×

วันวิชิตมองสูตรหาร 100 เคลียร์ปัญหาบ้านใหญ่ชิงพื้นที่ในพลังประชารัฐ ไม่กลัวเพื่อไทยแลนด์สไลด์ เพราะฝากภูมิใจไทยรบแทน

16.08.2022
  • LOADING...
วันวิชิต บุญโปร่ง

วานนี้ (15 สิงหาคม) วันวิชิต บุญโปร่ง อาจารย์ประจำภาควิชารัฐศาสตร์ คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต ให้สัมภาษณ์รายการ THE STANDARD NOW ดำเนินรายการโดย อ๊อฟ-ชัยนนท์ หาญคีรีรัตน์ เผยแพร่ทาง Facebook และ YouTube ของ THE STANDARD กรณีสูตรคำนวณสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) บัญชีรายชื่อ หรือปาร์ตี้ลิสต์ ที่แน่นอนแล้วว่าจะใช้สูตรหาร 100 ผู้ดำเนินรายการถามว่า สุดท้ายน่าจะเป็นสูตรหาร 100 ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงอีกแล้วใช่หรือไม่ 

 

วันวิชิตกล่าวว่า ก็คงต้องสูตรหาร 100 ส่วนสูตรหาร 500 ไม่เป็นมงคลตั้งแต่ชื่อแล้ว อย่างไรก็ตาม ทั้งสองสูตรสะท้อนความแตกต่างทางความคิดระหว่างกลุ่มที่สนับสนุน พล.อ. ประวิตร วงษ์สุวรรณ และ พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา เพราะสัญญาณตอนพลิกกลับไปจะเลือกใช้สูตรหาร 500 เหมือนคนใกล้ตัว พล.อ. ประยุทธ์ จะได้รับการสั่งการให้เล่นหมากนี้ หรือบางคนบอกว่านี่คือการลับ ลวง พราง เพื่อเอาใจพรรคเล็ก นำไปสู่การเชื่อมโยงเพื่อเสียงสนับสนุนการอภิปรายไม่ไว้วางใจ พอหมดประโยชน์แล้วก็เชือดทิ้ง 

 

แต่ส่วนตัวมองว่า จริงๆ แล้วหากมองเจตนาอย่างบริสุทธิ์ เชื่อว่า พล.อ. ประยุทธ์ เสียดายสูตรหาร 500 เพราะพรรคเล็กหลายพรรคมีความใกล้ชิด พล.อ. ประยุทธ์ เช่น พรรคของ เอนก เหล่าธรรมทัศน์ แต่ไม่นับรวมพรรคที่ไปกินข้าวกับกลุ่ม ร.อ. ธรรมนัส พรหมเผ่า ดังนั้น พล.อ. ประยุทธ์ จึงเสียดายพรรคพันธมิตร 

 

อีกประการคือความไม่มั่นใจในเชิงยุทธศาสตร์การเลือกตั้งของพรรคที่สนับสนุนตัวเองคือพลังประชารัฐ ขณะที่ก็กลัวพรรคเพื่อไทยชนะแบบแลนด์สไลด์ เพราะถ้าใช้สูตรหาร 500 เพื่อไทยจะลดความแข็งแกร่ง แต่พรรคพลังประชารัฐเองก็หาเสียงยาก 

 

ประการต่อมา ถ้าใช้สูตรหาร 500 เท่ากับบีบบังคับบรรดา ‘บ้านใหญ่’ ตระกูลการเมือง ให้ต้องลง ส.ส.เขต ซึ่งต้องทุ่มงบประมาณมหาศาล แพ้กันไม่ได้ ตระกูลทางการเมืองจะมีปัญหาทันที เช่น พรรคพลังประชารัฐที่จังหวัดชลบุรียังแบ่งกันไม่ลงตัวระหว่างบ้านใหญ่ของ สนธยา คุณปลื้ม กับบ้านใหม่ของ สุชาติ ชมกลิ่น ยังแบ่งกันไม่ลงตัว 

 

แต่หากใช้สูตรหาร 100 จะง่ายขึ้น ให้บ้านใหญ่กับบ้านใหม่ลงปาร์ตี้ลิสต์ ส่วนเขตก็แบ่งกันไปดูเด็กๆ จะทำให้เขาเคลียร์กันได้ ขณะที่สูตรหาร 500 ต้องรบราฆ่าฟันกัน เพราะปาร์ตี้ลิสต์พรรคใหญ่จะไม่ได้ ดังนั้นการกลับไปสูตรหาร 100 นอกจากเอาใจนักเลือกตั้ง ตระกูลทางการเมืองไม่ต้องรบราฆ่าฟันแล้ว ส่วนตัวมองว่าเป็นการประนีประนอม โดยที่คนแวดล้อมของ พล.อ. ประวิตร มองขาด 

 

ผู้ดำเนินรายการถามว่า เป็นการประลองฟาดฟันกันระหว่าง พล.อ. ประยุทธ์ กับ พล.อ. ประวิตร เพื่อตัด พล.อ. ประยุทธ์ ออกด้วยสูตรหาร 100 หรือไม่ 

 

วันวิชิตกล่าวว่า คนรอบข้างอาจจะงัดกัน แต่มองว่าความสัมพันธ์ของทั้ง 3 ป. ยังเหมือนเดิม เป็นบทแบ่งกันเล่น ต่างฝ่ายต่างเล่น 

 

เมื่อผู้ดำเนินรายการถามว่า การเลือกตั้งครั้งต่อไปพรรคพลังประชารัฐจะเสนอชื่อ พล.อ. ประยุทธ์ เป็นนายกรัฐมนตรีหรือไม่ 

 

วันวิชิตกล่าวว่า ถ้าศาลรัฐธรรมนูญตัดสินเป็นคุณกับ พล.อ. ประยุทธ์ ให้อยู่ได้อีก 4 ปี ก็ง่ายสำหรับ พล.อ. ประยุทธ์ ได้ไปต่อ แต่ถ้า 2 ปีตามที่ พล.อ. ประวิตร หลุดออกมาก็น่าสนใจ เพราะลำดับถัดจาก พล.อ. ประยุทธ์ ก็ต้องเป็น พล.อ. ประวิตร ซึ่งพรรคพลังประชารัฐจะหาเสียงยากมาก โดยเฉพาะในภาคอีสาน ถ้าสนับสนุน พล.อ. ประยุทธ์ อยู่ 2 ปีแล้วใครเป็นต่อ พรรคพลังประชารัฐมีความชัดเจนหรือไม่

 

พล.อ. ประวิตร คงทราบว่าหากเป็นรักษาการหรือนายกฯ ก็จะไม่ได้รับการแซ่ซ้องสรรเสริญ มองว่าความสุขของ พล.อ. ประวิตร คือการเป็น King Maker แบบที่เป็นอยู่ เป็นคนมีบาร มีตัวจริง แบ่งบทกันเล่นใน 3 ป. แบบทฤษฎี 3 เส้า ทำให้เขารันอำนาจของเขามาได้ 8 ปี ให้มีความสมดุล ไม่มีใครได้เปรียบเสียเปรียบ ต่างฝ่ายต่างพึ่งพากัน 

 

ประการต่อมา ถ้าเป็น 2 ปีแล้วยุบสภา นักการเมืองก็ไม่ยอม เพราะเหนื่อยมาแทบตายเพื่อมาค้ำบัลลังก์แค่ 2 ปี ก็คงไม่ใช่ อย่างไรก็ตาม พล.อ. ประยุทธ์ อาจถ่ายโอนอำนาจไปที่ พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ เพราะการรวมเสียงเกิดขึ้นได้ทั้งสิ้นภายหลังการเลือกตั้ง พีระพันธุ์เป็นผู้ได้รับความไว้วางใจจาก พล.อ. ประยุทธ์ อย่างสูง เชื่อมได้ทุกเครือข่ายในปีกอนุรักษนิยม แต่ในแง่ภาพบารมี เนื่องจากเล่นบทกั๊กมาตลอด ไม่ยอมเปลืองตัว ไม่กล้าได้กล้าเสียในความเป็นนักการเมือง ภาพจึงไม่มีความชัดเจนทางการเมือง ซึ่งเป็นโจทย์หนักของพลังประชารัฐ 

 

“ส่วนประเด็นว่าไม่กลัวเพื่อไทยแลนด์สไลด์จากสูตรนี้หรือ ผมมองว่า พลังประชารัฐฝากเพื่อนรบแทน คือมีพรรคภูมิใจไทย เช่น เขตอีสานใต้หรือภาคกลาง ตระกูลทางการเมืองหรือ ส.ส. ย้ายมาอยู่ภูมิใจไทยเยอะ หากอนุทินไม่ได้เป็นนายกฯ อนุทินก็พอใจที่จะต่อรองกระทรวงเพิ่ม กระทรวงเกรดเอ เพราะตระกูลทางการเมืองไหลเข้าภูมิใจไทยเยอะมาก การชูบางนโยบายแมตช์กับกระทรวงมหาดไทย เป็นการเล็งกระทรวงเพิ่ม” วันวิชิตกล่าว

 

ผู้ดำเนินรายการถามว่า หากมีผู้ไปยื่นศาลรัฐธรรมนูญ แล้วศาลตีตกร่างสูตรหาร 100 เป็นไปได้หรือไม่ 

 

วันวิชิตกล่าวว่า ถ้ากลับไปใช้กติกาเลือกตั้งปี 2562 จะไม่เป็นผลดีกับพรรคพลังประชารัฐเอง เป็นการฮาราคีรีตัวเอง แม้เลือกตั้งบัตรใบเดียว แต่ ส.ส. พรรคพลังประชารัฐ จะไม่มีกระแส คนจะเลือกไปในทางตรงข้ามด้วยอารมณ์รับไม่ได้กับกลไกที่นำไปสู่ความได้เปรียบของตัวเอง จึงเลือกประชด กำหนดกติกาตัวเอง และไม่มีกระแสตามมาด้วย ทำอะไรก็แพ้ 

 

ประการต่อมา หากสูตรคำนวณหาร 100 แน่นอนแล้ว คณะกรรมการการเลือกตั้งควรจะออกมาแสดงความชัดเจนว่าคะแนนขั้นต่ำเท่าไร แล้วก็เลิกคะแนน ส.ส. พึงมี สักที พึงมีแต่คุณภาพต่ำ ประชาชนไม่เอา ที่ผ่านมาเห็นฤทธิ์เดชแล้ว วันๆ ไม่ทำอะไร ได้แต่รวมตัวให้ผู้ใหญ่เลี้ยงข้าว ไม่รู้หิวมาจากไหน อย่าให้เกิดการลุกลามทางความรู้สึกอีกเลย

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising
X