เมื่อเอ่ยถึงพลังงานสะอาด หลายประเทศต่างหันมาพึ่งพาการนำเข้าก๊าซธรรมชาติเหลว (Liquefied Natural Gas: LNG) เพื่อผลิตไฟฟ้า รวมถึงประเทศไทยด้วย แม้ว่าปัจจุบันแหล่งก๊าซธรรมชาติในอ่าวไทยยังถือว่าไม่เพียงพอ
โดยที่ผ่านมาผู้ส่งออกรายใหญ่ที่สุดในโลกมี 2 ประเทศ คือ ออสเตรเลียและกาตาร์ ส่วนผู้นำเข้ารายใหญ่ คือ จีน ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้
สำนักข่าว Reuters รายงานว่า จากข้อมูลการติดตามเรือบรรทุกน้ำมันของสหรัฐฯ ล่าสุดระบุว่า การส่งออกก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG) ของสหรัฐฯ พุ่งแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ทั้งรายเดือนและรายปีในปี 2566 ส่งผลให้สหรัฐฯ กลายเป็นผู้ส่งออก LNG รายใหญ่ที่สุดของโลก ตามด้วยกาตาร์และออสเตรเลียที่เป็นผู้ส่งออก LNG รายใหญ่ในปีที่ผ่านๆ มา
ปัจจัยหลักที่สหรัฐฯ ถูกบันทึกสถิติมากเป็นประวัติการณ์ในครั้งนี้ นอกจากอุปทานโลกที่นับวันจะเพิ่มมากขึ้นแล้ว สหรัฐฯ ยังได้รับแรงหนุนจาก 2 ปัจจัยนั่นคือ Freeport LNG เริ่มกลับมาให้บริการเต็มรูปแบบ โดยมีกำลังผลิตเพิ่มขึ้นถึง 6 ล้านตัน บวกกับปริมาณการผลิตของโรงงานหลักอย่าง Calcasieu Pass ของ Venture Global LNG ที่เพิ่มขึ้นอีก 3 ล้านตัน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
- จับตาตลาด LNG อาเซียน! เมื่อเวียดนาม ไทย และอินโดนีเซีย ต่างหันมาพึ่งพาก๊าซธรรมชาติ นักวิเคราะห์เผย อีก 10 ปีอุปสงค์อาจพุ่งสูงถึง 4 เท่า
- ‘สงครามอิสราเอล-ฮามาส’ เพิ่มความเสี่ยงต่อภาคพลังงานและสะเทือนเศรษฐกิจอาเซียน หากยังพึ่งพาการนำเข้าและไม่เร่งเพิ่มกำลังผลิตพลังงานหมุนเวียน
โดยยุโรปยังคงเป็นจุดหมายปลายทางหลักสำหรับการส่งออก LNG ของสหรัฐฯ ตามด้วยเอเชียเป็นตลาดส่งออกที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 และน่าสนใจว่าปีที่ผ่านมามีการส่งออกก๊าซ LNG มายังเอเชียถึง 2.29 ล้านตัน เพิ่มขึ้นถึง 18.5%
สำหรับประเทศไทย ข้อมูลจาก Kpler ระบุว่า ช่วง 10 เดือนแรกของปี 2666 ไทยนำเข้าก๊าซ LNG ในปริมาณ 22.9 ล้านลูกบาศก์เมตร เทียบกับปีก่อนหน้าอยู่ที่ระดับ 19.8 ล้านลูกบาศก์เมตร โดยเดือนตุลาคมไทยนำเข้าพุ่งสูงขึ้น 25% ส่งผลให้ไทยก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำเข้าก๊าซ LNG 10 อันดับแรกของโลกเป็นครั้งแรก
อ้างอิง: