×

รายงานชี้ คนรวย 10% ในสหรัฐฯ มีส่วนทำให้โลกร้อนถึง 40%

18.08.2023
  • LOADING...
โลกร้อน

เว็บไซต์สถานีโทรทัศน์ CNN รายงานการศึกษาฉบับใหม่ที่ตีพิมพ์ในวารสาร PLOS Climate ซึ่งพบว่าชาวอเมริกันที่ร่ำรวยที่สุด 10% เป็นผู้รับผิดชอบเกือบครึ่งหนึ่ง หรือ 40% ของมลพิษที่ทำให้โลกร้อนขึ้นในสหรัฐฯ โดยคนรวยในสหรัฐฯ ได้ชื่อว่าเป็นผู้ร่วมก่อมลพิษรายใหญ่ที่สุดของโลก ไม่ใช่เพียงเพราะทรัพย์สิน เช่นรถยนต์หรือเครื่องบินที่ครอบครองไว้เท่านั้น แต่ยังเป็นเพราะเชื้อเพลิงฟอสซิลที่เกิดจากบริษัทที่ชาวอเมริกันกระเป๋าหนักเหล่านี้เข้าไปลงทุนด้วย

 

ทั้งนี้ ทางผู้จัดทำการศึกษายังเรียกร้องให้หน่วยงานรัฐบาลเปลี่ยนภาษี ‘ถดถอย’ จากความเข้มข้นของคาร์บอนของสิ่งที่ผู้คนซื้อ และหันมาเน้นการเก็บภาษีการลงทุนที่ก่อให้เกิดมลพิษต่อสภาพอากาศแทน

 

Jared Starr นักวิทยาศาสตร์ด้านความยั่งยืนจาก University of Massachusetts Amherst และเป็นผู้จัดทำรายงานดังกล่าว ระบุว่า ภาวะโลกร้อนอาจเป็นเรื่องใหญ่ ล้นหลาม และคลุมเครือที่เกิดขึ้นในโลก ที่ทุกคนต่างตระหนักดีว่าโลกร้อนเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นเหนืออำนาจการควบคุมของมนุษย์ ซึ่งทุกคนรู้ว่าตนเองมีส่วนสนับสนุนภาวะโลกร้อนไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง แต่กลับไม่สามารถตรวจสอบเป็นรูปธรรมที่ชัดเจนได้

 

Starr กล่าวว่า การศึกษานี้ช่วยสร้างภาพที่ชัดเจนขึ้นเกี่ยวกับความรับผิดชอบส่วนบุคคล ซึ่งเกินกว่าขอบเขตของสิ่งที่ผู้คนบริโภคในชีวิตประจำวัน

 

สำหรับการศึกษาในครั้งนี้ ทางทีมนักวิจัยวิเคราะห์ชุดข้อมูลขนาดใหญ่ในช่วง 30 ปีเพื่อเชื่อมโยงธุรกรรมทางการเงินกับมลพิษทางคาร์บอน ด้วยการพิจารณามลพิษจากความร้อนของโลกที่เกิดจากการดำเนินงานโดยตรงของบริษัทต่างๆ รวมถึงมลพิษที่เกี่ยวข้องกับผลกระทบต่อสภาพอากาศของบริษัทในห่วงโซ่อุปทาน ตัวอย่างเช่น การปล่อยมลพิษจำนวนมากของบริษัทน้ำมันเกิดขึ้นเมื่อลูกค้าใช้น้ำมันที่บริษัทสกัดออกมา ซึ่งทำให้เกิดคาร์บอนฟุตพรินต์สำหรับกิจกรรมทางเศรษฐกิจแต่ละดอลลาร์ในสหรัฐฯ และนักวิจัยได้เชื่อมโยงกับครัวเรือนโดยใช้ข้อมูลการสำรวจประชากรที่แสดงให้เห็นอุตสาหกรรมที่ผู้คนทำงานและรายได้จากค่าจ้างและการลงทุน

 

การศึกษาพบว่า 10% ของคนที่ร่ำรวยที่สุดในสหรัฐฯ หรือครัวเรือนที่มีรายได้มากกว่า 178,000 ดอลลาร์ เป็นผู้รับผิดชอบ 40% ของมลภาวะที่เกิดจากความร้อนของโลกที่เกิดจากมนุษย์ในประเทศ ขณะที่ครัวเรือนที่ทำเงินได้มากกว่า 550,000 ดอลลาร์ มีสัดส่วนก่อโลกร้อนราว 15-17%

 

นอกจากนี้รายงานฉบับดังกล่าวยังชี้ถึง ‘Super-Emitters’ หรือผู้ที่ก่อมลภาวะต่อโลกร้อน ซึ่งเป็นเพียงหนึ่งในกลุ่มคนอเมริกันที่ร่ำรวยที่สุดเพียง 0.1% เท่านั้น และมีการลงทุนกระจุกตัวอยู่ในอุตสาหกรรมต่างๆ เช่น การเงิน ประกันภัย และเหมืองแร่ โดยก่อให้เกิดมลพิษคาร์บอนประมาณ 3,000 ตันต่อปี

 

ยิ่งไปกว่านั้น ผลกระทบจากสภาพอากาศไม่ได้เกี่ยวข้องกับขนาดของรายได้ของผู้คนเท่านั้น แต่ยังรวมถึงอุตสาหกรรมที่ก่อให้เกิดผลกระทบดังกล่าวด้วย ตามรายงานระบุว่า ครัวเรือนที่มีรายได้ 980,000 ดอลลาร์ จากอุตสาหกรรมเชื้อเพลิงฟอสซิลบางประเภท จะถือเป็น Super-Emitter ขณะที่ครัวเรือนที่ทำเงินจากอุตสาหกรรมโรงพยาบาลจะต้องนำเงิน 11 ล้านดอลลาร์ มาสร้างมลพิษจากความร้อนของโลกในปริมาณที่เท่ากัน

 

ทั้งนี้ ทีมนักวิจัยแนะว่า จากสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ผู้คนควรจำกัดคาร์บอนฟุตพรินต์ไว้ที่ประมาณ 2.3 ตันต่อปี เพื่อรับมือกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศในปัจจุบัน พร้อมเรียกร้องให้ผู้กำหนดนโยบายคิดหาแนวทางและโซลูชันใหม่ๆ ในการใช้ภาษีเพื่อจัดการกับวิกฤตสภาพอากาศ

 

อ้างอิง:

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising