วันนี้ (18 กันยายน) ที่อาคารรัฐสภา สิตานัน สัตย์ศักดิ์สิทธิ์ พี่สาวของ วันเฉลิม สัตย์ศักดิ์สิทธิ์ ผู้ถูกบังคับให้สูญหาย ยื่นหนังสือต่อ รังสิมันต์ โรม สส. แบบบัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดนไทย ยุทธศาสตร์ชาติและการปฏิรูปประเทศ สภาผู้แทนราษฎร หลังถูกเจ้าหน้าที่รัฐคุกคาม
สิตานันระบุว่า หลังจากวันเฉลิมถูกบังคับให้สูญหายในปี 2563 ตลอดระยะเวลา 4 ปี ตนเองได้ออกมาเรียกร้องความเป็นธรรม กระทั่งถูกคุกคามและขึ้นบัญชีดำเป็นภัยความมั่นคงแห่งชาติ ปีนี้ก็ถูกตำรวจที่ออกจากราชการไปแล้วกักขังหน่วงเหนี่ยวไม่ให้ตนเองไปถึงบ้านจันทร์ส่องหล้าในวันที่ ฮุน เซน ประธานองคมนตรีกัมพูชา มาเยี่ยม ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี
นอกจากนี้ เมื่อวันที่ 5 กันยายนที่ผ่านมา ซึ่งเป็นวันผู้สูญหายสากล ก็ถูกสั่งห้ามจัดแสดงภาพของวันเฉลิมในพื้นที่จัดแสดง จึงตั้งคำถามว่า ผู้หญิงคนหนึ่งที่ตามหาน้องชายกลับถูกขึ้นบัญชีดำเป็นภัยความมั่นคงได้อย่างไร
ด้าน พรเพ็ญ คงขจรเกียรติ ผู้อำนวยการมูลนิธิผสานวัฒนธรรม ในฐานะทนายความที่ติดตามคดีมาตั้งแต่ต้น ระบุว่า ในฐานะนักสิทธิมนุษยชนมักจะถูกติดตามและคุกคามเป็นประจำ กรณีของสิตานันซึ่งผันตัวมาเป็นนักกิจกรรมเรียกร้องให้เกิดการเปลี่ยนแปลง แต่ก็ถือว่ายังเป็นผู้เสียหายที่ออกมาเรียกร้องสิทธิให้กับทุกคน
“เรามาเรียกร้องเรื่องความปลอดภัยของนักสิทธิมนุษยชนและทนายความที่ไม่สมควรถูกขึ้นบัญชีดำ เราอยากให้ทุกคนปลอดภัย การขึ้นบัญชีดำในรัฐบาลทหารเป็นการยอมรับโดยประเพณี แต่ขณะนี้มีรัฐบาลจากประชาธิปไตย มาจากการเลือกตั้ง การขึ้นบัญชีดำจึงถือเป็นความไม่ชอบธรรมและไม่อาจกระทำได้” พรเพ็ญกล่าว
ด้านรังสิมันต์กล่าวว่า เรื่องนี้อยู่ในอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมาธิการ และเมื่อรับฟังเหตุการณ์แล้วก็รู้สึกแปลกใจ เพราะนึกว่าอยู่ในรัฐบาลที่แล้ว หากเกิดขึ้นจริงถือเป็นเรื่องใหญ่ เพราะทำให้คนกลายเป็นภัยต่อรัฐ หากพิจารณาวัตถุประสงค์ของ พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหาย พ.ศ. 2565 คือการทำให้ผู้ที่เกี่ยวข้องเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม การซ้อมทรมานและการอุ้มหายเป็นเรื่องที่ยอมรับไม่ได้ พร้อมรับปากว่าจะนำเรื่องนี้เข้าหารือกับคณะกรรมาธิการความมั่นคงแห่งรัฐฯ ในวันพรุ่งนี้ (19 กันยายน)
รังสิมันต์กล่าวด้วยว่า สิ่งที่คณะกรรมาธิการทำได้ทันทีคือ การสอบข้อเท็จจริงและรับฟังข้อเท็จจริงจากฝ่ายรัฐบาล หากกระทำผิดจริงจะต้องมีการรับผิดรับชอบ ส่วนประเด็นที่เกี่ยวข้องกับวันเฉลิมที่ไม่มีความคืบหน้า ควรต้องให้ความกระจ่าง เพราะมีคลิปวิดีโอและหลักฐานชัดเจน หากเราทำกรณีนี้ให้มีคุณภาพ จะทำให้คดีอุ้มหายอื่นๆ ได้รับความคุ้มครอง และได้รับความมั่นใจว่าจะไม่มีเหตุการณ์ในลักษณะเช่นนี้อีก