×

กระแสการสะสมไวน์ในแถบเอเชียกำลังเติบโต หลัง Acker ร้านไวน์ที่เก่าแก่ในสหรัฐฯ ปิดยอดการประมูลไวน์ครั้งแรกในสิงคโปร์ไปได้ราว 130 ล้านบาท

19.10.2023
  • LOADING...
การสะสมไวน์

เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา (14 ตุลาคม) Acker ร้านไวน์เก่าแก่จากสหรัฐอเมริกา ได้จัดงานประมูลไวน์ขึ้นครั้งแรกที่โรงแรม Marina Bay Sands ประเทศสิงคโปร์ โดยมีผู้เข้าร่วมงานกว่า 250 ชีวิต พร้อมกับยอดประมูลสุทธิราว 4.2 ล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 130 ล้านบาท เพื่อสร้างกระแสการรับรู้เกี่ยวกับสินค้าสะสมชั้นยอดอย่างไวน์ให้เติบโตในแถบเอเชีย หลังเล็งเห็นโอกาสการเติบโตของนักสะสมรุ่นใหม่ในภูมิภาคแถบนี้

 

แต่ทั้งนี้ยอดการประมูลของ Acker ที่ทำได้ราว 4.2-5.8 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 130-200 ล้านบาท) นั้นก็ถือว่าต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้ก่อนหน้าว่าจะสามารถทำได้ถึง 7.5 ล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 262 ล้านบาท

 

โดยในงานประมูลดังกล่าวมีการนำไวน์มาจัดในงานมากกว่า 600 รายการ ซึ่งหนึ่งในนั้นก็มีไวน์ตัวท็อปอย่าง 1995 Domaine de la Romanee Conti, 14 Vintages of Bordeaux first-growth Chateau Latour ปี 1982, 2008 Screaming Eagle Cabernet Sauvignon จากแคลิฟอร์เนีย และ 14 Vintages of Krug Champagne

 

ทั้งยังมีเครื่องดื่มหายากมาเสนอในงานอย่างวิสกี้ Bowmore 46 ปี และวิสกี้ Macallan 52 ปี จากสกอตแลนด์ รวมไปถึงวิสกี้ Karuizawa 34 ปี จากญี่ปุ่น

 

งานดังกล่าวถือว่าได้รับความสนใจอย่างล้นหลาม ที่แม้แต่นักประมูลตัวยงของสิงคโปร์บางรายถึงกับต้องรอในรายชื่อ ‘Waitlist’ (รายชื่อรอเรียก) เพื่อจะได้เข้าไปในงานประมูล

 

โดย 2006 Screaming Eagle จำนวน 12 ขวดถูกขายไปในราคา 38,747 ดอลลาร์ หรือประมาณ 1.4 ล้านบาท ทำลายสถิติต่อขวดวินเทจที่มีราคาสูงที่สุด และ 2005 Domaine de la Romanee Conti ก็ขายไปในราคา 27,351 ดอลลาร์ หรือประมาณ 724,000 บาท

 

แต่ทั้งนี้เครื่องดื่มชั้นยอดบางรายการอย่าง ‘72 ปี Macallan single malt in a Lalique’ หรือ ‘35 ปี Karuizawa single malt ในถังไม้มรกตเกอิชา’ ก็กลับไม่ได้ถูกขายออกไปเช่นกัน

 

ร้าน Acker นั้นเริ่มต้นธุรกิจจากการทำร้านแพ็กเกจในปี 1820 ก่อนที่จะมาเริ่มจัดประมูลเครื่องดื่มในปี 1998 และมีการเข้ามาขายในแถบเอเชียที่ฮ่องกงเป็นประเทศแรกในช่วงปี 2008

 

John Kapon ประธานกรรมการของ Acker กล่าวว่า “เรามีฐานธุรกิจที่ค่อนข้างแข็งแรงในประเทศฮ่องกง และเรากำลังมุ่งเน้นการทำธุรกิจในสิงคโปร์ และประเทศรอบๆ อย่างมาเลเซีย อินโดนีเซีย หรือแม้แต่ประเทศไทย”

 

โดยทางร้าน Acker ยังไม่จำกัดรูปแบบการชำระเงินไว้ที่เพียงเงินสดหรือบัตรเครดิตเท่านั้น หากยังรับชำระผ่านการเงินรูปแบบใหม่ๆ อย่างคริปโต เช่น เหรียญ Bitcoin, Bitcoin Cash, Ethereum และ Dogecoin อีกเช่นกัน

 

John ยังเล็งเห็นโอกาสที่อยู่ข้างหน้าของธุรกิจนี้จากในงานประมูล โดยเขาชี้ว่ากว่า 55% ของผู้ประมูลเป็นลูกค้ารายใหม่ เขาจึงย้ำว่าคำมั่นในการขยายธุรกิจในพื้นที่แถบนี้จะเป็นไปอย่างแน่นอนและรวดเร็ว ทั้งยังตื่นเต้นต่อผลตอบรับที่จะได้รับจากงานประมูลในสิงคโปร์ที่จะจัดขึ้นในปี 2024 อีกด้วยเช่นกัน

 

อ้างอิง:

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising