×

รัฐบาลยูเครนส่งสารเรียกร้องนานาชาติร่วมจัดตั้งศาลพิเศษ เพื่อพิพากษาความผิดของผู้นำรัสเซีย ฐาน ‘ก่ออาชญากรรมรุกราน’

16.02.2023
  • LOADING...
รัฐบาลยูเครน

สถานเอกอัครราชทูตยูเครนได้ส่งสารเรียกร้องไปยังนานาชาติให้ร่วมกันจัดตั้งศาลพิเศษ เพื่อนำตัวประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน และบรรดาผู้นำของรัสเซีย เข้าสู่กระบวนการยุติธรรมฐาน ‘ก่ออาชญากรรมรุกราน’ หลังจากส่งกองกำลังเข้ารุกรานยูเครน ผ่านบทความที่มีชื่อว่า ‘9 ปีแห่งสงคราม: ส่งตัวปูตินขึ้นศาล และการฟื้นฟูยูเครน’ โดยมีใจความสำคัญ ดังนี้

 

9 ปีแห่งสงคราม: ส่งตัวปูตินขึ้นศาล และการฟื้นฟูยูเครน

 

ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2022 สงครามระหว่างรัสเซียและยูเครนรอบใหม่ได้ปะทุขึ้น หลังจากที่รัสเซียส่งกองกำลังเข้ารุกรานยูเครนอย่างเต็มรูปแบบ สงครามที่เกิดขึ้นคือการต่อสู้เพื่อเอกราชและอธิปไตยของยูเครน ซึ่งขับเคี่ยวกับรัสเซียมาอย่างยาวนานนับตั้งแต่ปี 2014 โดยหากย้อนกลับไปให้ลึกกว่านั้นคือในเดือนกุมภาพันธ์ของเมื่อ 9 ปีที่ผ่านมา รัสเซียเคยเปิดฉากโจมตียูเครนโดยไม่มีการประกาศสงคราม และทำให้เกิดข้อกังขาขึ้นเกี่ยวกับระเบียบโลก นอกจากนี้ สงครามที่เกิดขึ้นยังเป็นการต่อสู้เพื่อทางเลือกทางอารยธรรม (Civilizational Choice) โดยยูเครนได้ปกป้องตัวเองในฐานะประเทศที่เป็นอารยธรรมประชาธิปไตยของยุโรป และขณะเดียวกันก็ปกป้องคุณค่าพื้นฐาน ตลอดจนสิทธิ และเสรีภาพ ซึ่งเป็นพื้นฐานสำคัญของโลกเสรี สงครามที่รัสเซียก่อขึ้นกับยูเครนนั้นเป็นความพยายามในการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อทำลายล้างชาวยูเครนทั้งประเทศ ขณะที่การดำเนินสอบสวนเกี่ยวกับอาชญากรรมการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์นี้กำลังดำเนินอยู่

 

การจัดตั้งศาลพิเศษสำหรับพิพากษาผู้นำรัสเซีย

 

รัฐบาลยูเครนเรียกร้องให้ทุกประเทศพิจารณาเข้าร่วมศาลพิเศษ (Special Tribunal) ที่จะพิจารณาคดีอาชญากรรมซึ่งรัสเซียได้ก่อการรุกรานยูเครน เนื่องจากนี่เป็นเพียงวิธีเดียวที่เป็นไปได้ในการนำตัวทหารและผู้นำทางการเมืองของรัสเซียมาพิจารณาโทษ

 

บทความระบุว่า การจัดตั้งศาลพิเศษนั้นมีความจำเป็นอย่างมากสำหรับลงโทษบรรดาผู้นำของรัสเซีย ซึ่งต้องอาศัยข้อตกลงที่จะรวมหลายประเทศเข้าด้วยกัน โดยประเทศที่เข้าร่วมในข้อตกลงนี้จะสามารถออกหมายจับผู้แทนของรัฐบาลรัสเซียและสั่งควบคุมตัวพวกเขาได้ ทั้งนี้ นักกฎหมายระหว่างประเทศจำนวนมากเห็นพ้องกันว่า ปูตินควรถูกพิจารณาคดีในข้อหา ‘ก่ออาชญากรรมรุกราน’

 

บทความชี้ว่า “มีเพียงข้อหาเดียวที่สามารถใช้ลงโทษปูตินได้ ในฐานะที่เขาเป็นผู้ริเริ่มสงครามครั้งนี้” โดยข้อหานี้เรียกว่า ‘อาชญากรรมรุกราน’ ซึ่งบทลงโทษสำหรับข้อหานี้คือการจำคุกตลอดชีวิต “เราจำเป็นต้องตัดสินโทษต่อปูตินและคณะผู้ติดตามของเขาจากการกระทำความผิดนี้ แต่ปัญหาที่เราเผชิญคือ ศาลอาญาระหว่างประเทศ (International Criminal Court: ICC) ไม่พิจารณาคดีอาชญากรรมนี้

 

“หากจะให้ ICC พิจารณาข้อหาก่ออาชญากรรมรุกราน รัสเซียต้องยอมรับต่อธรรมนูญกรุงโรม ซึ่งแน่นอนว่ารัสเซียคงไม่ทำเช่นนั้น ด้วยเหตุนี้อีกทางเลือกหนึ่งจึงเป็นการที่คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (UNSC) ออกคำสั่งให้ ICC สืบสวนอาชญากรรมนี้”

 

อย่างไรก็ตาม บทความระบุว่า UNSC ก็คงไม่ทำเช่นนั้นเหมือนกัน เนื่องจากรัสเซียเป็นหนึ่งในสมาชิกถาวรด้วย “ด้วยเหตุผลต่างๆ ที่กล่าวมาทั้งหมดนี้ เราจึงจำเป็นต้องตั้งศาลพิเศษขึ้นมา เนื่องจากเป็นหนทางเดียวที่ถูกต้องตามกฎหมาย และเพื่อจัดตั้งศาลพิเศษนี้ จำเป็นต้องมีข้อตกลงที่จะผูกพันประเทศต่างๆ เข้าไว้ด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นยุโรป เอเชีย สหรัฐอเมริกา แคนาดา ออสเตรเลีย ซึ่งยูเครนกำลังอยู่ในระหว่างการเจรจา”

 

ดังนั้น ปี 2023 จึงถือเป็นกุญแจสำคัญไม่เพียงแต่ในแง่ของชัยชนะสำหรับยูเครน แต่ยังรวมถึงชะตากรรมของการจัดตั้งศาลระหว่างประเทศเพื่อพิจารณาคดีอาชญากรรมรุกราน ขณะเดียวกันก็ต้องระมัดระวังด้วยว่า รูปแบบหนทางที่เราเลือกนั้นจะต้องไม่ประนีประนอมจนเกินไป และเป็นไปตามเป้าหมายหลัก นั่นคือการนำตัวผู้กระทำความผิดในคดีอาชญากรรมรุกรานต่อยูเครนตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2014 กลับสู่กระบวนการยุติธรรม

 

การฟื้นฟูยูเครน

 

ในช่วง 9 เดือนที่ผ่านมา ยูเครนพยายามอย่างยิ่งที่จะรักษาเสถียรภาพของเศรษฐกิจมหภาค โดยทุนสำรองระหว่างประเทศ ณ วันที่ 1 ธันวาคม 2022 มียอดสูงกว่าระดับก่อนเกิดสงคราม (2.8 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ) ภาคโลจิสติกส์ถูกจัดระบบใหม่เพื่อสร้างหลักประกันว่าการค้าจะสามารถดำเนินไปได้อย่างต่อเนื่อง เศรษฐกิจของประเทศตั้งอยู่บนฐานของสงคราม โดยมีองค์กรกว่า 700 แห่งที่ต้องย้ายทำเลที่ตั้งภายใต้ความช่วยเหลือของรัฐบาล

 

รายงานที่นำเสนอร่วมกันโดยรัฐบาลยูเครน คณะกรรมาธิการยุโรป และธนาคารโลก ระบุว่า ค่าใช้จ่ายที่จำเป็นต่อการฟื้นฟูและบูรณะยูเครนซึ่งได้รับความเสียหายหนักจากสงครามอยู่ที่ประมาณเกือบ 3.5 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ และในเมื่อสงครามยังไม่จบ ค่าใช้จ่ายจึงเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ

 

ประธานาธิบดียูเครนกล่าวเอาไว้ว่า “การสร้างยูเครนขึ้นใหม่ไม่ใช่โครงการในท้องถิ่น ไม่ใช่โครงการของคนคนเดียว แต่เป็นภารกิจร่วมกันของโลกประชาธิปไตยทั้งหมด ทุกประเทศที่มีความศิวิไลซ์”

 

ตอนท้ายบทความระบุไว้ว่า เมื่อสงครามผ่านพ้นไป ยูเครนจะเป็นประเทศที่มีส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของยุโรป การลงทุนในยูเครนจึงเท่ากับการลงทุนใประเทศสมาชิกสหภาพยุโรปในอนาคต รัฐบาลยูเครนเรียกร้องให้พันธมิตรระหว่างประเทศ นักลงทุน องค์กรพัฒนาเอกชน ธุรกิจ และประชาชนให้การสนับสนุนทางการเงินแก่ยูเครน ซึ่งจะช่วยฟื้นฟูเสถียรภาพของเศรษฐกิจยูเครน และสนับสนุนชาวยูเครนในการทำสงครามกับรัสเซีย 

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising