×

จริงๆ แล้ว Wonder Woman 1984 อาจเป็นหนังโรแมนติก ที่ถูกฟอร์มของซูเปอร์ฮีโร่เคลือบเอาไว้

18.12.2020
  • LOADING...
จริงๆ แล้ว Wonder Woman 1984 อาจเป็นหนังโรแมนติก ที่ถูกฟอร์มของซูเปอร์ฮีโร่เคลือบเอาไว้

แม้ว่ากระแสวิจารณ์ของ Batman V Superman: Dawn of Justice (2016) จะค่อนข้างจะเป็นไปในทางลบ แต่ปฏิเสธไม่ได้จริงๆ ว่าฉากการปรากฏตัวของ วันเดอร์วูแมน ที่รับบทโดย กัล กาด็อต คือฉากแย่งซีนที่ใครหลายคนยังจดจำได้ถึงทุกวันนี้ ก่อนที่หนึ่งปีต่อมา แพตตี้ เจนกินส์ ผู้กำกับหญิงมากความสามารถจะพาผู้ชมทั่วโลกไปทำความรู้จักที่มาที่ไปของฮีโร่หญิงคนนี้ให้มากยิ่งขึ้นใน Wonder Woman (2017) และกลายเป็นผลงานที่มากู้หน้าให้กับ DCEU (DC Extended Universe) ได้อย่างงดงาม 

 

Wonder Woman 1984 จึงถือเป็นเรื่องราวภาคต่อที่จะพาแฟนๆ ไปสำรวจการเติบโตของวันเดอร์วูแมนในทุกมิติ โดยเฉพาะมุมมอง ‘ความรัก’ ที่เราขอนิยามว่า นี่คือหนังซูเปอร์ฮีโร่ที่อบอวลไปด้วยความโรแมนติกอบอุ่นหัวใจ

 

บอกเล่าเรื่องราวที่ห่างไกลจากภาคแรกนานเกือบ 70 ปี เมื่อ ไดอาน่า พรินซ์ (กัล กาด็อต) เริ่มคุ้นชินกับการดำเนินชีวิตที่ก้าวหน้าไปตามกาลเวลา โดยทำงานอยู่ในพิพิธภัณฑ์สมิธโซเนียนควบคู่ไปกับการช่วยเหลือผู้คน แต่สิ่งที่ไม่เคยเปลี่ยนแปลงไปคือความรัก ‘ครั้งแรก’ ที่มีให้กับ สตีฟ เทรเวอร์ (คริส ไพน์) 

 

กระทั่งวันหนึ่ง ไดอาน่าบังเอิญมาพบกับสตีฟที่ควรจะเสียชีวิตไปแล้ว และกลายเป็นจุดเริ่มต้นที่เขาและเธอจะร่วมมือกันเพื่อหาสาเหตุว่าสตีฟกลับมาได้อย่างไร และต้องเผชิญหน้ากับตัวร้ายใหม่อย่าง บาร์บารา หรือชีตาห์ (คริสเตน วิก) และ แม็กซ์เวล ลอร์ด (เปโดร ปาสคาล) เพื่อปกป้องผู้คนจากแผนการร้าย

 

 

จุดอ่อนอย่างแรกที่เรารู้สึกได้ คือการดำเนินเรื่องที่ค่อนข้างสูตรสำเร็จเอามากๆ จนเราสามารถคาดเดาเรื่องราวทั้งหมดได้ตั้งแต่ต้นเรื่อง และส่งผลให้ตัวภาพยนตร์ที่มีความยาวประมาณ 2 ชั่วโมง 33 นาที ค่อนข้างยืดเยื้อและไม่กระชับไปสักหน่อย

 

และเนื่องจากถูกเลื่อนกำหนดการฉายมาแล้วหลายครั้งด้วยผลกระทบของโควิด-19 ทำให้ทางค่าย Warner Bros. ปล่อยตัวอย่างออกมาเชิญชวนให้ผู้ชมซื้อตั๋วแบบไม่ยั้ง จนกลายเป็นว่าตัวอย่างเหล่านั้นกลับเผยภาพและฉากเด่นๆ มากจนเกินไป ส่งผลให้เราไม่รู้สึกตื่นเต้นกับฉากเหล่านั้นในโรงเท่าไรนัก อีกทั้งยังขับเน้นให้จุดอ่อนข้อแรกอย่างการลำดับเรื่องราวที่สูตรสำเร็จยิ่งชัดเจนขึ้นอีกด้วย 

 

อีกหนึ่งจุดที่เราค่อนข้างเสียดายเป็นการส่วนตัว คือฉากแอ็กชันที่ดูจะหวือหวาน้อยลงกว่าภาคแรกไปพอสมควร โดยเฉพาะฉากไคลแม็กซ์ของเรื่องที่ไม่ได้โดดเด่นและสนุกสนานอย่างที่เราคาดหวัง 

 

ขณะเดียวกัน สิ่งที่ Wonder Women 1984 ถ่ายทอดออกมาได้อย่างโดดเด่นและประทับใจเรามากๆ คือความใส่ใจกับการพาผู้ชมไปทำความรู้จักตัวละครภายในเรื่องอย่างลึกซึ้ง ไล่เรียงมาตั้งแต่การเติบโตขึ้นของไดอาน่า ความมึนงงกับยุคสมัยที่เปลี่ยนไปของสตีฟ ภูมิหลังของสองตัวร้ายหลักอย่างบาร์บาราและแม็กซ์เวล ลอร์ด ซึ่งส่งผลให้ทุกตัวละครต่างมีมิติที่น่าสนใจและมีความสมเหตุสมผลในการกระทำ 

 

และด้วยจุดเด่นข้างต้น จึงทำให้เราค่อนข้างชื่นชอบพาร์ตความโรแมนติกระหว่างไดอาน่าและสตีฟพอสมควร เพราะมันช่วยขยายภาพให้เห็นว่า แม้ไดอาน่าจะเป็นฮีโร่หญิงสุดแกร่งและกล้าหาญเพียงใด แต่เธอก็เป็นผู้หญิงคนหนึ่งที่มีความรัก อ่อนแอ อ่อนไหว ถวิลหา และมีกิเลสในจิตใจเฉกเช่นมนุษย์ธรรมดาสามัญ  

 

ซึ่งต้องปรบมือให้กับการแสดงของสองนักแสดงนำอย่างกาด็อตและไพน์ ที่ทั้งคู่ต่างถ่ายทอดความรู้สึกถวิลหาและความรักระหว่างไดอาน่าและสตีฟผ่านสีหน้าและแววตาออกมาได้อย่างยอดเยี่ยม เสริมให้บรรยากาศภายในเรื่องอบอวลไปด้วยความโรแมนติกอบอุ่นหัวใจ

 

รวมถึงสองนักแสดงผู้มารับบทเป็นตัวร้ายหลักของเรื่องอย่างวิกและปาสคาล ที่ถ่ายทอดปมปัญหาและบาดแผลในจิตใจของบาร์บารา หญิงสาวผู้ต้องการให้ผู้อื่นยอมรับ และแม็กซ์เวล นักธุรกิจหนุ่มที่ต้องการพิสูจน์ตัวเองอีกครั้ง ให้เราเข้าใจในการกระทำของเขาและเธอมากยิ่งขึ้น ซึ่งการแสดงของทั้งคู่โดดเด่นไม่แพ้สองตัวละครหลักของเรื่องแม้แต่น้อย

 

แม้การดำเนินเรื่องจะดูสูตรสำเร็จไปสักหน่อย แต่การลดทอนความเข้มข้นของฉากแอ็กชัน เพื่อพาผู้ชมไปสำรวจมิติของตัวละครอย่างครบถ้วน จึงส่งให้ Wonder Woman 1984 เป็นภาพยนตร์ซูเปอร์ฮีโร่อีกหนึ่งเรื่องที่ทุกละครตัวต่างมีความเป็นมนุษย์สูงมาก และมีเสน่ห์ที่น่าจดจำในแบบของตัวเอง พร้อมด้วยบรรยากาศโรแมนติกที่เสริมให้กลมกล่อมมากขึ้น โดยไม่ทำให้เรารู้สึกว่ามันยัดเยียดเกินไป เพราะความสมเหตุสมผลในความรู้สึกของตัวละครที่ถูกปูเอาไว้ และสร้างความประทับใจให้กับเราเป็นอย่างมาก

 

มากจนบางช่วงเราก็คิดอยู่ว่า จริงๆ แล้ว Wonder Woman 1984 อาจจะเป็นหนังรักโรแมนติกที่ถูกความเป็นซูเปอร์ฮีโร่เคลือบไว้อยู่ก็ได้

 

สามารถรับชมตัวอย่างภาพยนตร์ได้ที่

 

 

พิสูจน์อักษร: วรรษมล สิงหโกมล

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising