×

‘หุ้นสหรัฐฯ’ เสี่ยงปรับฐานครั้งใหญ่ ผลสำรวจ Deutsche Bank ชี้กูรูมืออาชีพมองดัชนีส่อร่วง 5-10% ก่อนสิ้นปี

14.09.2021
  • LOADING...
หุ้นสหรัฐฯ

Deutsche Bank เปิดเผยผลสำรวจความเห็นของนักลงทุนมืออาชีพกว่า 550 รายทั่วโลก ซึ่งจัดทำขึ้นเป็นประจำทุกเดือน พบว่า 58% ของนักลงทุนต่างคาดการณ์ว่าตลาดจะมีการปรับฐานราว 5-10% อีกหนึ่งครั้งก่อนสิ้นปีนี้ ขณะที่ 1 ใน 10 ของนักลงทุนที่ร่วมตอบแบบสอบถามมองว่าจะมีการปรับฐานมากกว่า 10% และมีเพียง 31% เท่านั้นที่เชื่อว่าตลาดจะไม่มีการปรับฐานใดๆ เลย

 

ผลสำรวจความเห็นล่าสุดสอดคล้องกับรายงานจาก Citi เมื่อเดือนที่แล้วที่ระบุว่า ตลาดมีความเสี่ยงจากการปรับฐานของตลาดที่ 10%

 

อย่างไรก็ตาม การเติบโตของตลาดหุ้นโดยรวมในปีนี้จะยังคงอยู่ในแดนบวก โดยนักลงทุนมืออาชีพลงความเห็นคาดการณ์การเติบโตของดัชนีตลาดหุ้นสำคัญๆ เช่น ดัชนี S&P 500 ที่เพิ่มขึ้นราว 18% ส่วนดัชนี Nasdaq เพิ่มขึ้น 19% และดัชนี STOXX Europe 600 เพิ่มขึ้นที่ 17%

 

สำหรับประเด็นที่น่าวิตกยังคงเป็นสถานการณ์การระบาดของไวรัสโควิด ที่อัตราการติดเชื้อยังคงอยู่ในระดับสูง ทำให้การฟื้นตัวทางเศรษฐกิจและปัญหาห่วงโซ่อุปทานยังไม่สามารถคลี่คลายได้เต็มที่ ส่วนประเด็นที่น่าวิตกรองลงมากก็คือปัญหาเรื่องอัตราเงินเฟ้อ ที่นักลงทุนเกรงว่าจะกินเวลายืดเยื้อนานกว่าที่คาดไว้ บีบให้ธนาคารกลางทั้งหลายต้องลดมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเร็วกว่าที่คาดไว้ จนกระทบต่อตลาดการเงิน

 

ทั้งนี้ ผลสำรวจของนักลงทุนประเมินว่า อัตราเงินเฟ้อของสหรัฐฯ น่าจะเฉลี่ยอยู่ที่ 2.6% ในช่วง 5 ปีนับจากนี้ และส่วนใหญ่เชื่อว่า ตัวเลขเงินเฟ้อจะอยู่สูงกว่าระดับที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ ตั้งเป้าไว้

 

ขณะที่ความเคลื่อนไหวของตลาดหุ้นวอลล์สตรีทเมื่อวานนี้ (13 กันยายน) สามารถรีบาวด์ขึ้นมาปิดตลาดในแดนบวกได้อีกครั้ง หลังจากที่ลดลง 5 วันติดต่อกัน โดยดัชนีอุตสาหกรรม Dow Jones เพิ่มขึ้น 261.91 จุด หรือ 0.8% ปิดที่ 34,869.63 จุด ส่วนดัชนี S&P 500 เพิ่มขึ้น 0.2% มาอยู่ที่ 4,468.73 จุด ขณะที่ดัชนี Nasdaq ปรับตัวลดลงเล็กน้อยที่ 0.1% ปิดที่ 15,105.58

 

บรรยากาศตลาดโดยรวมกลับมาคึกคักอีกครั้ง โดยนักวิเคราะห์หลายสำนักเห็นตรงกันว่า นักลงทุนเริ่มมีความหวังกับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก เพราะสถานการณ์การระบาดของไวรัสโควิดสายพันธุ์เดลตาในสหรัฐฯ และอีกหลายประเทศทั่วโลกเริ่มมีสัญญาณลดลง ทั้งยังได้แรงหนุนจากการเดินหน้าใช้นโยบายกระตุ้นของภาครัฐอย่างเต็มที่ และรายงานผลประกอบการที่ดีเกินคาดของหลายบริษัทชั้นนำของตลาด

 

อย่างไรก็ตาม นักลงทุนในตลาดต่างจับตารอดูรายงานดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ของสหรัฐฯ เพื่อยืนยันทิศทางเงินเฟ้อในประเทศ หลังจากที่เมื่อสัปดาห์ที่แล้วดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) มาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้ผลิตในเดือนสิงหาคมปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.7% ในอัตรารายเดือน สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ที่ระดับ 0.6% ขณะที่เมื่อเทียบเป็นอัตรารายปี ดัชนี PPI เดือนสิงหาคมปรับตัวเพิ่มขึ้นถึง 8.3% ถือเป็นการปรับตัวขึ้นมากที่สุดเป็นประวัติการณ์ นับตั้งแต่เริ่มมีการรวบรวมข้อมูลดังกล่าวในเดือนพฤศจิกายน ปี 2010

 

ขณะเดียวกัน นักลงทุนในตลาดยังจับตารอดูการประชุมคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (FOMC) ของธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) ระหว่างวันที่ 21-22 กันยายนนี้ ซึ่งประเด็นหลักอยู่ที่สัญญาณการปรับลดวงเงินของมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) และการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของ Fed

 

อ้างอิง:

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising