×

World Cup Diary Day 8: Ola Brazil สวัสดีทีมชาติบราซิล ณ Fan Fest

23.06.2018
  • LOADING...

…ทำไมวันนี้มอสโกถึงเงียบจัง เสียงลมที่ผ่านเข้าหน้าต่างเบากว่าปกติ เสียงเพลงของแฟนบอลที่อยู่ในอากาศหายไปพร้อมกับความหวังการเป็นแชมป์โลกของอาร์เจนตินา เมื่อพวกเขาพลาดท่าพ่ายโครเอเชียไปถึง 0-3 ทำให้ความหวังตีตั๋วรอบ 16 ทีมสุดท้ายเหลือน้อยลงทุกที

 

 

ภาพแรกที่เราเห็นเมื่อก้าวเท้าออกจากที่พักคือกลุ่มกองเชียร์แฟนบอลอาร์เจนตินาที่รีบสับขาอย่างรวดเร็ว พวกเขากำลังเดินทางไปยังเมืองเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก เพื่อช่วยลุ้นในเกมสุดท้ายกับไนจีเรียที่สนามเซนต์ปีเตอร์สเบิร์กในวันที่ 26 มิถุนายนนี้ และจะเก็บ 3 คะแนนสถานเดียวถึงจะมีโอกาสผ่านเข้ารอบ

 

“เราต้องการปาฏิหาริย์” หนึ่งในแฟนบอลนักเดินทางที่ผูกธงฟ้าขาวไว้ตรงกระเป๋าบอก ก่อนปฏิเสธการให้สัมภาษณ์และเดินหนีขึ้นสถานีรถไฟไป

 

ทีมงานตัดสินใจเดินหน้าต่อไปยัง Fan Fest เพื่อรายงานบรรยากาศของอีกชาติมหาอำนาจลูกหนังแห่งอเมริกาใต้ ทีมชาติบราซิล โดยวันนี้ ‘เซเลเซา’ จะลงสนามเกมที่ 2 พบกับคอสตาริกา ในเวลา 15.00 น. (ตามเวลาท้องถิ่น)

 

 

เราเดินทางมาถึง Fan Fest เวลา 14.00 น. พร้อมบรรยากาศที่วังเวงและเงียบเหงา “ทุกคนเดินทางออกนอกเมืองไปแล้วเหรอ” เราเริ่มตั้งคำถาม แต่เมื่อเวลาผ่านไป จากพื้นโล่งสีเทาก็เริ่มมีสีเหลืองแซมเขียวเข้ามาจับจองพื้นที่ในจุดต่างๆ และไม่ว่าแฟนบอลชาติบราซิลจะไปที่ไหน ที่แห่งนั้นย่อมมีสีสัน ระบำแซมบ้า และวัฒนธรรมการเชียร์ที่เป็นเอกลักษณ์ตามไปอยู่เสมอ

 

 

เกมการแข่งขันเริ่มต้นขึ้น ทีมงานหันหลังไปอีกทีก็พบกองเชียร์เข้ามาเต็มพื้นที่จนแน่นขนัด 45 นาทีผ่านไป เกมครึ่งแรกเสมอกันที่ 0-0 แฟนบอลยังคงรวมตัวกันโห่ร้องเชียร์กันด้วยความมั่นใจ แต่แล้วภาพที่ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น

 

“เราขอต้อนรับแชมป์โลกปี 2010 อีเกร์ กาซิยัส ขึ้นมาบนเวที” ใช่แล้ว มองไปบนเวที นี่เป็นครั้งแรกที่เราได้เห็นอดีตผู้รักษาประตูมือหนึ่งทีมชาติสเปน และเรอัล มาดริด ตัวเป็นๆ บนเวทีต่อหน้าเรา

 

 

อิเกร์ทักทายแฟนบอลพร้อมกับบอกเล่าความรู้สึกประทับใจต่อฟุตบอลโลกครั้งนี้ และเมื่อถึงคำถามสำคัญว่าใครจะเป็นแชมป์โลก เขาก็ตอบแบบเอาใจมิตรรักแฟนเพลง “สเปนสิครับ” ก่อนจะเดินหายลับไปหลังเวที พร้อมคำประกาศของทีมงานว่าไม่ต้องตาม เพราะ “กาซิยัสได้มุ่งหน้าออกจากที่แห่งนี้ไปแล้ว”

 

เกมครึ่งหลังกลับมาเริ่มแข่งกันต่อ จากเสียงโห่ร้องดีใจเริ่มกลายเป็นแรงกดดัน เพราะเวลาในสนามปาเข้าไปนาทีที่ 90 แล้วก็ยังไม่มีประตูเกิดขึ้น การตะโกนเรียกเนย์มาร์เปลี่ยนจากนำเสียงเชียร์ เริ่มเป็นเสียงที่บ่งบอกว่า ‘ทำอะไรกันอยู่!’

 

 

แต่สุดท้ายผ่านไปเพียงไม่ถึงนาที ก็เป็นครั้งแรกที่เราได้สัมผัสบรรยากาศเสียงโห่ร้องด้วยความดีใจ แฟนบอลทุกคนในเสื้อสีเหลืองและแฟนบอลชาติอื่นผสมโรงเฮฮา ร่วมเฉลิมฉลองประตูแรกที่เกิดขึ้นจาก ฟิลิปป์ คูตินโญ ไม่นานหลังจากนั้น เนย์มาร์ ฮีโร่ของพวกเขาก็มาทำประตูทิ้งห่างลูกที่ 2 ได้สำเร็จ

 

เสียงโห่ร้องยาวต่อเนื่องจนกระทั่งดนตรีสดใน Fan Fest เริ่มดังขึ้น ก่อนจะค่อยๆ กลายเป็นคอนเสิร์ตขนาดย่อมที่ทุกคนในพื้นที่ไม่ว่าจะสวมเสื้อสีอะไรก็ร่วมสนุกเต้นรำร้องเพลงตามกันได้อย่างคึกคัก

 

 

ที่อดสงสารไม่ได้คือกลุ่มคนที่ใส่เสื้อสีฟ้าขาว เพราะพวกเขาถูกแฟนบอลบราซิลเข้ามาทักทายด้วยการชูมือเป็นเลข 5 ที่ไม่ได้สื่อถึงการ Hi5 แต่จะบอกว่าพวกเขาคือแชม์โลก 5 สมัย และกำลังจะไปเป็นแชมป์สมัยที่ 6 แล้วนะ ซึ่งแฟนบอลอาร์เจนตินาก็ได้แต่ยิ้มเขินๆ และบอกเพียงแค่ว่า “วันนี้พวกคุณโชคดี”

 

 

โชคดีเพราะฟุตบอลโลกครั้งนี้พิสูจน์ให้เห็นว่า ช่องว่างระหว่างทีมเล็กและทีมใหญ่เริ่มแคบลงเรื่อยๆ อาร์เจนตินาแชมป์ 2 สมัยที่ยังไม่ชนะใคร เช่นเดียวกับแชมป์เก่าเยอรมนีก็พลาดท่าพ่ายให้กับเม็กซิโกในเกมแรก หรือแม้กระทั่งบราซิลเองก็เพิ่งมาคว้าชัยชนะได้ในเกมนี้

 

ความสูสีนี้เองที่ทำให้ฟุตบอลโลกครั้งนี้เริ่มสนุกสนานมากยิ่งขึ้น เพราะจากตอนแรกที่ทุกคนคาดหวังให้ทีมใดทีมหนึ่งเก็บถ้วยไปครองได้อย่างง่ายดายเหมือนกับปี 2010 ที่สเปนนอนมาตั้งแต่ยูโร 2008 แต่ดูเหมือนว่าครั้งนี้ทีมใหญ่อาจต้องอาศัย ‘โชค’ มากกว่าฝีมือเพื่อเก็บชัยชนะในแต่ละนัดให้ได้…

 

 

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising