วันนี้ (6 ธันวาคม) สำนักข่าวต่างประเทศรายงานสถานการณ์การทยอยพบผู้ติดโควิดสายพันธุ์โอไมครอนที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยสหรัฐอเมริกาตรวจพบผู้ติดโควิดกลายพันธุ์นี้แล้วมากกว่า 20 ราย ในอย่างน้อย 16 รัฐ หรือคิดเป็นราว 1 ใน 3 ของรัฐทั้งหมดทั่วประเทศ แต่อย่างไรก็ตาม เชื้อโคโรนาไวรัสสายพันธุ์เดลตายังคงเป็นเชื้อหลักที่แพร่ระบาดอยู่ในขณะนี้ (99.9%)
ทางด้าน ดร.แอนโทนี เฟาซี หัวหน้าที่ปรึกษาด้านการแพทย์ของทำเนียบขาวระบุเบื้องต้นว่า เชื้อโอไมครอนอาจไม่ได้มีระดับความรุนแรงมากอย่างที่หลายฝ่ายวิตกกังวล แต่ก็อาจจะเป็นการด่วนสรุปเกินไป และยังจำเป็นต้องใช้ระยะเวลาในการศึกษาและทำความเข้าใจเชื้อกลายพันธุ์ชนิดนี้อยู่ โดย ดร.เฟาซีหวังว่าทางการสหรัฐฯ จะยกเลิกมาตรการจำกัดการเดินทางของผู้ที่เดินทางมาจากบรรดากลุ่มประเทศทางตอนใต้ของแอฟริกา ซึ่งเป็นบริเวณที่มีการตรวจพบเชื้อโอไมครอนเป็นครั้งแรก ภายในระยะเวลาที่สมเหตุสมผลและไม่เกิดผลกระทบร้ายแรงกับสังคมอเมริกัน
Reuters ระบุว่า เบื้องต้นพบผู้ติดโควิดสายพันธุ์โอไมครอนในแคลิฟอร์เนีย โคโลราโด คอนเนทิคัต ฮาวาย ลุยเซียนา แมริแลนด์ แมสซาชูเซตส์ มินนิโซตา มิสซูรี เนบราสกา นิวเจอร์ซีย์ นิวยอร์ก เพนซิลเวเนีย ยูทาห์ วอชิงตัน และวิสคอนซิน
โดยสหรัฐฯ มียอดผู้ติดเชื้อสะสมเกือบ 50 ล้านราย เสียชีวิตสะสม 7.88 แสนราย ผู้ติดเชื้อรายใหม่เฉลี่ยในช่วง 7 วันที่ผ่านมาอยู่ที่ 119,000 ราย และเสียชีวิตเฉลี่ยเกือบวันละ 1,300 ราย พลเมืองเกือบ 60% เข้ารับวัคซีนโควิดครบโดสแล้ว ขณะที่ในจำนวนนี้ราว 23.3% เข้ารับวัคซีนเข็มกระตุ้นแล้ว
บทความที่เกี่ยวข้อง:
- รู้จัก Omicron โควิดสายพันธุ์ใหม่ที่น่ากังวล
- WHO ประกาศให้ ‘โอไมครอน’ เชื้อไวรัสโคโรนากลายพันธ์ุ เป็นสายพันธ์ุระดับที่น่ากังวลตัวใหม่
- A Pandemic of the Unvaccinated คืออะไร ทำไมผู้ติดเชื้อในยุโรปถึงพุ่งอีกครั้ง
- เทียบประสิทธิภาพยาเม็ดรักษาโควิดของ Merck vs. Pfizer
- ‘โมลนูพิราเวียร์’ ยาต้านโควิดชนิดเม็ด ความหวังใหม่ที่อาจช่วยลดความเสี่ยงในการนอนโรงพยาบาล-เสียชีวิตจากโควิด
- โควิด-19 กลายพันธ์ุสายพันธ์ุต่างๆ มีชื่อเรียกใหม่ว่าอย่างไร
ภาพ: FOTOGRIN / Shutterstock
อ้างอิง: