วานนี้ (3 สิงหาคม) วุฒิสภาสหรัฐอเมริกาได้ลงมติรับรองให้ฟินแลนด์และสวีเดนเข้าร่วมเป็นสมาชิก NATO แล้ว ซึ่งถือเป็นการขยายชาติพันธมิตรที่น่าจับตาที่สุดของประเทศสมาชิก NATO ทั้ง 30 ประเทศ นับตั้งแต่ทศวรรษ 1990 เพื่อตอบโต้การรุกรานยูเครนของรัสเซีย
วุฒิสภาสหรัฐฯ ลงมติด้วยคะแนน 95 ต่อ 1 เสียง ในการให้สัตยาบันการเข้าร่วมเป็นสมาชิก NATO ของฟินแลนด์และสวีเดน โดยได้เสียงสนับสนุนจากทั้งพรรคเดโมแครตและรีพับลิกันด้วยเหตุผลว่า ฟินแลนด์และสวีเดนต่างเป็นพันธมิตรที่สำคัญ และกองทัพของทั้งสองชาติมีเทคโนโลยีที่ล้ำสมัย ซึ่งประสานงานกับ NATO อย่างใกล้ชิดอยู่ก่อนแล้ว
ประธานาธิบดีโจ ไบเดน แห่งสหรัฐฯ กล่าวว่า “การลงคะแนนเสียงครั้งประวัติศาสตร์นี้ส่งสัญญาณสำคัญถึงความมุ่งมั่นของสหรัฐฯ ที่มีต่อ NATO และเพื่อสร้างหลักประกันว่าพันธมิตรของเราจะพร้อมรับมือกับความท้าทายในปัจจุบันและอนาคต”
ความเคลื่อนไหวดังกล่าวมีขึ้นหลังสวีเดนและฟินแลนด์ตัดสินใจสมัครเข้าร่วมเป็นสมาชิก NATO อย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 18 พฤษภาคมที่ผ่านมา เนื่องจากการที่รัสเซียเข้าบุกโจมตียูเครนเมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์นั้น ได้บีบทั้งสองชาติให้อยู่ในภาวะที่ต้องแสวงหาความมั่นคง เพราะหวั่นเกรงว่าในท้ายที่สุดรัสเซียอาจเล็งเป้ามาโจมตีประเทศของตัวเอง ไม่ต่างจากที่ยูเครนกำลังเผชิญอยู่ในขณะนี้
เมื่อเดือนที่ผ่านมา ประเทศสมาชิก NATO ได้ลงนามในพิธีสารรับสวีเดนและฟินแลนด์เข้าเป็นสมาชิก หลังจากตุรกียอมยกเลิกการใช้อำนาจยับยั้ง (Veto) การรับสองประเทศนอร์ดิกเข้าร่วมเป็นสมาชิก โดยเหลือเพียงแค่รอการอนุมัติรับรองจากสภานิติบัญญัติของแต่ละประเทศสมาชิก ซึ่งเป็นขั้นตอนสุดท้ายที่อาจกินระยะเวลายาวนานประมาณ 1 ปี
หากกระบวนการดังกล่าวแล้วเสร็จ ฟินแลนด์และสวีเดนจะได้รับการปกป้องจากกลุ่มพันธมิตรทางทหารภายใต้ ‘มาตรา 5’ ของ NATO ซึ่งบัญญัติว่า การโจมตีสมาชิกประเทศใดประเทศหนึ่ง เท่ากับเป็นการโจมตีสมาชิกทุกประเทศ ซึ่งจะทำให้ทั้งสองชาติมีความมั่นคงทางทหารมากขึ้น เพิ่มเติมจากปัจจุบันที่มีสิทธิเข้าร่วมการประชุมของ NATO รวมถึงได้รับสิทธิในการเข้าถึงข้อมูลข่าวกรองในฐานะผู้ได้รับเชิญเป็นสมาชิกอย่างเป็นทางการ
ภาพ: Thiago Prudencio / SOPA Images / LightRocket via Getty Images
อ้างอิง: