“Wonderfruit คืองานเฉลิมฉลองที่เน้นวิถีความยั่งยืน หรือ sustainability นำเสนอในรูปแบบของงานเทศกาลที่จัด 4 วัน 4 คืน หลายคนถามว่ามันเป็นมิวสิกเฟสติวัลใช่ไหม? ผมว่าจะเรียกว่าเป็นไลฟ์สไตล์เฟสติวัลก็ได้ ซึ่งเรามี 6 พิลลาร์ด้วยกันคือ Arts & Architecture, Music, Farm to Feasts, Wellness, Talks & Workshops และ Family” นี่คือนิยามที่เราเคยได้พูดคุยกับพ่องาน Wonderfruit อย่าง พีท-ประณิธาน พรประภา (อ่านเพิ่มเติม thestandard.co/wonderfruit-festival)
มนต์เสน่ห์ของเทศกาล Wonderfruit กำลังจะกลับมาอีกครั้ง และความพิเศษที่อยากพูดถึงสำหรับ THE STANDARD คือ พิลลาร์ Farm to Feasts กับ วันเดอร์ ฟีสต์ (Wonder Feasts) ที่เหล่าเชฟซูเปอร์สตาร์ได้นำซิกเนเจอร์การปรุงอาหารของตนเอง มาสร้างสรรค์เป็นมื้ออาหารสุดพิเศษ เติมเต็มบรรยากาศแห่งความสุขภายในงาน Wonderfruit ที่ความสนุกของการดื่มกินก็สามารถมาพร้อมกับสุขภาพที่ดีได้
ก่อนหน้านี้ถ้าใครเคยไปสัมผัสงาน Wonderfruit คงได้เคยสัมผัสเมนูพิเศษของเชฟชื่อดังอย่าง เชฟเดวิด ทอมป์สัน แห่งร้าน Nahm เชฟกากั้น อนันต์ แห่งร้าน Gaggan เชฟโบและเชฟดีแลน แห่งร้าน Bo.Lan และ Err รวมทั้งมิกโซโลจิสต์มือรางวัลอย่าง Shingo Gokan เจ้าของร้าน Speak Low ในเซี่ยงไฮ้
และข่าวดีที่พิเศษของงานปีนี้ที่กำลังจะมาถึง วันเดอร์ ฟีสต์ ได้เหล่าเชฟมาร่วมงานให้มื้ออาหารคึกคักกว่าเดิม ลองดูตารางอาหารเรียกน้ำย่อยกันก่อน
โบ-ดวงพร ทรงวิศวะ และดีแลน โจนส์
เริ่มด้วยมื้อค่ำของวันศุกร์ที่ 14 ธันวาคม กับการกลับมาอีกครั้งของเชฟโบ-ดวงพร ทรงวิศวะ และเชฟดีแลน โจนส์ แห่งร้าน Bo.Lan ร้านอาหารไทยที่ได้รับการจัดอันดับให้เป็น 1 ใน 50 ร้านอาหารที่ดีที่สุดในเอเชีย กับเมนูมื้อค่ำสุดพิเศษที่ร้อยเรียงวัตถุดิบจากธรรมชาติไว้ด้วยกัน
แน่นอนว่าความพิเศษยังไม่หยุดเท่านี้ หลังจากจะได้สัมผัสมื้อค่ำไปแล้ว ในวันเสาร์ที่ 15 ธันวาคม เมนูพิเศษกับมื้อกลางวันที่เราจะได้พบการรวมตัวของสุดยอดเชฟอย่าง เชฟชาลี กาเดอร์ เจ้าของร้านอาหารชื่อดังมากมาย ทั้ง 100 มหาเศรษฐ์ และ Surface พร้อมเหล่าเพื่อนอย่าง เชฟปริญญ์ ผลสุข แห่งร้าน Nahm ผู้สร้างสรรค์สำรับสำหรับไทย เชฟหนุ่ม-วีระวัฒน์ ตริยเสนวรรธน์ แห่งร้าน Samuay & Sons
ทั้งสามพร้อมสร้างสรรค์อาหารที่นำเสนอคอนเซปต์ความเป็นไทย ต้นตำรับสไตล์สตรีทฟู้ดที่เรียบง่าย แต่ซ่อนไว้ซึ่งเอกลักษณ์และความพิเศษ กับเมนูปิ้งย่างเสิร์ฟคู่น้ำพริกสูตรต่างๆ พร้อมข้าวสวยร้อนๆ หอมกรุ่นความอิ่มอร่อยที่ลงตัวแบบไทยๆ และในความอร่อยลงตัวนี้ ทุกคนยังได้ร่วมเรียนรู้แหล่งที่มาของเมล็ดข้าวของไทย
การิมา อโรรา
หลังจากอิ่มท้องกับมื้อกลางวันและอิ่มเอมกับความสนุกในงานแล้ว ในมื้อค่ำคุณจะได้สัมผัสกับดินเนอร์สุดอบอุ่นจากเชฟการิมา อโรรา แห่ง Gaa เชฟที่มีจุดเด่นจากความมุ่งมั่นในการสรรหาวัตถุดิบ ที่จะมาพร้อมเมนูฟิวชันสุดพิเศษ ที่จะรังสรรค์จากวัตถุดิบรอบตัวที่นำมาผสมผสานเพื่อสร้างประสบการณ์ใหม่ของรสชาติอาหารอย่าง Corn เมนูของข้าวโพดจิ๋วพอดีคำ ที่มาพร้อมกับดิปของ Milk Corn และเมนูหลักอย่างกะเพราเนื้อเสือร้องไห้ ปิดท้ายของหวานกับ Soft Serve Ice Cream แสนละมุน
เรายังไม่หยุด เราจะพาไปต่อ เพราะวันสุดท้ายของงานยังคงมีเมนูส่งท้ายกับบรันช์สบายๆ ช่วงบ่ายๆ ของวันอาทิตย์ที่ 16 ธันวาคม ที่ 2 เชฟคู่หู เชฟเปาโล วิตาเลติ แห่ง Appia และ Peppina เชฟจาร์เร็ตต์ วริสลีย์ แห่ง Appia จะกลับมาอีกครั้งพร้อมเพื่อนเชฟอีกคับคั่ง ที่จะมอบเมนูในคอนเซปต์ ‘We’re on a mission from god’ ไอเดียเก๋กับเมนูสารภาพบาปในบ่ายวันอาทิตย์
และนี่คือไฮไลต์ความสนุกของอาหารจากวันเดอร์ ฟีสต์ ที่รังสรรค์โดย Wonderfruit นอกจากเมนูพิเศษจากเชฟมากฝีมือ Wonderfruit ยังคงเน้นการนำเสนอรูปแบบการใช้ชีวิตที่ยั่งยืน ตั้งแต่การให้ความสำคัญถึงแหล่งที่มาของวัตถุดิบ ผลผลิตจากเกษตรอินทรีย์ โดยในปีนี้เราจะได้พบกับโซน Patom Organic Village ของกลุ่ม Patom Organic Living และมูลนิธิสังคมสุขใจ วันเดอเรอร์สามารถเยี่ยมชม กิน ดื่ม ซื้อของใช้ที่เป็นผลิตผลออร์แกนิกจากเกษตรกรตามต้นแบบ ‘สามพรานโมเดล’ โมเดลการใช้ชีวิตเพื่อความยั่งยืน
ก่อนจะจบบทความนี้ เราขอแถมให้คุณอีกนิดกับสิ่งที่จะไม่พูดถึงไม่ได้คือ อีกหนึ่งความพิเศษของ Theatre of Feasts โครงสร้างของสถาปัตยกรรมที่ Wonderfruit ได้ทำงานร่วมกับนักออกแบบชื่อดังจากลอนดอนอย่าง เอ๊บ โรเจอร์ส แห่ง Ab Rogers Design ที่ออกแบบและสร้างผลงานด้วยคอนเซปต์ Circling Flows โดยเหล่าวันเดอเรอร์จะได้ดื่มด่ำกับมื้ออาหารผ่านรูปแบบการนำเสนอที่แปลกออกไป
แล้วเราไปร่วมดื่มด่ำทั้งอาหารพิเศษให้อิ่มท้องและดนตรีพิเศษให้อิ่มใจด้วยกันที่งาน Wonderfruit 13-16 ธันวาคมนี้
ดูข้อมูลเพิ่มเติม และสำรองที่นั่ง Wonder Feasts ได้ที่ www.wonderfruit.co/eats
พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า