ฟุตบอลโลก 2022 รอบ 16 ทีมสุดท้าย ที่สนามอาห์หมัด บิน อาลี สเตเดียม เป็นการพบกันของอาร์เจนตินา ที่เข้ารอบมาในฐานะแชมป์กลุ่ม C เสื้อสีฟ้าขาว พบกับออสเตรเลีย รองแชมป์กลุ่ม D เสื้อสีเหลือง
เกมนี้อาร์เจนตินามาในระบบ 4-3-3 โดยที่มี เอมิเลียโน มาร์ติเนซ เป็นผู้รักษาประตู กองหลัง 4 คน เป็น นาอูเอล โมลินา, คริสเตียน โรเมโร, นิโกลัส โอตาเมนดี และ มาร์โกส อากุญญา กองกลาง 3 คน มี เอนโซ เฟร์นันเดซ, โรดริโก เด ปอล และ อเล็กซิส แมค อัลลิสเตอร์ กองหน้า 3 ประสานใช้ ฮูเลียน อัลวาเรซ, อเลฮานโดร ปาปู โกเมซ และ ลิโอเนล เมสซี
ขณะที่ฝั่งออสเตรเลียมาในระบบ 4-4-2 โดยที่ผู้รักษาประตูคือ แมทธิว ไรอัน กองหลัง 4 คน มี มิลอส เดเกเนก, คาย โรว์ส, แฮร์รี เซาต์ตาร์ และ อาซิซ เบฮิช กองกลาง 4 คน ประกอบไปด้วย แมทธิว เลคกี, อารอน มอย, แจ็คสัน เออร์ไวน์ และ ไรลีย์ แมคกรี กองหน้า 2 คน มี คีนู แบคคัส กับ มิตเชลล์ ดุก
เกมในช่วงแรก ทั้ง 2 ทีมเล่นกันอย่างระมัดระวัง ทำให้กว่าจะมีโอกาสลุ้นจังหวะแรกต้องรอถึงนาทีที่ 17 โดยที่ ปาปู โกเมซ ได้ลองยิงจากแถวสอง แต่บอลก็เหินข้ามคานไปไกล
นาทีที่ 35 อาร์เจนตินามาขึ้นนำได้สำเร็จ 1-0 จากจังหวะขึ้นเกมมาในกรอบเขตโทษ อเล็กซิส แมค อัลลิสเตอร์ จ่ายบอลเข้าเขตโทษไปให้ นิโกลัส โอตาเมนดี จับบอลกระฉอกแต่เหมือนเป็นการตั้งจังหวะให้ ลิโอเนล เมสซี ยิงด้วยซ้าย บอลเฉียดหนีมือ แมทธิว ไรอัน เข้าไปอย่างสวยงาม
เวลาที่เหลือในครึ่งแรกไม่มีฝ่ายไหนได้โอกาสยิงประตูเพิ่ม ทำให้จบครึ่งแรก เป็นอาร์เจนตินานำก่อน 1-0
นาทีที่ 50 อาร์เจนตินาได้โอกาสลุ้นครั้งแรกในครึ่งหลังจากการยิงของ ลิโอเนล เมสซี บริเวณหัวกะโหลก แต่ในจังหวะยิงเจ้าตัวลื่นพอดี และบอลยังแฉลบแนวรับออสเตรเลีย ทำให้ความเร็วลดลง ส่งผลให้ แมทธิว ไรอัน รับบอลไว้ได้ไม่ยาก
นาทีที่ 57 อาร์เจนตินามาได้ประตูที่ 2 เมื่อ แมทธิว ไรอัน มาเล่นพลาดจากการจับบอลยาวเกินไปในจังหวะแรก ทำให้ ฮูเลียน อัลวาเรซ ฉกบอลไปได้ ก่อนยิงสวนตัวไรอันเข้าไป ให้ทีม ‘ฟ้าขาว’ นำห่าง 2-0
นาทีที่ 66 อาร์เจนตินาได้โอกาสลุ้นอีกครั้งจากจังหวะของ ลิโอเนล เมสซี ได้ตั้งป้อมซัดไกลนอกกรอบเขตโทษ แต่ทว่าบอลก็ข้ามคานออกหลังไป
นาทีที่ 75 อาร์เจนตินาได้ลุ้นอีกครั้ง จากจังหวะที่ เลาตาโร มาร์ติเนซ โดนทำฟาวล์ แต่ผู้ตัดสินปล่อยให้เป็นลูกได้เปรียบเมื่อบอลไปถึง นิโกลัส ตาเกลียฟิโก พาบอลขึ้นมาทางกรอบเขตโทษฝั่งซ้ายก่อนได้ยิง แต่บอลหลุดกรอบออกหลังไป
นาทีที่ 77 ออสเตรเลียมาตีไข่แตก 2-1 จนได้ จากจังหวะขึ้นเกมมาทางฝั่งซ้าย บอลไปถึง เคร็ก กูดวิน ได้ยิงนอกกรอบเขตโทษ บอลแฉลบ เอนโซ เฟร์นันเดซ ที่พยายามพุ่งเข้ามาบล็อก เปลี่ยนทางเข้าเสาไกล ชนิดที่ เอมิเลียโน มาร์ติเนซ ได้แค่ยืนมอง
นาทีที่ 81 ออสเตรเลียมาเกือบตีเสมอได้ เมื่อ อาซิซ เบฮิช ลากหลุดเดียวมาจากบริเวณกลางสนาม เข้ากรอบเขตโทษก่อนได้ยิง แต่จังหวะสุดท้าย ลิซานโดร มาร์ติเนซ วิ่งมาสไลด์สกัดจังหวะยิงไว้ได้ ทำให้อาร์เจนตินาได้แค่ลูกเตะมุมเท่านั้น
นาทีที่ 89 อาร์เจนตินาได้โอกาสทองในการฝังออสเตรเลีย เมื่อ ลิโอเนล เมสซี พาบอลขึ้นมาจากกลางสนามจนถึงหัวกะโหลกหน้ากรอบเขตโทษ ก่อนไหลให้ เลาตาโร มาร์ติเนซ ได้เอียงตัวยิง แต่บอลหลุดกรอบออกไปแบบไม่ได้ลุ้น
นาทีที่ 90+3 อาร์เจนตินาได้ลุ้นอีกครั้ง จากจังหวะขึ้นเกมของ ลิโอเนล เมสซี ไหลบอลให้ เลาตาโร มาร์ติเนซ ได้ยิงในเขตโทษ แต่บอลยังไปติด แมทธิว ไรอัน เซฟไว้ได้ด้วยเท้า
จังหวะต่อมาในนาทีเดียวกัน ลิโอเนล เมสซี หวังจะปิดบัญชีด้วยการยิงไกลนอกกรอบเขตโทษ แต่บอลก็ยังโค้งข้ามคานออกไป
นาทีที่ 90+5 โอกาสยังเป็นของอาร์เจนตินาอีกครั้ง เมื่อ ลิโอเนล เมสซี ไหลบอลให้ เลาตาโร มาร์ติเนซ ได้ยิงในกรอบเขตโทษ แต่ยังเป็นอีกครั้งที่ติดเซฟ แมทธิว ไรอัน แม้บอลจะกระดอนมาเข้าทางเมสซี แต่เจ้าตัวก็ยังไม่พร้อม ทำให้ยิงบอลหลุดกรอบออกหลังไปไกล
นาทีที่ 90+7 ออสเตรเลียได้โอกาสทองในการตีเสมอ เมื่อพยายามเปิดบอลจากกาบซ้ายขึ้นมาถึง การัง คูโอล ได้ยิงจ่อๆ แต่บอลยังไปติดเซฟ เอมิเลียโน มาร์ติเนซ ป้องกันไว้ได้ ทำให้จบเกมอาร์เจนตินาเฉือนชนะออสเตรเลีย 2-1 ทะลุเข้ารอบ 8 ทีมสุดท้ายไปพบกับเนเธอร์แลนด์ต่อไปได้สำเร็จ
