วันนี้ (9 พฤษภาคม) ที่ทำเนียบรัฐบาล วราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ในฐานะหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา ระบุถึงกรณีที่ พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ขึ้นเวทีดีเบตโดยสุ่มเลือกการตอบคำถามว่า ใครจะได้เป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งได้ชื่อของ กัญจนา ศิลปอาชา ประธานที่ปรึกษาพรรคชาติไทยพัฒนา แล้วพิธากล่าวว่า “กังวลว่าประเทศไทยจะกลายเป็นสุพรรณบุรี” ซึ่งวราวุธระบุว่า ตนรับทราบเรื่องดังกล่าวแล้ว เนื่องจากมีชาวสุพรรณบุรีได้ส่งข้อความมายังตน ซึ่งเหมือนสุพรรณบุรีแล้วมันเสียหายตรงไหน แต่เชื่อว่าจากการทำงานร่วมกันมากับพิธาในสภาผู้แทนราษฎร ทั้งพิธาและพรรคก้าวไกลเชื่อมั่นในความเสมอภาคและความเท่าเทียม จึงเชื่อมั่นได้ว่าไม่ได้หมายความอย่างที่พูด
วราวุธย้ำด้วยว่า จากการขึ้นเวทีดีเบตร่วมกันมาหลายครั้ง พิธาก็ไม่ได้คิดเช่นนั้น ฉะนั้นขออย่านำเรื่องที่ไม่เป็นเรื่องมาให้เป็นเรื่องดีกว่า เพราะอีกไม่กี่วันจะถึงการเลือกตั้งแล้ว ขอให้โฟกัสกันที่นโยบาย หากพลาดพลั้งหรือไม่ได้ตั้งใจก็ปล่อยผ่านไปดีกว่า อย่าให้เป็นเรื่อง
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า จะดูแลความรู้สึกของชาวสุพรรณบุรีอย่างไร วราวุธกล่าวว่า ตนได้ชี้แจงไปว่า ในความเป็นจริงเราทำงานกันอย่างต่อเนื่องในจังหวัดสุพรรณบุรี และหลายคนอาจมีข้อกังขาว่าสุพรรณบุรีพัฒนาในช่วงที่ บรรหาร ศิลปอาชา ดำรงตำแหน่งเป็นนายกรัฐมนตรี ตนขอชี้แจงว่าระหว่างที่บรรหารดำรงตำแหน่งต่างๆ สามารถตรวจสอบได้ว่าบรรหารทำงานให้กับคนไทยทั่วประเทศทุกจังหวัด และสมัยดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี บรรหารก็ลงพื้นที่ภาคใต้เป็นจุดแรก ไม่ได้มาสุพรรณบุรีด้วยซ้ำ
แต่ในช่วงที่เป็นเพียง ส.ส. ก็แน่นอนว่าจะต้องทำงานให้กับชาวสุพรรณบุรี ซึ่งเป็นเรื่องปกติของ ส.ส. พร้อมย้ำว่าในพื้นที่จังหวัดสุพรรณบุรีเราก็ยังทำงานกันอย่างเหนียวแน่น
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า มองอย่างไรในการปราศรัยของพรรคก้าวไกลในระยะหลังมักโจมตีบ้านใหญ่ของพื้นที่ต่างๆ วราวุธกล่าวว่า หากเป็นเช่นนั้นจริงก็ต้องขอบคุณที่เห็นเราเป็นบ้านใหญ่ เพราะศิลปอาชามีบ้านใหญ่คือสุพรรณบุรี และตนได้พูดหลายครั้งแล้วว่าสุพรรณบุรีไม่มีบ้านใหญ่ แต่บ้านใหญ่ของศิลปอาชาคือสุพรรณบุรี ซึ่งตนเข้าใจดีว่าการอยู่บนเวทีปราศรัยมีคนฟังเรือนหมื่น บางครั้งบรรยากาศก็พาไป ฉะนั้นเรื่องไม่เป็นเรื่องอย่าให้เป็นเรื่องดีกว่า ขอให้โฟกัสที่นโยบายพรรค
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า มีการประเมินช่วงโค้งสุดท้ายอย่างไร เนื่องจากพรรคชาติไทยพัฒนาเป็นพรรคขนาดเล็ก วราวุธกล่าวว่า เป็นเรื่องที่คาดเดาได้ยาก ซึ่งผลโพลที่ออกมาอาจจะเป็นเพียงความเห็นของประชาชนส่วนหนึ่ง แต่ตนคิดว่าโพลที่แม่นที่สุดคือเช้าวันที่ 14 พฤษภาคม และตกเย็นก็จะรู้ว่าประชาชน 50 กว่าล้านเสียงมีแนวทางอย่างไร