การเจรจาการค้ารอบล่าสุดระหว่างสหราชอาณาจักรและสหภาพยุโรป (EU) จบลงโดยที่ไม่มีความคืบหน้าที่สำคัญ ขณะที่เหลือเวลาอีกเพียง 2 เดือนก่อนถึงกำหนดเส้นตายของการทำข้อตกลง เพื่อไม่ให้ภาคธุรกิจและอุตสาหกรรมที่บอบช้ำจากวิกฤตโควิด-19 อยู่แล้วต้องได้รับผลกระทบซ้ำเติมจาก Brexit ที่ไร้ดีลการค้า
เจ้าหน้าที่อังกฤษและสหภาพยุโรปเผยเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาว่าการเจรจามีความคืบหน้าเพียงเล็กน้อยในการกำหนดเงื่อนไขใหม่ด้านการค้า ก่อนที่ช่วงเวลาเปลี่ยนผ่านของ Brexit จะสิ้นสุดลงในปลายปี 2020 ขณะที่ มิเชล บาร์นิเยร์ หัวหน้าคณะเจรจาของฝ่ายสหภาพยุโรป ระบุว่าการเจรจาในประเด็นสำคัญบางเรื่องกลับถอยหลัง เช่น เรื่องสิทธิการประมงพาณิชย์
บาร์นิเยร์เชื่อว่า ณ เวลานี้ไม่น่าจะเกิดข้อตกลงกันขึ้นระหว่างสหราชอาณาจักรและสหภาพยุโรป เขายังบอกกับผู้สื่อข่าวในกรุงบรัสเซลส์ด้วยว่าตัวเขาไม่เข้าใจว่า “ทำไมเรามัวเสียเวลาอันมีค่า ในขณะที่นาฬิกากำลังเดินไปเรื่อยๆ”
อย่างไรก็ตาม เดวิด ฟรอสต์ ตัวแทนเจรจาของฝ่ายสหราชอาณาจักร ระบุว่าดีลนี้ยังมีความเป็นไปได้ที่จะเกิดขึ้น แต่กระนั้นก็เตือนว่ามันไม่ง่ายที่สองฝ่ายจะบรรลุข้อตกลง
ฟรอสต์ระบุว่ายังมีสาระสำคัญเกี่ยวกับความร่วมมือหลายด้านในอนาคตระหว่างสองฝ่าย ซึ่งทั้งคู่จะต้องตกลงกัน พร้อมมองในแง่ดีว่าการพูดคุยรอบล่าสุดมีประโยชน์ ถึงแม้จะคืบหน้าไม่มากก็ตาม
ทั้งนี้สหราชอาณาจักรแยกตัวออกจากสหภาพยุโรปในเดือนมกราคม แต่เงื่อนไขการค้ากับสหภาพยุโรปซึ่งเป็นตลาดส่งออกใหญ่สุดของสหราชอาณาจักรยังไม่เปลี่ยนแปลงจนกว่าจะสิ้นสุดช่วงเวลาเปลี่ยนผ่านในเดือนธันวาคม ปี 2020 ซึ่งหากสองฝ่ายไม่สามารถเคาะข้อตกลงฉบับใหม่กันได้ จะทำให้บริษัทสหราชอาณาจักรมีต้นทุนการค้าสูงขึ้น ขณะที่เศรษฐกิจสหราชอาณาจักรหดตัวเป็นประวัติการณ์ถึง 20.4% ในไตรมาส 2/20 สืบเนื่องจากวิกฤตโควิด-19 ที่ทำให้คนตกงานแล้วประมาณ 7.3 แสนคน นับตั้งแต่เดือนมีนาคม
พิสูจน์อักษร: ภาสิณี เพิ่มพันธุ์พงศ์
อ้างอิง:
