×

นปช. ทำบุญครบรอบ 10 ปี เมษาฯ-พฤษภาฯ 53 ชี้ยังไม่เห็นความยุติธรรม พร้อมพิสูจน์ความจริงทุกกรณี

โดย THE STANDARD TEAM
19.05.2020
  • LOADING...

วันนี้ (19 พฤษภาคม) ที่วัดนวลจันทร์ จตุพร พรหมพันธุ์ ประธานแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ หรือ นปช. พร้อมด้วยแกนนำอีกหลายคน ร่วมกันทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้วีรชนที่ร่วมต่อสู้ในเหตุการณ์เมษาฯ-พฤษภาฯ 2553 โดยมีการทำบุญตักบาตรแด่พระภิกษุสงฆ์จำนวน 9 รูป พร้อมถวายสังฆทาน ผ้าบังสุกุล และกรวดน้ำให้วีรชนรวมถึงทหารที่เสียชีวิตในเหตุการณ์ดังกล่าว

 

ภายหลังเสร็จพิธี จตุพรกล่าวว่า ไม่ควรมีใครต้องมาตายจากการเรียกร้องเพื่อประชาธิปไตย รวมถึงวีรชนทุกเหตุการณ์ไม่ว่าจะเป็น 14 ตุลาคม 2516, 6 ตุลาคม 2519 พฤษภาคม 2535 และการต่อสู้อื่นใดของภาคประชาชน ดังนั้น ตนและพวกพ้องได้นัดหมายกันว่า พี่น้องเราที่ได้ร่วมกันต่อสู้เมื่อ 10 ปีที่ผ่านมา ไม่ว่าจะอยู่ ณ ที่แห่งใด สะดวกตอนเช้าก็ตักบาตร ตอนเพลก็ถวายพระเพล หลังเพลก็ทำบุญสังฆทานเพื่ออุทิศส่วนกุศลให้กับวีรชน

 

ในวาระครบรอบ 10 ปีนี้ ท่ามกลางความเห็นที่ยังดำรงอยู่ ตนในฐานะประธาน นปช. ที่ได้ร่วมในการต่อสู้ และเป็นผู้อภิปรายไม่ไว้วางใจ โดยได้รวบรวมพยานหลักฐาน การล้อมปราบประชาชนเมื่อ 10 ปีที่ผ่านมา โดยใช้เวลาพูดอภิปราย 4 ชั่วโมงเต็ม ดังนั้น ทุกสิ่งทุกอย่างเราได้พูดไปหมดแล้ว รวมทั้งการตั้งเวทีปราศรัย เวทีแถลงข่าว ซึ่งจะได้เห็นชัดเจน ณ ขณะนั้น มีความพยายามถอนประกันตนทุกสัปดาห์ จากการสัมภาษณ์แต่ละครั้ง ในเรื่องของการแสวงหาความยุติธรรมให้กับคนที่ตาย

 

ตนมักพูดเสมอว่าในช่วง 10 ปีนี้ ยิ่งตามหาความจริงมากเท่าไร เราก็จะยิ่งเจ็บปวดมากเท่านั้น ฝ่ายที่พูดความจริงจะลงท้ายด้วยคุก ตะราง ลงท้ายด้วยการลงโทษ ฝ่ายที่ลงมือฆ่าไม่มีใครถูกดำเนินคดีแม้แต่เพียงรายเดียว ดังนั้น ความพยายามที่จะรื้อค้นหรือกล่าวใส่ร้ายกันอีกนั้น ตนขอเตือนว่าควรจะยุติ เพราะหากไม่ยุติก็ประกาศท้าทายว่า ไม่ว่าใครก็ตามให้นัดหมายกันมา ที่จะพูดถึงเหตุการณ์ดังกล่าวนี้ เพราะ ความจริงคือมีคนตายมากที่สุด ในการต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยของประเทศไทย

 

“เหตุการณ์ 14 ตุลาคม 2516 กว่า 70 ชีวิต, 6 ตุลาคม 2519 กว่า 40 ชีวิต, พฤษภาทมิฬ 2535 ตาย สูญหายกว่า 80 ชีวิต แต่เหตุการณ์พฤษภาคมปี 2553 ตายร่วมร้อยกว่าชีวิต ทั้งตายในเหตุการณ์และภายหลังเหตุการณ์ ซึ่งมีหลายชีวิตที่ตายภายหลัง รวมถึงมีผู้บาดเจ็บกว่า 2 พันคน ดังนั้น ตลอดระยะเวลากว่า 10 ปีนี้ คนเสื้อแดงอยู่อย่างเจียมเนื้อเจียมตัว และรู้ว่าเราไม่สามารถสู้ในกระบวนการใดได้ เพียงแต่ได้ทำหน้าที่แสวงหาความยุติธรรม ซึ่งได้ทำอย่างครบถ้วน แม้ว่าจะไม่ได้รับความยุติธรรมก็ตาม ในวาระ 10 ปีนี้ เราต้องยอมรับความจริงว่า เราไม่สามารถที่จะทวงหาความยุติธรรมให้กับคนที่ตายได้” จตุพรกล่าว

