×

สหรัฐฯ เผยตัวเลขดัชนีเงินเฟ้อเดือนพฤษภาคมชะลอตัวลงอย่างต่อเนื่อง แตะระดับต่ำสุดในรอบ 2 ปี

14.06.2023
  • LOADING...
เงินเฟ้อ สหรัฐ

ถือเป็นข่าวดีสำหรับรอบสัปดาห์นี้ เมื่อทางกระทรวงแรงงานสหรัฐฯ เปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้บริโภค ประจำเดือนพฤษภาคม เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา (13 มิถุนายน) โดยตัวเลข CPI ทุกรายการสอดคล้องกับตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์

 

รายงานระบุว่า ดัชนี CPI ทั่วไป ซึ่งรวมหมวดอาหารและพลังงาน ปรับตัวขึ้น 4.0% ในเดือนพฤษภาคม เมื่อเทียบรายปี โดยชะลอตัวจากเดือนเมษายนก่อนหน้า ซึ่งอยู่ที่ระดับ 4.9% นับเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนมีนาคม ปี 2021 และสอดคล้องกับตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์

 

ขณะเดียวกัน เมื่อเทียบเป็นอัตรารายเดือน ดัชนี CPI ทั่วไปปรับตัวขึ้น 0.1% ในเดือนพฤษภาคม จากระดับ 0.4% ในเดือนเมษายนก่อนหน้า ส่วนดัชนี CPI พื้นฐาน ซึ่งไม่นับรวมหมวดอาหารและพลังงาน ปรับตัวขึ้น 5.3% ในเดือนพฤษภาคม เมื่อเทียบรายปี สอดคล้องกับตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ จากระดับ 5.5% ในเดือนเมษายน ขณะที่เมื่อเทียบเป็นอัตรารายเดือน ดัชนี CPI พื้นฐานปรับตัวขึ้น 0.4% ในเดือนพฤษภาคม สอดคล้องกับตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ จากระดับ 0.4% ในเดือนเมษายน

 

รายงานระบุว่า การชะลอตัวของอัตราเงินเฟ้อจนแตะระดับต่ำสุดในรอบกว่า 2 ปี ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากราคาพลังงานที่ปรับตัวลดลง ช่วยให้ราคาครองชีพ ไม่ว่าจะเป็นค่าโดยสารหรือสินค้าอุปโภคบริโภคมีราคาที่ถูกลง

 

ทั้งนี้ ตัวเลขเงินเฟ้อของรัฐบาลล่าสุดยังมีขึ้นหนึ่งวันก่อนที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) จะประกาศมาตรการดอกเบี้ยนโยบาย ซึ่งก่อนหน้านี้หลายฝ่ายคาดว่า Fed จะคงอัตราดอกเบี้ยไว้หลังจากที่ขึ้นอัตราดอกเบี้ยติดต่อกัน 10 ครั้ง นับตั้งแต่เดือนมีนาคม 2022

 

รายงานเงินเฟ้อล่าสุดทำให้ FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนัก 96.4% ที่ Fed จะคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 5.00-5.25% ในการประชุมวันที่ 13-14 มิถุนายน และให้น้ำหนักเพียง 3.6% ที่ Fed จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% สู่ระดับ 5.25-5.50%

 

ด้านสำนักข่าว AP ระบุว่า อัตราเงินเฟ้อโดยรวมที่ลดลงยังไม่น่าทำให้ผู้กำหนดนโยบายของ Fed วางใจได้ว่า Fed ใกล้จะควบคุมอัตราเงินเฟ้อที่สูงซึ่งเกาะกุมประเทศมา 2 ปีแล้ว พร้อมยืนกรานว่า Fed มีแนวโน้มที่จะให้ความสำคัญกับราคา ‘หลัก’ มากที่สุด ซึ่งไม่รวมค่าอาหารและพลังงานที่ผันผวน และถือว่าสามารถจับแนวโน้มเงินเฟ้อพื้นฐานได้ดีกว่า

 

ในส่วนของเงินเฟ้อที่ยังมีแนวโน้มเชิงบวกอยู่เป็นผลจากการเพิ่มขึ้นในส่วนของราคาค่าเช่าที่อยู่อาศัยที่สูงขึ้นและราคารถยนต์มือสองที่พุ่งสูงขึ้นอีกครั้ง แต่นักวิเคราะห์มองว่าการเพิ่มขึ้นของหมวดหมู่เหล่านั้นจะบรรเทาลงในไม่ช้าและช่วยให้อัตราเงินเฟ้อเย็นลง โดย Stephen Juneau นักเศรษฐศาสตร์จาก Bank of America กล่าวว่า นอกจากองค์ประกอบทั้งสองนี้แล้ว แนวโน้มอื่นๆ ถือว่าเป็นกำลังใจให้กับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องกับการจัดการเงินเฟ้ออย่างมาก

 

นักเศรษฐศาสตร์กล่าวว่า อัตราเงินเฟ้อได้รับแรงหนุนจากกลุ่มสินค้าและบริการที่แคบลง หากไม่รวมค่าที่พัก ซึ่งรวมถึงค่าเช่าและราคาโรงแรมซึ่งพุ่งขึ้นในเดือนที่แล้ว ราคาผู้บริโภคจริงๆ แล้วลดลง 0.1% ตั้งแต่เดือนเมษายน-พฤษภาคม และเพิ่มขึ้นเพียง 2.1% จากปีที่แล้ว แต่อาจต้องใช้เวลาหลายเดือนกว่าที่ค่าใช้จ่ายจะสูงขึ้นในพื้นที่เหล่านั้นเพื่อกลับสู่ระดับก่อนเกิดวิกฤตโควิด

 

รายงานระบุว่า เจ้าหน้าที่ Fed ต้องการเห็นการลดลงของราคาผู้บริโภค กระนั้น Fed ก็ยังคงต้องระมัดระวังในการเดินหน้าเปิดทางให้เศรษฐกิจสหรัฐฯ มีการขยับขยาย

 

ทั้งนี้ แม้ว่าเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวได้จะดีสำหรับครัวเรือนและธุรกิจ แต่ก็อาจไปกระตุ้นอัตราเงินเฟ้อให้กลับมาสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องได้เช่นกัน ซึ่งนักเศรษฐศาสตร์บางรายโต้แย้งว่าหลายบริษัทกำลังรักษาราคาให้สูงเกินจริง ซึ่งมากกว่าที่จำเป็นเพื่อให้ครอบคลุมต้นทุนที่สูงขึ้นของตนเอง เพื่อผลักดันการเติบโตของกำไร ผู้บริโภคในประเทศอาจต้องชะลอการใช้จ่ายก่อนธุรกิจส่วนใหญ่จะลดราคา กระนั้นการจ้างงานที่แข็งแกร่งอย่างต่อเนื่องทำให้ชาวอเมริกันโดยรวมสามารถใช้จ่ายต่อไปได้

 

ที่ผ่านมา Fed ได้ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอ้างอิงถึง 5% ในช่วง 15 เดือนที่ผ่านมา ซึ่งเป็นอัตราที่เพิ่มขึ้นเร็วที่สุดในรอบ 40 ปี ซึ่งการปรับขึ้นดังกล่าวทำให้ต้นทุนการจำนอง สินเชื่อรถยนต์ บัตรเครดิต และการกู้ยืมเพื่อธุรกิจสูงขึ้นมาก โดยเป้าหมายของ Fed คือการชะลอการกู้ยืมและการใช้จ่าย ทำให้เศรษฐกิจเย็นลง และรักษาอัตราเงินเฟ้อ โดยไม่ก่อให้เกิดภาวะถดถอยที่รุนแรง

 

ขณะนี้มีสัญญาณบางอย่างที่บ่งชี้ว่าความพยายามของ Fed ได้ผลตามที่ต้องการ อัตราเงินเฟ้อคาดว่าจะลดลงไปอีกขั้นในตัวเลขสำหรับเดือนมิถุนายนที่จะรายงานในเดือนหน้า การเติบโตของราคาอาจลดลงต่ำถึง 3.2% จากปีก่อนหน้า ตามการประมาณการของนักเศรษฐศาสตร์บางราย

 

ทั้งนี้ การลดลงของอัตราเงินเฟ้ออย่างรวดเร็วในเดือนหน้าจะสะท้อนถึงความจริงที่ว่าราคาอาหารและน้ำมันเพิ่มสูงขึ้นทั้งในเดือนพฤษภาคมและมิถุนายนปีที่แล้ว เมื่อเดือนเหล่านั้นหลุดออกจากการคำนวณอัตราเงินเฟ้อปีต่อปี ก็จะถูกแทนที่ด้วยกำไรรายเดือนที่น้อยลง ผลที่ได้สามารถลดอัตราเงินเฟ้อประจำปีลงอย่างมากในที่สุด

 

ความเคลื่อนไหวดังกล่าวส่งผลให้ตลาดหุ้น Wall Street ในสหรัฐฯ เมื่อวานนี้ (13 มิถุนายน) ปิดตลาดในแดนบวก โดยดัชนี S&P 500 และดัชนี Nasdaq แตะระดับสูงสุดในรอบ 14 เดือน หลังพบเงินเฟ้อผู้บริโภคสหรัฐอเมริกาเพิ่มขึ้นเพียงเล็กน้อยในเดือนพฤษภาคม เพิ่มความคาดหมายว่า Fed จะไม่ปรับขึ้นดอกเบี้ยในที่ประชุมในวันพุธนี้ (14 มิถุนายน)

 

โดยดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ (DJI) ปรับตัวเพิ่มขึ้น 145.79 จุด หรือ 0.43% ปิดที่ 34,212.12 จุด ดัชนี S&P 500 เพิ่มขึ้น 30.08 จุด หรือ 0.69% ปิดที่ 4,369.01 จุด และดัชนี Nasdaq เพิ่มขึ้น 111.40 จุด หรือ 0.83% ปิดที่ 13,573.32 จุด

 

อ้างอิง:

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising