วันนี้ (16 ตุลาคม) รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงความก้าวหน้าของการฉีดวัคซีน Pfizer ในเด็กนักเรียนอายุ 12-18 ปี ตอนนี้มีที่แสดงความประสงค์ฉีดวัคซีนผ่านคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดทั่วประเทศแล้วกว่า 4.07 ล้านราย จากเดิมที่ช่วงต้นมีแจ้งไว้ 3.61 ล้านราย และกระทรวงศึกษาธิการจะทำการสำรวจการฉีดวัคซีนของนักเรียนรอบสองอีกครั้งว่ายังมีนักเรียนคนไหนตกหล่นอีกหรือไม่
ข้อมูล ณ วันที่ 14 ตุลาคม มีนักเรียนได้รับการฉีดวัคซีนเข็มที่ 1 ไปแล้ว 8.64 แสนราย ขณะที่นักศึกษาและบุคลากรในสถาบันอุดมศึกษา สังกัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ได้รับวัคซีนกว่า 1 ล้านโดสแล้ว แบ่งเป็นผู้ที่ฉีดเข็มที่ 1 จำนวน 6.16 แสนราย และฉีดครบ 2 เข็ม 3.84 แสนราย แยกเป็นในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑลจำนวน 7.63 แสนราย และต่างจังหวัด 2.37 แสนราย ซึ่งจากการเฝ้าระวังอาการไม่พึงประสงค์ทั้งกลุ่มนักเรียนและนักศึกษายังไม่มีรายงานการเกิดภาวะกล้ามเนื้อ/เยื่อหุ้มหัวใจอักเสบ
รัชดากล่าวต่อไปว่า กระทรวงสาธารณสุขได้ให้ข้อมูลเพิ่มเติม เด็กเพศชายที่มีโรคประจำตัว 7 กลุ่มโรค เด็กเพศหญิงและเด็กชายอายุ 16-18 ปี สามารถรับวัคซีนเข็มที่ 2 ได้ใน 3-4 สัปดาห์หลังฉีดวัคซีนเข็มแรก ส่วนเด็กชายอายุ 12 ถึงต่ำกว่า 16 ปีที่ฉีดวัคซีน Pfizer เข็มแรกไปแล้วนั้น คณะอนุกรรมการวิชาการจะประชุมหาข้อสรุปเรื่องการฉีดวัคซีนเข็มที่ 2 ในวันที่ 20 ตุลาคมนี้ ก่อนที่จะเริ่มมีการฉีดเข็ม 2 ตามกำหนดในวันที่ 25 ตุลาคม
ทั้งนี้ ขอให้ผู้ปกครอง/นักเรียนอย่าหลงเชื่อข่าวปลอมในโซเชียลมีเดียที่สร้างความวิตกกังวล ให้ติดตามข้อมูลจากกระทรวงสาธารณสุขและคณะแพทย์หรือนักวิชาการของกระทรวงฯ ที่มีการตรวจสอบยืนยันได้ ในส่วนของเด็กนักเรียน/นักศึกษาที่ได้รับวัคซีน Pfizer ทุกคน งดการออกกำลังกายหรือกิจกรรมหนักหลังจากได้รับวัคซีนเป็นเวลา 1 สัปดาห์