ทุกวันนี้ร้านอาหารมากมายต่างนำเสนอเรื่องราวน่าทึ่งของวัตถุดิบ ควบไปกับความสวยงามชวนแชะลงโซเชียลมีเดียยิ่งกว่าเก่า และมีเหตุผลทางวิทยาศาสตร์ที่ชี้ว่าเสียงดนตรีคลอบรรยากาศ ตลอดจนช้อนส้อมที่ใช้ก็มีผลต่อรสชาติของอาหาร แต่เท่านั้นไม่พอ เพราะล่าสุด James Beard House ในมหานครนิวยอร์กได้เปิดตัว ‘การกินเสมือนจริง’ เพื่อเปิดประสบการณ์การรับประทานอาหารไปสู่อีกระดับแล้ว
มื้ออาหารเสมือนจริงนี้จัดทำโดย Aerobanquets RMX ผู้จัดที่นำเสนอ ‘ศิลปะแห่งการกินเสมือนจริงผ่านอาหาร 7 คำ’ นำโดยศิลปินชาวอิตาเลียน มัตเตีย คาซาเลกโน (Mattia Casalegno) ร่วมกับอาหารของ 2 เชฟ ชินตัน ปันดญา (Chintan Pandya) และโรนี มาซุมดาร์ (Roni Mazumdar) แห่งร้าน Rahi และร้าน Adda สองร้านอาหารอินเดียชื่อดังในนิวยอร์ก
Photo: Tomohiro Ohsumi/Getty Images
ผู้ที่สำรองที่นั่งไปรับประสบการณ์ 1 ชั่วโมงนี้จะต้องสวมเฮดเซตเครื่อง VR โดยมีเสียงพากย์ของผู้บรรยาย เกล ซิมมอนส์ (Gail Simmons) นักเขียนอาหารชื่อดังเป็นผู้เล่าเรื่อง โดยประสบการณ์กินใหม่นี้เพิ่งเปิดตัวในอเมริกา หลังจากประสบความสำเร็จอย่างมากในประเทศจีนและเกาหลี โดยสนนราคาอยู่ที่ 125 ดอลลาร์ (ราวๆ 3,800 บาท) ต่อคน
“เราใช้ชีวิตในโลกที่หลุดจากความเป็นจริงขึ้นเรื่อยๆ ผ่านโทรศัพท์ ผมอยากทำให้คนกลับมาสู่โลกความเป็นจริง และการกินเป็นสิ่งที่จริงมากที่สุดแบบที่ยังไม่มีอะไรมาแทนได้” ศิลปินอิตาเลียนกล่าวกับ The Washington Post “ทุกครั้งที่คุณไปร้านอาหาร คุณมักจะคิดว่ามันควรจะกินแบบนี้แบบนั้น รสชาติเนื้อ ปลา หรือผักควรจะเป็นอย่างไร เรารับรู้ได้ถึงรสอาหารในจินตนาการไปแล้วเรียบร้อย ผมเลยอยากจำลองประสบการณ์เสมือนจริงเช่นนั้นมาให้คุณได้ทดลองกัน”
ส่วนผู้ที่ไปทดลอง ‘ชิม’ ได้อธิบายประสบการณ์ว่าเป็นห้องมืด มีเก้าอี้หมุน และคุณจะได้เห็นแต่สิ่งที่ศิลปินอยากให้เห็นเท่านั้นผ่านเครื่อง VR มือของคุณจะดูเป็นมือหุ่นยนต์ ช้อนส้อมเต้นระบำ หรือ เหมือนหลุดไปอยู่ในโลกของซัลวาดอร์ ดาลี ที่คนที่ไปกินได้สัมผัสโลกของอาหาร แต่อาจจะแปลกกว่าตอนไปร่วมงานน้ำชาแบบอลิซในแดนมหัศจรรย์
มิตเชล เดวิส (Mitchell David) หัวหน้าทีมเจ้าหน้าที่ฝ่ายกลยุทธ์ของมูลนิธิ James Beard Foundation เผยว่าเป็นการนำเสนอที่ไม่ต่างกับร้านอาหารชื่อดังในปัจจุบัน “ที่ร้าน El Buli ในสเปน เทคโนโลยีล้ำๆ ด้านอาหารนั้นอยู่ในครัว และคนเป็นร้อยรวมพลังสร้างสรรค์งานที่ใช้หลักวิทยาศาตร์มาใส่ในการนำเสนอมุมต่างๆ ของอาหารที่มากไปกว่ารสชาติ ขณะที่สิ่งที่เราทำอาหารอาจธรรมดากว่า แต่เรื่องของเทคโนโลยีนั้นตั้งอยู่ตรงหน้าและล้อไปกับการกิน”
งานที่เคยจัดที่เซี่ยงไฮ้
Photo: creativeapplications.net
แต่คอนเซปต์นี้หาใช่เรื่องใหม่ เพราะก่อนหน้านั้นเมื่อปี 2018 ร้านอาหาร Tree by Naked ในกรุงโตเกียวของญี่ปุ่น ก็เปิดตัวคอนเซปต์การกินแบบสวมเครื่อง VR มาแล้ว โดยนำเรื่องของงานครัวมาเสนอควบคู่ไปกับการเล่นกับโสตประสาทและสัมผัสต่างๆ ซึ่งยิ่งไปกว่านั้นยังนำพาผู้มารับประทานอาหารออกเดินทั่วอาคารทั้ง 3 ชั้น เพื่อติดตามเรื่องราวที่นำเสนอผ่านอาหาร 6 คอร์สด้วยกัน
หากคุณวางแผนไปนิวยอร์ก สามารถสำรองมื้อที่เป็นที่พูดถึงอย่างมากกันได้ทั้งแบบมื้อกลางวันและมื้อเย็น โดยเปิดบริการตั้งแต่วันพฤหัสบดีจนถึงวันอาทิตย์ จนถึงปลายเดือนมกราคม 2020 ที่สำคัญบัตรยังขายหมดอย่างรวดเร็วในแต่ละรอบการเปิดจองอีกด้วย แต่ใครจะรู้ว่าเราอาจมีโอกาสได้ ‘ลิ้มลอง’ ประสบการณ์นี้กันที่เมืองไทยเร็วๆ นี้ก็เป็นได้
ส่วนใครที่อยากวอร์มอัปหาประสบการณ์การกินใหม่ๆ ใกล้ตัวเรา แนะนำความอิ่มที่มาพร้อมเรื่องราว ภาพ แสง สี เสียง กันไปพลางๆ ที่ Le Petit Chef หรือ Digital Delicious
อ่านเรื่อง เมื่อเทคโนโลยีและศิลปะพบกัน เพื่อรังสรรค์มื้ออาหารรูปแบบใหม่ที่ Digital Delicious ใจกลางกรุงได้ที่ thestandard.co/digital-delicious
ชมวิดีโอเคยชิมอาหารฝีมือพ่อครัวตัวจิ๋วที่สุดในโลกกันหรือยังได้ที่ thestandard.co/le-petit-chef (วันนี้ถึง 31 ธันวาคม 2562 ที่โรงแรมเชอราตัน แกรนด์ สุขุมวิท)
ภาพ; Tomohiro Ohsumi/Getty Images, Shutterstock
พิสูจน์อักษร: ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์
อ้างอิง: