×

ตลาดหุ้น Wall Street กอดคอร่วง นักลงทุนกลับมากังวลโอไมครอน พร้อมจับตาดูผลประชุม Fed สัปดาห์นี้

14.12.2021
  • LOADING...
Wall Street

บรรยากาศตลาดหุ้น Wall Street เปิดตลาดรับสัปดาห์ใหม่ (13 ธันวาคม) ท่ามกลางกระแสความหวาดวิตกของการระบาดของเชื้อโควิดกลายพันธุ์สายพันธุ์โอไมครอนที่ทวีความรุนแรงขึ้น บวกกับการตั้งใจรอดูท่าทีของธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) ต่อภาวะเงินเฟ้อ ทำให้นักลงทุนส่วนใหญ่ชะลอการลงทุน ส่งผลให้ตลาดหุ้น Wall Street วานนี้ (13 ธันวาคม) ปิดตลาดในแดนลบ

 

ทั้งนี้ ดัชนีอุตสาหกรรม Dow Jones ปรับตัวลดลง 320.04 จุด หรือ 0.89% ปิดที่ 35,650.95 จุด ส่วนดัชนี S&P 500 ลดลง 43.05 จุด หรือ 0.91% ปิดที่ 4,668.97 จุด และดัชนี Nasdaq ลดลง 217.32 จุด หรือ 1.39% ปิดที่ 15,413.28 จุด

 

โดยหุ้นที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดคือหุ้นที่เกี่ยวข้องกับการเดินทาง หลังพบว่าตัวกลายพันธุ์ใหม่โอไมครอนที่แพร่เชื้อได้ง่ายมากนี้ คิดเป็นสัดส่วนถึง 40% ของกรณีผู้ติดเชื้อใหม่โควิดในลอนดอน และมีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 1 รายในอังกฤษ

 

รายงานระบุว่า หุ้นของ Carnival Corp, Norwegian Cruise Line Holdings และ Royal Caribbean Cruises ต่างปิดลบมากกว่า 5% ขณะที่หุ้นของสายการบินต่างๆ นำโดย United Airlines ก็ขยับลงเป็นส่วนใหญ่เช่นกัน ส่วนอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ อายุ 10 ปี ปรับตัวลดลง 1.46%

 

ขณะที่บรรยากาศตลาดหุ้นอื่นๆ ทั่วโลกเมื่อวานนี้ค่อนข้างสดใส โดยดัชนี Shanghai Composite ของจีน, ดัชนี Hang Seng ของฮ่องกง และดัชนี Nikkei 225 ของญี่ปุ่น ต่างปรับตัวเพิ่มขึ้นเล็กน้อย โดยได้แรงหนุนจากความคาดหวังว่า Fed จะเร่งกระบวนการ QE และปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วกว่าที่คาดการณ์กันไว้

 

ในส่วนของราคาน้ำมันดิบปรับตัวลงเล็กน้อย โดยราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส งวดส่งมอบเดือนมกราคม ลดลง 38 เซนต์ ปิดที่ 71.29 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล ด้านน้ำมันดิบเบรนต์ทะเลเหนือ งวดส่งมอบเดือนกุมภาพันธ์ ลดลง 76 เซนต์ ปิดที่ 74.39 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล เหตุนักลงทุนยังไม่คลายความกังวลว่าโอไมครอนจะสร้างความเสียหายต่ออุปสงค์น้ำมัน

 

ด้านทองคำขยับขึ้นในแดนบวกเล็กน้อย รับความกังวลโอไมครอนกับค่าเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าลง ผลักให้ราคาทองคำในวันจันทร์ (13 ธันวาคม) ปิดในแดนบวก โดยราคาทองคำโคเม็กซ์ งวดส่งมอบเดือนกุมภาพันธ์ เพิ่มขึ้น 3.50 ดอลลาร์สหรัฐ ปิดที่ 1,788.30 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์

 

วันเดียวกันมีรายงานว่า Intel Corporation บริษัทด้านเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ชั้นนำของสหรัฐฯ ประกาศเดินหน้าพัฒนาซอฟต์แวร์ที่จะเปิดทางให้คอมพิวเตอร์แล็ปท็อปสามารถใช้ประโยชน์จากระบบคอมพิวติ้งของอุปกรณ์อื่นๆ ซึ่งครอบคลุมชิปประมวลผลของคู่แข่งได้ นับเป็นก้าวแรกของ Intel ในการเดินหน้าผสานเข้าสู่โลก Metaverse โลกเสมือนไร้พรมแดนได้ ยกตัวอย่างเช่น ในกรณีที่ผู้ใช้งานแล็ปท็อปรู้สึกว่าระบบชิปของแล็ปท็อปไม่พอสำหรับการเล่นเกมที่มีกราฟิกเข้มข้นได้ ก็สามารถเชื่อมชิปของแล็ปท็อปเข้ากับคอมพิวเตอร์ PC ที่มีอยู่ในบ้าน เพื่อใช้ชิปของ PC ช่วยให้การเล่นเกมบนแล็ปท็อปเป็นไปอย่างราบรื่นมากยิ่งขึ้น

 

ในส่วนของบริษัทเทคโนโลยีชั้นนำของโลกอย่าง Apple ทางสถานีโทรทัศน์ CNBC รายงานว่า วานนี้ (13 ธันวาคม) หุ้นของ Apple ขยับขึ้นทำสถิติสูงสุดระลอกใหม่ โดยมูลค่าตลาดของบริษัทขยับเข้าใกล้เกือบแตะ 3 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐแล้ว และมีแนวโน้มที่จะขยับเพิ่มมูลค่าอีกจากผลิตภัณฑ์ของ Apple ที่ออกมาหลายรุ่นในปีนี้ ขณะที่หุ้นเทคโนโลยีอย่าง Microsoft และ Amazon ก็ขยับเพิ่มขึ้นตามมาด้วยเช่นกัน และต่างมีมูลค่าสูงกว่า 1 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐด้วยกันทั้งสิ้น

 

อ้างอิง:


 

ช่องทางติดตาม THE STANDARD WEALTH


Twitter: twitter.com/standard_wealth
Instagram: instagram.com/thestandardwealth
Official Line: https://lin.ee/xfPbXUP

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

X
Close Advertising