×

หุ้น Watches of Switzerland ร่วงหนักเป็นประวัติการณ์! เมื่อ ‘Rolex’ ซื้อกิจการยักษ์รีเทล Bucherer กำลังสะเทือนวงการนาฬิกาแบรนด์หรู

26.08.2023
  • LOADING...

หุ้น ‘Watches of Switzerland’ ร่วง 30% สูงสุดเป็นประวัติการณ์ในวันเดียว หลัง Rolex แบรนด์นาฬิกาหรูสัญชาติสวิตเซอร์แลนด์ ประกาศเข้าซื้อกิจการ Bucherer ค้าปลีก วงการวิเคราะห์นี่อาจเป็นกลยุทธ์ใหม่สู่วงการค้าปลีกและตลาดมือสองของ Rolex ที่ปรับให้เข้ากับผู้บริโภคให้เข้าถึงได้ง่ายขึ้น แต่อาจไม่ใช่เรื่องที่น่าปลื้มเท่าไรนักสำหรับนักลงทุน

 

สำนักข่าว CNBC รายงานว่า ราคาหุ้นกลุ่มนาฬิกาหรูแห่งสวิตเซอร์แลนด์ มูลค่าหายไปเกือบครึ่ง หลังจาก Rolex ประกาศเข้าซื้อกิจการ Bucherer โดย Rolex ไม่เปิดเผยราคาการเข้าซื้อกิจการ มีเพียงคำแถลงการณ์ที่ระบุว่า การเข้าซื้อกิจการครั้งนี้เกิดขึ้นหลังจากการตัดสินใจของ Jorg Bucherer เจ้าของ Bucherer ซึ่งเป็นหลานชายวัย 86 ปีของ Carl Bucherer ผู้ก่อตั้ง มีแผนจะขายธุรกิจโดยไม่มีทายาทสายตรงเข้ามารับช่วงต่อ

 


ข่าวที่เกี่ยวข้อง:


 

โดยพร้อมจะสานต่อธุรกิจของ Bucherer ยักษ์ใหญ่ค้าปลีก และรักษาความสัมพันธ์อันใกล้ชิดที่มีมายาวนานของทั้งสองบริษัทตั้งแต่ปี 1924  

 

“กลุ่ม Rolex เชื่อมั่นว่าการซื้อกิจการครั้งนี้เป็นทางออกที่ดีที่สุด ไม่เพียงแต่สำหรับแบรนด์ของตนเองเท่านั้น แต่ยังรวมถึงแบรนด์พันธมิตรนาฬิกาและเครื่องประดับทั้งหมด รวมถึงพนักงานทุกคนของกลุ่ม Bucherer”

 

สำหรับ Bucherer เป็นผู้ค้าปลีกและเครื่องประดับชาวสวิสมีร้านค้ามากกว่า 100 แห่งทั่วโลก และยังคงเป็นพันธมิตรที่ใกล้ชิดกับ Rolex และเป็นเพื่อนธุรกิจร่วมชาติมาตั้งแต่ปี 1924 ดังนั้น ข้อตกลงดังกล่าวทำให้ Rolex กำลังก้าวไปสู่สถานะผู้ค้าปลีกเป็นครั้งแรก

 

อย่างไรก็ตาม Bucherer จะคงชื่อและแบรนด์ไว้ ส่วนทีมผู้บริหารก็ไม่เปลี่ยนแปลง และ Rolex ยืนยันว่า จะดำเนินการธุรกิจให้เข้ากับธุรกิจของ Rolex ก่อนการอนุมัติเข้าซื้อกิจการอย่างเป็นทางการ

 

อย่างไรก็ตาม ความเคลื่อนไหวดังกล่าว ทำให้ Watches of Switzerland พยายามที่จะลดความกังวลของตลาดที่ชัดเจนว่า Bucherer ซึ่งเป็นผู้ค้าปลีกนาฬิกาหรูรายใหญ่ที่สุดของโลก จะยึดส่วนแบ่งการตลาดมากขึ้นผ่านแบรนด์ Rolex

 

ขณะเดียวกัน Watches of Switzerland ตั้งข้อสังเกตว่าเหตุใด Jorg Bucherer ไม่สืบทอดธุรกิจครอบครัวทั้งที่ความปรารถนาของเขาคือการสร้างรากฐานมรดกด้วยรายได้จากการทำธุรกิจนี้ 

 

ความเคลื่อนไหวดังกล่าวทำให้หุ้นของบริษัทจดทะเบียนในลอนดอนร่วงลงมากถึง 29% ในช่วงการซื้อขายช่วงแรก ก่อนที่จะขาดทุนไป และแม้ว่าทั้ง Bucherer และ Rolex จะเป็นบริษัทเอกชน แต่ Watches of Switzerland ก็จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ลอนดอน และมีมูลค่าตลาดประมาณ 1.68 พันล้านปอนด์ (2.12 พันล้านดอลลาร์) ที่นอกเหนือจากจะครองตลาดสินค้าฟุ่มเฟือยแล้ว บริษัทยังคงรักษาระดับได้ดีในช่วงวิกฤตค่าครองชีพในสหราชอาณาจักร 

 

ทั้งนี้ บริษัทกล่าวว่าความต้องการนาฬิกายังคงแข็งแกร่ง และยืนยันว่าปีนี้รายรับจะไม่ต่ำกว่า 1.7 พันล้านปอนด์

 

กลยุทธ์ใหม่ของ Rolex เพื่อเจาะค้าปลีกและยึดตลาดมือสอง

 

สำนักข่าว The Business Time ระบุว่า การเข้าซื้อกิจการครั้งนี้ทำให้หุ้น Watches of Switzerland (WOSG) ร่วงลงเกือบ 30% ซึ่งลดลงสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในวันเดียว เนื่องจากเกิดคำถามเกี่ยวกับโอกาสของบริษัท

 

Russ Mould ผู้อำนวยการฝ่ายการลงทุนของนายหน้าค้าหุ้น AJ Bell กล่าวว่า ส่วนหนึ่งที่ราคาหุ้นร่วงนั้น นักลงทุนกลัวว่าจะทำให้ Bucherer ได้รับการดูแลเป็นพิเศษ รวมถึงความคาดหวังในการเข้าถึงนาฬิกาเปลี่ยนแปลงไป และบางส่วนตั้งข้อสังเกตว่ามีแนวโน้มที่จะกระทบกลุ่มผู้ผลิตผลิตภัณฑ์หลายราย รวมถึงแบรนด์ชุดกีฬาขนาดใหญ่ที่ขายตรงให้กับผู้บริโภค แต่ในทางกลับกันกลับเพิ่มความต้องการของลูกค้าและอัตรากำไรที่เพิ่มขึ้น ในอีกด้านสิ่งที่เกิดขึ้นกับ Rolex บริษัทสามารถใช้ Bucherer เป็นช่องทางในการขายโดยไม่ผ่านตัวแทนจำหน่ายที่ได้รับอนุญาตจากรายอื่นๆ 

 

อย่างไรก็ตาม เป็นที่น่าสังเกตว่า Watches of Switzerland เป็นหุ้นยอดนิยมในหมู่ผู้จัดการกองทุนระดับกลางหลายราย พวกเขาต้องจับตาประกาศของ Bucherer ที่กำลังเปลี่ยนแปลง ว่าจะกระทบต่อการลงทุนที่อาจจะเกิดขึ้นอย่างรุนแรงหรือไม่

 

Jon Cox หัวหน้าฝ่ายหุ้นสวิสของ Kepler Cheuvreux กล่าวว่า การที่ Rolex เข้าสู่วงการธุรกิจค้าปลีกอาจมีผลกระทบต่อผู้ขายที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เช่น Watches of Switzerland Group ในสหราชอาณาจักร และ The Hour Glass ในสิงคโปร์

 

แม้ Rolex จะผลิตนาฬิกามากกว่า 1 ล้านเรือนต่อปี และมียอดขายต่อปีมากกว่า 9 พันล้านฟรังก์สวิส และความต้องการนาฬิการุ่นที่ได้รับความนิยมสูงสุดของ Rolex เช่น นาฬิกาดำน้ำ Daytona, GMT และ Submariner ก็แทบไม่เพียงพอต่อการจำหน่าย

 

แต่การเข้าซื้อกิจการ Bucherer ถือเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญครั้งที่ 2 ในกลยุทธ์การค้าปลีกของ Rolex ในเวลาไม่ถึงหนึ่งปี หลังบริษัทได้เปิดตัวโครงการในเดือนธันวาคมเพื่อออกใบรับรองผลิตภัณฑ์ของแท้สำหรับนาฬิกามือสองที่จำหน่ายในตัวแทนจำหน่ายที่ได้รับอนุญาต รวมถึง Bucherer ซึ่งขณะนี้นาฬิกา Rolex กำลังครองตลาดมือสอง ทั้งจำนวนและมูลค่าที่มากกว่าคู่แข่งแบรนด์อื่นๆ

 

อ้างอิง:

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising