สถานีโทรทัศน์ CNBC รายงานความเห็นของนักวิเคราะห์ที่ออกมาเตือนว่ามีความเป็นไปได้เพิ่มมากขึ้นที่เศรษฐกิจสหรัฐฯ กำลังก้าวเข้าสู่ภาวะถดถอย หลังจากที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 5 ปี และอายุ 30 ปี เกิดภาวะ Inverted Yield Curve หรือโตสวนทางกัน โดยขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ อายุ 5 ปี เพิ่มขึ้น 2.56% อัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 30 ปีกลับลดลงมาอยู่ที่ 2.55%
ถือเป็นครั้งแรกในรอบ 16 ปีตั้งแต่ปี 2006 ที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรระยะสั้นอยู่ในระดับที่มากกว่าอัตราผลตอบแทนพันธบัตรระยะยาว ซึ่งในช่วงปี 2006 นั้นเป็นช่วงไม่กี่ปีก่อนหน้าที่จะเกิดวิกฤตการเงินครั้งใหญ่ปี 2008
นักวิเคราะห์กล่าวว่า ตามประวัติศาสตร์ที่ผ่านมา การเกิดขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรที่สวนทางกันมักเป็นสัญญาณเตือนของภาวะถดถอย สร้างความกังวลต่อสุขภาพของเศรษฐกิจ
อย่างไรก็ตาม ด้วยความที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 2 ปี และ 10 ปี ยังคงไม่เกิดภาวะดังกล่าว ทำให้นักลงทุนยังคงต้องจับตามองสถานการณ์อย่างใกล้ชิด
เซท คาร์เพนเตอร์ หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ตลาดโลกของ Morgan Stanley กล่าวว่า สัญญาณที่เกิดขึ้นเป็นคำเตือนว่ามีความเป็นไปได้ที่เศรษฐกิจสหรัฐฯ จะถดถอย และความผิดพลาดเชิงนโยบายเพียงเล็กน้อยก็จะทำให้เศรษฐกิจสหรัฐฯ ถดถอยได้อย่างง่ายดาย แต่เชื่อว่าด้วยแนวทางที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ เดินหน้าขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อสู้กับภาวะเงินเฟ้อสูง โอกาสที่จะไม่เกิดภาวะถดถอยย่อมมีมากกว่า
อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์แนะนำให้รอดูสัญญาณบ่งชี้อื่นๆ เพิ่มเติมควบคู่ไปด้วย เช่น ตัวเลขการจ้างงาน และดัชนีการใช้จ่ายส่วนตัวของผู้บริโภค ซึ่งเป็นอีกตัวชี้วัดเงินเฟ้อที่สำคัญในสหรัฐฯ
อ้างอิง:
ช่องทางติดตาม THE STANDARD WEALTH
Twitter: twitter.com/standard_wealth
Instagram: instagram.com/thestandardwealth
Official Line: https://lin.ee/xfPbXUP
