สหรัฐฯ ออกมาขู่ว่าจะคว่ำบาตรใครก็ตามที่ยังคงซื้อน้ำมันจากรัสเซีย

สหรัฐฯ ออกมาขู่ว่าจะคว่ำบาตรผู้ใดก็ตามที่ยังคงซื้อน้ำมันจากรัสเซีย โดยจ่ายเกินราคามากกว่าราคาสูงสุดที่กลุ่ม G7 ได้ประกาศไว้

เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา กระทรวงการคลังสหรัฐฯ เปิดเผยว่า ใครก็ตามที่ยังคงซื้อน้ำมันจากรัสเซียในราคาที่สูงกว่าราคาที่กำหนดไว้อย่างมีนัยสำคัญ รวมทั้งผู้ที่ให้ข้อมูลที่ไม่ถูกต้องเกี่ยวกับการซื้อขาย อาจถูกดำเนินการคว่ำบาตรตามมา

การเตือนจากรัฐบาลสหรัฐฯ จะมีผลกับผู้ที่ซื้อน้ำมันจากรัสเซียทั่วโลก ซึ่งส่วนมากแล้วยังคงใช้บริการด้านประกันการขนส่งจากชาติตะวันตกอยู่ด้วย

การกำหนดเพดานของราคาน้ำมันดังกล่าวมีเป้าหมายที่จะจำกัดรายได้ของรัสเซีย จากการส่งออกน้ำมันดิบและผลิตภัณฑ์ที่ได้จากการกลั่น โดยที่จะไม่ทำให้ราคาน้ำมันดิบโลกพุ่งสูงขึ้นไปอีก อย่างไรก็ตาม สหรัฐฯ ไม่ได้ต้องการที่จะคว่ำบาตรผู้ซื้อน้ำมันจากรัสเซีย ที่ไม่ได้ใช้บริการต่างๆ ของชาติตะวันตก

Wally Adeyemo ผู้ช่วยเลขานุการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า แนวทางของเราในการจัดการกับเรื่องนี้คือ การปล่อยให้น้ำมันของรัสเซียยังคงออกสู่ตลาดโลกได้ ในขณะที่จำกัดราคาขายเอาไว้

กลุ่มประเทศ G7 ยังไม่ได้กำหนดระดับราคาเพดานแต่อย่างใด และยังคงรอดูว่ารัฐบาลของแต่ละประเทศจะให้ความร่วมมือหรือไม่ โดยสหรัฐฯ มองว่า ระดับราคาที่จะกำหนดควรมาจากความเห็นร่วมกัน

เมื่อวันพุธที่ผ่านมา (7 กันยายน) วลาดิเมียร์ ปูติน ประธานาธิบดีของรัสเซียได้ออกมาเตือนว่า รัสเซียอาจหยุดการส่งออกน้ำมัน หากชาติตะวันตกยังคงมุ่งมั่นที่จะกำหนดเพดานของราคาขายเอาไว้

“เราจะไม่ส่งก๊าซ น้ำมัน ถ่านหิน และน้ำมันเตา เราจะไม่ยอมส่งอะไรให้เลย” ปูตินกล่าว

ในช่วงต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา รัสเซียได้บอกอีกว่าจะยังไม่กลับมาเปิดท่อส่งก๊าซ Nord Stream 1 ซึ่งเป็นท่อส่งก๊าซธรรมชาติให้กับยุโรป หากมาตรการคว่ำบาตรไม่ถูกยกเลิกไป

“รัสเซียอาจบอกว่าพวกเขาจะไม่ยอมขายในราคาที่ต่ำกว่าราคาที่ถูกกำหนดไว้ แต่การที่ยอมเก็บน้ำมันไว้เฉยๆ ไม่ส่งผลดีในเชิงเศรษฐกิจเท่าใดนัก” Ademeyo กล่าว

ในช่วงที่ผ่านมา ประเทศที่นำเข้าน้ำมันจากรัสเซียมากที่สุดประเทศหนึ่งคือจีน ช่วงปลายเดือนมิถุนายนมีรายงานออกมาว่าจีนได้นำเข้าน้ำมันดิบจากรัสเซียมากที่สุดเป็นประวัติการณ์ โดยมีกระแสข่าวว่าสาเหตุที่จีนนำเข้าน้ำมันจากรัสเซียเพิ่มขึ้นอย่างมาก เพราะสามารถซื้อน้ำมันในราคาส่วนลดถึงประมาณ 50%

อ้างอิง: