วันนี้ (15 กันยายน) สุชาติ สวัสดิ์ศรี ศิลปินแห่งชาติ พร้อมตัวแทน ได้เดินทางมาที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ เพื่อยื่นหนังสือและข้อเรียกร้องต่ออธิการบดีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ในนามนักเขียน บรรณาธิการ ศิลปิน สื่อมวลชน และประชาชนผู้เชื่อมั่นในหลักการประชาธิปไตย หรือในเพจ ‘WAY’ พร้อมรวบรวมรายชื่อ ประชาชน 1,964 รายชื่อ มอบให้กับอธิการบดีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ โดยมอบผ่านให้ ณัฐธยาน์ มิตรมูลพิทักษ์ ผู้อำนวยการกองบริหารศูนย์ท่าพระจันทร์ มารับหนังสือแทน
ก่อนยื่นหนังสือ สุชาติอ่านแถลงการณ์ย้ำถึงข้อเรียกร้องทางการเมือง 3 ข้อ ได้แก่ “หยุดคุกคามประชาชน ร่างรัฐธรรมนูญใหม่ ยุบสภา และความฝันในการอยู่ร่วมกับสถาบันพระมหากษัตริย์ รวมถึงความเคลื่อนไหวให้ปฏิรูประบบการศึกษา ทั้งหมดนี้นอกจากจะไม่ได้มีเนื้อหาส่วนใดละเมิดกฎหมายแล้ว ยังสะท้อนให้เห็นถึงเจตจำนงของคนรุ่นใหม่ ความใฝ่ฝันที่จะเห็นสังคมดีขึ้นกว่าเดิม จึงเรียกร้องให้รัฐและผู้เห็นต่าง โต้แย้งด้วยข้อมูล ข้อเท็จจริง และเหตุผล หยุดให้ร้ายบิดเบือน ละเมิดเยาวชน นักเรียน นักศึกษา ด้วยวิธีการและท่วงทำนองต่ำทราม
และขอเรียกร้องให้คณะผู้บริหารมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ พิจารณาทบทวน เปิดพื้นที่ให้นักเรียน นักศึกษา เยาวชน และประชาชน ได้แสดงออกถึงจุดยืนทางการเมืองอันเป็นเรื่องพื้นฐาน สนับสนุนระบบดูแลความปลอดภัยในการชุมนุม แทนการปิดกั้นผลักไสให้ออกไปรับความเสี่ยงนอกรั้วมหาวิทยาลัย
สุชาติกล่าวว่า การชุมนุมของนักศึกษาดำเนินการภายใต้สิทธิและเสรีภาพตามรัฐธรรมนูญ แต่การที่มหาวิทยาลัยไม่อนุญาตเป็นการผลักนักศึกษาให้ไปเผชิญกับอันตรายนอกมหาวิทยาลัย และเห็นว่ามหาวิทยาลัยต้องเป็นหลังอิงของคนที่ต่อสู้เพื่อเสรีภาพและประชาธิปไตย ในฐานะที่เป็นศิษย์เก่าได้เห็นถึงความหลากหลายทางความคิด แต่การคิดจนเลยเถิดไปถึงการมองว่านักศึกษาบิดเบือนและละเมิดรัฐธรรมนูญ ถือเป็นความเห็นที่เลอะเลือน พร้อมยืนยันว่านักศึกษาไม่ได้เลอะเทอะ แต่มาใช้สิทธิตามรัฐธรรมนูญ การชุมนุมก็ปราศจากอาวุธ มหาวิทยาลัยจึงควรเป็นหลังอิงและดูแลการชุมนุมให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย จึงจะเป็นจิตวิญญาณของธรรมศาสตร์อย่างแท้จริงตามเจตนารมณ์ที่ยืนยัน มาโดยตลอดว่ามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์มีเสรีภาพทุกตารางนิ้ว
ส่วนข้อกังวลโดยเฉพาะข้อเรียกร้องสิทธิที่เกี่ยวข้องกับการปฏิรูปสถาบันฯ สุชาติเห็นว่านักศึกษาไม่ได้ล้มสถาบันฯ แต่ต้องการให้สถาบันฯ มีความงอกงามและสง่างามในโลกสมัยใหม่ เพราะฉะนั้นจึงใช้คำว่าระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ซึ่งหมายถึงการอยู่ใต้รัฐธรรมนูญอย่างแท้จริง
ส่วนกรณีที่ศิษย์เก่ามีความเห็นแตกต่างกันอย่างรุนแรง โดยเฉพาะการจัดการชุมนุม ส่วนตัวเห็นว่าความขัดแย้งทางความคิดเป็นเรื่องปกติในระบอบประชาธิปไตย แต่ขอให้ใช้ตรรกะและเหตุผลใช้การแลกเปลี่ยนข้อมูลและอดทนรับฟังซึ่งกันและกันจะเป็นวิธีที่ดีที่สุดที่จะไม่สูญเสียไปกว่านี้
ทั้งนี้เห็นว่าธรรมศาสตร์ในยุคของตนเองและปัจจุบันอุดมการณ์ไม่ได้เปลี่ยนแปลงแต่ตัวบุคคลอาจจะเปลี่ยนแปลง ซึ่งช่วงระหว่างการเตรียมยื่นหนังสือ อธิการบดีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ลงมาจากตึก ผ่านวงสัมภาษณ์ของสื่อมวลชนออกไปทางด้านหลังตึกโดม ซึ่งตัวแทนที่มารับหนังสือชี้แจงว่าอธิการมีภารกิจจึงไม่สามารถมารับหนังสือด้วยตนเองได้
สำหรับแถลงการณ์ในนามนักเขียน บรรณาธิการ ศิลปิน สื่อมวลชน และประชาชนผู้เชื่อมั่นในหลักการประชาธิปไตย มีรายละเอียดระบุว่า
จากปรากฏการณ์ที่กลุ่มเยาวชน นักเรียน นักศึกษา ได้ออกมาเคลื่อนไหวอย่างต่อเนื่อง กระทั่งเริ่มมีการส่งสัญญาณข่มขู่คุกคาม ทั้งจากรัฐและผู้คนเห็นต่างจำนวนหนึ่ง
ในฐานะที่เราต่างต้องเฉลี่ยทุกข์เฉลี่ยสุขอยู่ในสังคมเดียวกัน เราขอยืนยันหลักการ และยื่นข้อเรียกร้องดังต่อไปนี้
หนึ่ง เราขอยืนยันว่า ข้อเรียกร้องทางการเมือง 3 ข้อ ได้แก่ หยุดคุกคามประชาชน ร่างรัฐธรรมนูญใหม่ ยุบสภา และความฝันในการอยู่ร่วมกับสถาบันพระมหากษัตริย์ รวมถึงความเคลื่อนไหวให้ปฏิรูประบบการศึกษา ทั้งหมดนี้นอกจากจะไม่ได้มีเนื้อหาส่วนใดละเมิดกฎหมายแล้ว ยังสะท้อนให้เห็นถึงเจตจำนงของคนรุ่นใหม่ ความใฝ่ฝันที่จะเห็นสังคมดีขึ้นกว่าเดิม เราขอเรียกร้องให้รัฐและผู้เห็นต่างโต้แย้งด้วยข้อมูล ข้อเท็จจริงและเหตุผล หยุดให้ร้ายบิดเบือน หยุดละเมิดเยาวชน นักเรียน นักศึกษา ด้วยวิธีการและท่วงทำนองต่ำทราม
สอง ตามที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ประกาศไม่อนุญาตให้ใช้พื้นที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ ในการชุมนุมวันที่ 19 กันยายน 2563 โดยมิได้ระบุเหตุผลชัดเจนมากไปกว่าถ้อยคำกว้างๆ ว่า กลุ่มแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม มิได้ดำเนินการขออนุญาตตามเงื่อนไขมหาวิทยาลัย
ในฐานะที่เรามีความผูกพันกับประวัติศาสตร์อันยาวนานของมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งบทบาทในการจำหลักเป็นหลังพิง ให้ที่อยู่ที่ยืนกับผู้คนในระบอบประชาธิปไตย เราขอเรียกร้องให้คณะผู้บริหารมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ พิจารณาทบทวน เปิดพื้นที่ให้นักเรียน นักศึกษา เยาวชน และประชาชน ได้แสดงออกถึงจุดยืนทางการเมืองอันเป็นเรื่องพื้นฐาน สนับสนุนระบบดูแลความปลอดภัยในการชุมนุม แทนการปิดกั้นผลักไส ให้ออกไปรับความเสี่ยงนอกรั้วมหาวิทยาลัย
สาม เราขอเรียกร้องสื่อมวลชน และขอความร่วมมือจากผู้สนใจติดตามข่าวสาร ให้ออกแรงช่วยกันตรวจสอบข้อมูลหลักฐาน ร่วมกันยับยั้ง แก้ไข ข้อมูลข่าวสารอันเป็นเท็จ จากกลุ่มคนที่ประสงค์ให้เกิดการเผชิญหน้า ปรารถนาจะให้สถานการณ์รุนแรง เพื่อนำไปสู่การใช้เครื่องมือทางอำนาจนอกระบบ ไม่ว่าจะในรูปแบบการทำรัฐประหาร หรือการจัดตั้งรัฐบาลพิเศษ ซึ่งล้วนแล้วแต่จะนำพาประเทศถอยหลังและตกต่ำยิ่งขึ้น
ด้วยความเชื่อมั่นในหลักสิทธิ เสรีภาพ เสมอภาค และประชาธิปไตย
พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า