให้มีความชัดเจนว่าป่วยจริงๆ แต่หากในภาวะฉุกเฉินที่ไม่สามารถดำเนินการได้ทัน เช่น ศาลนัดตอนบ่าย แต่เกิดป่วยตอนเช้า กรณีแบบนี้อาจให้ตัวแทนมายื่นใบรับรองแพทย์ในภายหลังได้

     “ลองคิดดูว่าถ้าเราเป็นคุณยิ่งลักษณ์ซึ่งมีโอกาสจะถูกจำคุก แม้ว่ามีโอกาสจะอุทธรณ์ แต่อุทธรณ์แล้วก็อาจไม่เป็นผล เขาก็อาจจะรู้สึกหวาดกลัวได้ ยิ่งถ้ามีโรคประจำตัวอย่างน้ำในหูไม่เท่ากัน หรือโรคที่เกี่ยวข้องกับระบบประสาทจริงๆ ก็สามารถประสาทเสียล้มหมอนนอนเสื่อภายใน 5 นาที 10 นาทีจริงๆ นะครับ เพราะฉะนั้นเราก็ต้องมองในแง่นี้ด้วย”

     รศ.ดร. เจษฎ์ ทิ้งท้ายว่า “มันอาจจะเป็นแท็กติกก็ได้ หรืออาจจะเป็นจริงก็ได้ ถ้าจะใช้แท็กติกจริงๆ ก็ใช้ได้หลายวิธี วิธีนี้อาจจะเป็นทางเลือกหนึ่งเท่านั้นเอง”

     ทั้งนี้เบื้องต้นศาลได้ออกหมายจับนางสาวยิ่งลักษณ์ และริบเงินประกันตัว 30 ล้านบาท เนื่องจากพิเคราะห์แล้ว เห็นว่า ไม่เชื่อว่าจำเลยเจ็บป่วยจนถึงขนาดมาศาลไม่ได้ และพฤติการณ์มีเหตุอันควรเชื่อว่าจำเลยหลบหนี ดังนั้นจึงให้เลื่อนไปฟังคำพิพากษาในวันที่ 27 กันยายน 2560 เวลา 9.00 น.

 

     ด้านสำนักข่าววอยซ์ทีวี รายงานว่าคำให้สัมภาษณ์ของนายนรวิชญ์ หล้าแหล่ง ทนายความของนางสาวยิ่งลักษณ์ที่ระบุว่า ขณะนี้ยังไม่ทราบว่า นางสาวยิ่งลักษณ์พักรักษาตัวที่โรงพยาบาลแห่งไหน และไม่ทราบด้วยว่ายังอยู่ในประเทศไทยหรือไม่

     เมื่อถามถึงกรณีที่มีการออกหมายจับแล้วนางสาวยิ่งลักษณ์ถูกจับกุมก่อนวันที่ 27 กันยายนนั้น นายนรวิชญ์ปฏิเสธจะให้สัมภาษณ์ถึงเรื่องนี้ โดยย้ำว่ายังไม่ทราบในกระบวนการ ส่วนกระบวนการติดตามจับกุมตัวนางสาวยิ่งลักษณ์ให้เป็นเรื่องของเจ้าหน้าที่

     โดยก่อนหน้านี้มีหลายกรณีที่บุคคลในแวดวงการเมืองอ้างว่าป่วย และไม่สามารถเดินทางมาศาลได้ อาทิ สมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ อดีตแกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย จำเลยในคดีบุกทำเนียบรัฐบาล ปี 2551 ที่อ้างว่าป่วย แต่ศาลไม่เชื่อ และสั่งให้ออกหมายจับ

     หรือกรณีของนายจตุพร พรหมพันธุ์ อดีต ส.ส. พรรคเพื่อไทย ที่ตกเป็นจำเลยในคดีหมิ่นประมาทนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ แต่เมื่อถึงเวลาที่ต้องเบิกความในฐานะพยานจำเลยปากแรก กลับให้ทนายความยื่นต่อศาลว่าไม่สามารถมาศาลได้ เนื่องจากป่วย มีอาการคลื่นไส้ อาเจียน พร้อมแนบเอกสารใบรับรองแพทย์​

     เช่นเดียวกับกรณีของนายอริสมันต์ พงษ์เรืองรอง อดีตแกนนำ นปช. ที่เป็นจำเลยในคดีหมิ่นประมาทนายอภิสิทธิ์ แต่ไม่สามารถเดินทางมาฟังคำพิพากษาได้ จึงให้ทนายความยื่นคำร้องขอเลื่อนนัดอ่านคำพิพากษาออกไปก่อน เนื่องจากปวดท้อง รักษาอาการที่โรงพยาบาล

     นับจากนี้คงต้องติดตามอย่างใกล้ชิดว่า คดีของนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร จะจบลงอย่างไร เช่นเดียวกับกองเชียร์ประชาชนจำนวนมากที่เดินทางมาให้กำลังใจอดีตนายกรัฐมนตรี ที่ต่างต้องผิดหวังไปตามๆ กัน ที่วันนี้ไร้เงานายกรัฐมนตรีในดวงใจ

 

อ้างอิง:

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising