เทศกาลผลไม้มหัศจรรย์ หรือ วันเดอร์ฟรุต เฟสติวัล (Wonderfruit Festival) กลับมาแล้ว โดยกลับมาจัดเป็นครั้งที่ 4 ในปีนี้ระหว่างวันที่ 14-17 ธันวาคม 2560 ที่สยามคันทรี คลับ พัทยา แต่จะมีอะไรน่าสนุกชวนหัวใจเต้นรัวให้เหล่าวันเดอเรอร์ได้ชม ได้ทำกันปีนี้บ้าง THE STANDARD รวมเอาไว้ให้แล้ว พร้อมกับถามเจ้าพ่อผลไม้ พีท-ประณิธาน พรประภา ถึงงานในครั้งนี้ด้วย
ถามง่ายๆ วันเดอร์ฟรุตคืออะไร
“วันเดอร์ฟรุตคืองานเฉลิมฉลองที่เน้นวิถีความยั่งยืน หรือ sustainability ซึ่งเป็นการนำเสนอในรูปแบบของงานเทศกาลที่จัด 4 วัน 4 คืน บางคนถามว่ามันเป็นมิวสิกเฟสติวัลใช่ไหม? จะเรียกว่าเป็นไลฟ์สไตล์เฟสติวัลก็ได้ ซึ่งเรามี 6 พิลลาร์ด้วยกันคือ Arts, Music, Farm to Feasts, Wellness & Adventures, Talks & Workshops และ Family”
ทำไมต้องผลไม้ด้วย
“เพราะว่าเมืองไทยเป็นดินแดนแห่งผลไม้ และผักผลไม้ก็เป็นสิ่งที่ดีสำหรับเรา และงานนี้จะเกิดขึ้นได้ เราก็ต้องนำผลไม้หลายๆ อย่างมารวมตัวกันก่อน เลยกลายเป็นปรากฏการณ์ผลไม้ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน เป็นผลไม้ที่ทรงพลัง นั่นก็คือ ‘วันเดอร์ฟรุต’ ผลไม้ที่เสพแล้วดีสำหรับเรา”
หลายคนสงสัยว่างานเทศกาลจะช่วยอนุรักษ์โลกได้ตรงไหน คุณอธิบายอย่างไร
“โลกของเรากำลังอยู่ในภาวะ Environmental Crisis เราเลยคิดว่าจะแก้ไขปัญหายังไง แต่ทำโดยวิธีที่สร้างสรรค์และสนุก ตอนนี้ประเทศไทยพูดถึงเรื่องพลาสติกเยอะ และผมว่ามันเป็นปัญหาของทุกคน และปีนี้วันเดอร์ฟรุตจับมือกับ Plastic Pollution Coalition (PPC) อย่างเป็นทางการ ตั้งใจทำงานเพื่อให้โลกปราศจากมลภาวะจากพลาสติก แต่เอาจริงๆ พลาสติกทุกอันไม่ใช่ว่าไม่ดีนะ แต่การใช้ครั้งเดียวทิ้งนี่เราต้องแก้ไข และผมเชื่อว่าเราแก้ได้ วันเดอร์ฟรุตเองเริ่มมาตั้งแต่ปีแรกแล้ว เลยไม่มีพลาสติกเลยปีนี้ ถ้าไปจะเห็นว่าแก้วและช้อนส้อมในงานทำจากวัสดุที่ย่อยสลายได้ในช่วงเวลาสั้นๆ คุณจะไม่เห็นขวดพลาสติกเลย เรายังมีสิ่งที่เรียกว่า ‘รีฟิลล์คัพ’ ซึ่งเป็นแก้วที่ทำด้วยเหล็ก คุณซื้อแก้วนี้แล้วคุณก็นำไปใช้ต่อได้ รวมถึงขวดน้ำ จานชามที่เราเลือกใช้วัสดุอย่าง bagasse หรือ ชานอ้อย หรือวัสดุที่ย่อยสลายได้มาแทนที่พลาสติกแทน ว่าง่ายๆ คือเป็นงานเทศกาลที่คุณจะไม่เห็นการใช้พลาสติกครั้งเดียวทิ้ง”
ไปวันเดอร์ฟรุตครั้งแรกควรเตรียมตัวอย่างไร
“คิดเสียว่าไปเที่ยวในที่ที่ไม่เคยไป โดยอาจจะหาข้อมูลและเตรียมตัวนิดหนึ่ง ผมว่าประสบการณ์วันเดอร์ฟรุตของแต่ละคนไม่เหมือนกัน แล้วแต่ว่าคนคนนั้นชอบอะไร บางคนอาจจะมาฟังดนตรี มาออกกำลังกาย แต่จุดยืนของเราคือการพัฒนาความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อม ดังนั้นผมเชื่อว่ามาแล้วจะได้อะไรกลับไปที่แตกต่างกันพร้อมกับความสนุก”
กิจกรรมสนุกๆ น่าทำที่วันเดอร์ฟรุต 2017
ไม่ว่าคุณจะเป็นวันเดอเรอร์ยุคแรกหรือยุคล่า เรารวมสิ่งน่าตื่นเต้นที่เราตั้งตาคอยของปีนี้มาให้แล้ว
Roots Manuva
ร็อดลีย์ สมิธ (Rodley Smith) หรือ Roots Manuva เป็นศิลปินฮิปฮอปจากลอนดอนใต้ผู้เคยร่วมงานกับศิลปินดังมากมาย อาทิ เจมี คัลลัม (Jamie Cullum), Gorillaz, The Maccabees, The Cinematic Orchestra ฯลฯ และเพลง ‘Witness’ ของเขาโด่งดังจนกลายเป็นเพลงฮิปฮอปที่ดีที่สุดตลอดกาล โหวตโดยผู้อ่านนิตยสาร Hip Hop Connection อีกด้วย เขาพกเพลงจาก Bleeds อัลบั้มใหม่มาฝาก โดยเป็นดนตรีฮิปฮอป นีโอคลาสสิก ฟังก์ เรกเก้ เทคโน และพังก์
น่าสนยังไง: เขาได้รับการยกย่องจาก The Times ว่าเป็น ‘The voice of urban Britain’ และได้รับรางวัล MOBO สาขาศิลปินฮิปฮอปยอดเยี่ยมอีกด้วย
พิกัด: Living Stage วันศุกร์ที่ 15 ธันวาคม เวลา 23.00-00.00 น.
Funfair Bar
วันเดอร์ฟรุตไม่ใช่เทศกาลคนกรุงหนีไปเที่ยวพัทยาอีกต่อไป เพราะแต่ละปีชื่อของเทศกาลนี้ยังเป็นที่รู้จักขึ้นในแถบเอเชีย จนบาร์ค็อกเทลดังในเมืองย่างกุ้งอย่าง 57Below ยังส่ง เจน ควีน (Jen Queen) มิกโซโลจิสต์หญิงคนเก่งชาวอเมริกันมาครีเอตค็อกเทลน่าสน ซึ่งเธอโดดเด่นเรื่องการนำวัตถุดิบท้องถิ่นมาผสมผสานเทคนิคเฉพาะตัวที่เธอสั่งสมมาตั้งแต่ทำงานหลังบาร์ในซานฟรานซิสโกและซานดิเอโก เจนเชื่อว่า “Good things taste good… just leave it at that.”
น่าสนยังไง: เจนมาวันเดอร์ฟรุตเพื่อนำเสนอการใช้วัตถุดิบท้องถิ่น ดึงรสชาติของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ออกมาให้เด่น โดยเน้นการลดคาร์บอนฟุตปรินต์ ไม่สร้างขยะ และเสิร์ฟในขวดรีไซเคิลในการทำในทุกๆ แก้วที่เธอเสิร์ฟ เมนูที่ควรไปลองมากๆ คือ Smoked Coco-Colada ที่ใช้มะพร้าวเผากับวอดก้า, Ginger Whisky Mule ที่ใช้ลูกอมขิง, Frozen Raspberry Spritz ใช้ไวน์ขาว สปริตซ์แช่แข็ง กับราสป์เบอร์รีพิวเร เป็นต้น
พิกัด: Funfair Bar เวที ALTN8 (ใกล้ Solar Stage และ Theatre of Feast)
The Birds of Paradise
ปีนี้ มูลนิธิกรีนพีซ เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (Greenpeace Southeast Asia) สนับสนุนให้คนยุคใหม่หันมาใส่ใจและรักษ์ป่าด้วยโปรเจกต์นี้มีชื่อว่า ‘Save Our Sounds’ หรือ ‘SOS’ ซึ่งกรีนพีซจับมือดีเจสาวชาวอินโดนิเซีย นินดา เฟลินา (DJ Ninda Felina) พร้อมทีมงานตะลุยป่าปาปัวในอินโดนีเซีย เพื่อเก็บเสียงของสัตว์ป่าและธรรมชาติมารีมิกซ์เป็นเพลงแดนซ์ที่ชื่อว่า ‘The Birds of Paradise’ และจัดแข่งขัน Make-A-Thon ชวนคนมาออกแบบการถ่ายทอดเพลงนี้ ซึ่งผู้ชนะออกแบบหัวนกอินเทอร์แอ็กทีฟที่สวมแล้วจะปิดโสตประสาทที่เหลือให้ได้ยินเสียงเพรียกของขุนเขาและผืนป่าของเพลง ‘The Birds of Paradise’ อย่างกึกก้อง
น่าสนยังไง: ดีเจนินดา เฟลินา และผู้ชนะการประกวดจะนำเสนอผลงาน และเปิดเสียงของป่าปาปัวอันน่าทึ่งกับเพลง The Birds of Paradise ให้ฟังกันเป็นครั้งแรกที่นี่ และมีกิจกรรมอื่นๆ ให้คุณได้ลองทำเพลงจากเสียงของป่าด้วยนะ
พิกัด: Rainforest Pavilion
Khun Narin
ใครว่าความไทยพื้นบ้านนั้นไม่คูล แสดงว่ายังไม่รู้จัก Khun Narin หรือ คณะขุนนรินทร์ศิลป์ วงดนตรีไทยจากจังหวัดเพชรบูรณ์ที่เด่นจนเตะตา จอช เมอร์ซี โปรดิวเซอร์ชื่อดังระดับโลกที่บังเอิญเห็นมิวสิกวิดีโอของวง ที่เดินแห่ไปมาตามหมู่บ้านพร้อมกับบรรเลงดนตรีไซเคเดลิกร็อก (Psychedelic rock) ที่พวกเขาเล่นได้อย่างหนักหน่วง โดยใช้เครื่องดนตรีพื้นบ้านตามงานบุญต่างๆ
น่าสนยังไง: พวกเขานำท่วงทำนองแบบไทยลาวมาผสมผสานกันกับดนตรีการาจและร็อก ดึงความเป็นพื้นบ้านแบบไทยๆ ออกมาอย่างไม่มีเคอะเขิน จะเก๋เท่แค่ไหนต้องติดตามชมด้วยตัวเอง
พิกัด: Living Stage วันเสาร์ที่ 16 ธันวาคม 20.00-21.00 น.
Healthy Food Truck
หากจะกินดื่มตามใจปากกันปลายปี แต่อย่างน้อยเหลียวมองอาหารสุขภาพที่กินได้อร่อยใช่ย่อยคู่กับเบียร์ และ Healthy Food Truck คาราวานที่ประกอบด้วยรถกระบะขนอาหารดีๆ 3 คัน กับรถ 2 คัน ก็พร้อมทำอาหารใส่ใจสุขภาพให้อิ่มกัน มีตั้งแต่ผัดไทยใส่กุ้งตัวโต ไส้กรอกหมูออร์แกนิก รวมถึงอาหารสำหรับเหล่าวีแกน อาทิ เต้าหู้จากถั่วเหลืองไร้ GMO จากเชียงใหม่ที่เสิร์ฟได้ครีเอทีฟจนคนรักเนื้ออาจแอบอยากลองบ้าง
น่าสนยังไง: อาหารจากจุดนี้เสิร์ฟโดยไม่ใช้สารเคมีใดๆ หรือผงชูรส เผื่อใครอยากลองรสชาติธรรมชาติแท้ๆ ดีๆ ต่อสุขภาพ เราขอเชิญ
พิกัด: Farm to Feasts
Richie Hawtin
ริชี ฮาวทิน เจ้าพ่อตำนานวงการดนตรีเทคโนมาเยือนวันเดอร์ฟรุตแล้ว! ริชีคือศิลปินชาวอังกฤษที่โตในแคนาดา และเป็นเจ้าของรางวัล DJ Awards ถึง 3 ครั้ง โดยว่ากันว่าเขาเป็นผู้ทรงอิทธิพลคนหนึ่งของวงการดนตรีเทคโนในดีทรอยต์ในต้นยุค 90s จนถึงปัจจุบัน และเป็นที่รู้จักดีในฐานะสมาชิกวง Plastikman ริชีแสดงมาแล้วทั่วโลก
น่าสนยังไง: ชายผู้นี้เคยร่วมโปรดิวซ์งานกับ Skrillex และ Deadmau5 และได้รับการขนามจากผู้ก่อตั้งค่ายเพลง Mute ว่าเป็น ‘ผู้นำ’ และ ‘ผู้บุกเบิก’ ส่วน The New York Times ยกย่องเขาว่าเป็น ‘หนึ่งในผู้ขับเคลื่อนดนตรีอิเล็กทรอนิกส์ของโลก’
พิกัด: The Quarry วันเสาร์ที่ 16 ธันวาคม เวลา 03.00-05.00 น.
Drag Me to Heaven – By Pangina Heals
ปันปัน หรือที่หลายคนรู้จักเธอว่า Pangina Heals แดรกควีนตัวแม่ของเมืองไทยมาบอกเล่าเรื่องราวบนเส้นทางของนางโชว์ ไปจนถึงเผยว่าทำไมเธอถึงต้องแต่งหญิง
น่าสนยังไง: ปันปันจะมาตอบคำถามที่คุณอยากรู้เกี่ยวกับวัฒนธรรมข้ามเพศในบ้านเราที่คุณอาจไม่กล้าถามและไม่เคยได้ยินมาก่อน ปันปันจะแชร์ทิปส์การแต่งหน้า การโพสที่ชายก็ใช้ได้ หญิงก็ใช้ดี เพราะจะทำให้คุณสวย เลิศ เชิด เฟียส ไปค่ะ!
พิกัด: Farm Stage วันเสาร์ที่ 16 ธันวาคม เวลา 15.00-15.30 น.
Gaggan at Wonderfruit
เชฟ Gaggan Anand แห่งร้าน Gaggan กลับมาวันเดอร์ฟรุตอีกครั้ง ครั้งนี้เขาไม่ได้มาคนเดียว เพราะชวนเพื่อนเชฟแฝด มาไธอัส และโทมัส จากร้าน Sühring และ ทาเคชิ ‘โกห์’ ฟูกูยามาจากร้าน La Maison de la Nature ที่ญี่ปุ่น รวมถึงเชฟแกร์ท เดอ มังเกลียร์ จากร้าน Hertog Jan ที่เบลเยียม
น่าสนยังไง: หากไม่อยากรอต่อคิวไป Gaggan ที่เพิ่งได้ดาวมิชลินมา 2 ดวงของกรุงเทพฯ นี่คือโอกาสของคุณที่จะได้ชิมอาหารในแบบของเขา แถมยังพกเพื่อนจาก Sühring ที่เพิ่งติด 1 ดาวมิชลิน รวมถึงร้าน Hertog Jan ร้าน 3 ดาวมิชลินจากเบลเยียมที่โด่งดังมากๆ เรื่องการปลูกวัตถุดิบเองและเสิร์ฟกันแบบหรูแต่อยู่ในฟาร์ม ซึ่งถ้าไปงานนี้แล้ว เรียกว่าเก็บอาหารจากเชฟมิชลินกันไปเลย 6 ดาว!
พิกัด: Theatre of Feasts วันเสาร์ที่ 16 ธันวาคม เวลา 19.30-22.00 น.
John Will Sail
เขาอาจจะเป็นชาวต่างชาติคนนั้นที่คุณเดินสวนแถวๆ สุขุมวิท แต่ชายชาวนิวซีแลนด์ที่โตในออสเตรเลียคนนี้เป็นนักร้อง นักแต่งเพลงที่มาทำดนตรีอยู่กรุงเทพฯ มาพักใหญ่ ก่อนหน้านั้นเขาทำดนตรีการาจวง The Sangsom Massacre โดยปัจจุบันเสียงดนตรีของเขาเบนสายมาทำดนตรีบลูส์และโฟล์กเป็นหลัก
น่าสนใจยังไง: แม้เขาจะเป็นที่รู้จักในหมู่นักดนตรีโฟล์กต่างชาติในกรุงเทพฯ (ซึ่งมีไม่มากนัก) แต่ดนตรีของเขาที่มักมองผ่านสายตาของหนุ่มกีวี่ออสซี่ที่มาพำนักอยู่ในกรุงเทพฯ มักมีเนื้อหาที่ตรงไปตรงมา บ้างบอกเล่าเรื่องราวตลกๆ แฝงความเป็นนักท่องเที่ยวอยู่หน่อยๆ ได้น่าสนใจ
พิกัด: Shackfruit วันศุกร์ที่ 15 ธันวาคม เวลา 20.00-21.00 น.
Bea Johnson
เบีย จอห์นสัน ผู้เขียนหนังสือ Zero Waste Home ชาวฝรั่งเศสอเมริกันจะมาพูดเรื่องการใช้ชีวิตแบบยั่งยืนแสนจะอีโคด้วยการลดปริมาณขยะจนเหลือศูนย์ของเธอและ ครอบครัวในหัวข้อ ‘Ultimate Guide to Simplifying your Life by Reducing your Waste’ โดยให้ความสำคัญกับ 5 ตัว R นั่นคือ Refuse, Reduce, Reuse, Recycle และ Rot
น่าสนยังไง: เธอจะมาลบล้างความเข้าใจผิดหลายๆ ประเด็นที่เราอาจไม่เคยรู้แต่ทำกันมาตลอด และพิสูจน์ให้เห็นว่าชีวิตสิ้นขยะนั้นดีต่อตัวเองและกระเป๋าสตางค์อย่างไร
พิกัด: Farm Stage วันศุกร์ที่ 15 ธันวาคม เวลา 17.30-18.00 น.
Izzy Bizu
อิสซี บีซู นักร้องสาวชาวอังกฤษวัย 22 ปีเจ้าของดนตรีโซลแอบใสฟังสบาย พกเพลงดัง ‘White Tiger’ และ ‘Talking to You’ มาเยือนวันเดอร์ฟรุตให้เหล่าวันเดอเรอร์อินไปกับเสียงใสๆ ราวกับแสงแดดยามเช้าของเธอได้ โดยเธอได้รับอิทธิพลดนตรีมาจากเอมี ไวน์เฮาส์ (Amy Winehouse), ไดอานา รอสส์ (Diana Ross) และเธอจะพกเพลงดังมาอีกหลายเพลงที่เธอแต่งเอง
น่าสนยังไง: เธอไปที่ไหนบัตรขายเกลี้ยงที่นั่น ทั้งที่เทศกาลดนตรี Glastonbury, Longitude, Lovebox หรือ Secret Garden Party ที่จัดในอังกฤษ ควรค่าแก่การย้ายร่างไปฟังเสียงใสไพเราะของเธอสักครั้ง
พิกัด: Solar Stage วันเสาร์ที่ 16 ธันวาคม เวลา 17.30-18.30 น.
See you at The Fields!
Photo: วงศกร ยี่ดวง, Wonderfruit Festival