 

จตุพร กล่าวต่อไปอีกว่า ตนได้พยายามทำหน้าที่ตั้งแต่ฟ้องต่อศาลอาญาระหว่างประเทศ มอบหมายให้ โรเบิร์ต อัมสเตอร์ดัม เป็นทนายไปฟ้องก็ฟ้องได้คนเดียว แต่คดีก็ยังไม่มีความคืบหน้า ส่วนคดีที่เกิดขึ้นในประเทศไทยนั้น แน่นอนที่สุดความตายที่ผิดธรรมชาติ จะต้องมีการไต่สวนสำนวนชันสูตรพลิกศพ ซึ่งกว่า 10 คดี ศาลได้ไต่สวนระบุชัดเจนว่า ความตายที่เกิดขึ้น เกิดจากการปฏิบัติของเจ้าหน้าที่ อ้างว่าได้รับคำสั่งจากศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน หรือ ศอฉ. ซึ่งต่อมาก็ได้มีการฟ้องจำเลยในคดีนี้ 2 คน เป็นอดีตนายกรัฐมนตรี 1 คน และรองนายกรัฐมนตรี 1 คน 

 

โดยจำเลยทั้งสองคนได้ต่อสู้ว่า เขตอำนาจศาลนั้นไม่ได้เป็นของศาลอาญา ศาลชั้นต้นได้วินิจฉัยโดยอธิบดีศาลอาญา ได้มีความเห็นแย้งว่า ในฐานความผิดคดีฆ่าคนตาย และพยายามฆ่าคนตายโดยเจตนาเล็งเห็นผลนั้น เป็นผลจากการไต่สวนสำนวนชันสูตรพลิกศพ ซึ่งศาลได้ชี้ว่าผู้ตายเป็นใคร ตายด้วยเหตุอะไร ใครเป็นคนร้ายที่ทำให้ตาย เป็นอำนาจของศาลอาญา ซึ่งถือว่าเป็นคดีแรกๆ ที่อธิบดีศาลอาญามีความเห็นแย้งกับผู้พิพากษาในบัลลังก์ แต่เรื่องนี้ก็จบลงตรงที่ให้เป็นอำนาจของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ซึ่งจะต้องผ่านคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช.

 

ดังนั้นเรื่องเมื่อผ่าน ป.ป.ช. ก็ชี้มูลว่าไม่มีความผิด ทำให้คดีนี้เรื่องไปไม่ถึงศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ดังนั้นที่บอกว่าศาลพิพากษาว่าไม่ได้กระทำความผิดนั้น เป็นความเท็จโดยสิ้นเชิง เพราะศาลไม่เคยพิพากษาจำเลยในคดีนี้ เพราะเป็นเรื่องเขตอำนาจศาล

 

จตุพรกล่าวอีกด้วยว่า สำหรับประเด็นต่อมาที่บอกว่าในคดีที่จำคุกตน ที่ระบุว่าตนไปกล่าวหาเรื่องการสั่งฆ่าประชาชน ซึ่งเป็นข้อเท็จจริง แต่เป็นคนละข้อเท็จจริงกัน ในคดีที่ฟ้องตนนั้นไม่ใช่เหตุการณ์ในปี 2553 แต่เป็นเหตุการณ์ในปี 2552 แต่พยายามชี้แจงดูเสมือนหนึ่งว่า ในฐานฆ่าประชาชนนั้น ศาลได้พิพากษาลงโทษไปแล้ว แต่จริงๆ แล้วนั้นเป็นเหตุการณ์ปี 2552 ไม่ใช่ในปี 2553 ดังนั้น ตนขอเตือนอีกครั้งไม่ว่าในส่วนการเมืองใดก็ตาม ความจริงที่หนีไม่พ้นคือมีคนตายเกิดขึ้น และตนก็ยังเรียกร้องว่าทำไมไม่มีการไต่สวนสำนวนชันสูตรพลิกศพ พล.ต. ขัตติยะ สวัสดิผล, พล.อ. ร่มเกล้า ธุวธรรม เพราะเป็นเรื่องที่ค้างคาใจคน ที่ถูกนำมาใช้ในการอธิบายกันทุกปี ทั้งที่ความตายที่ผิดธรรมชาติตามประมวลวิธีพิจารณาความอาญา ตำรวจและเจ้าหน้าที่จะต้องไต่สวนให้แล้วเสร็จภายใน 1 เดือน และสามารถขยายได้ 2 ครั้ง ครั้งละ 1 เดือน ในขั้นตอนอัยการ 1 เดือนขยายได้ 2 ครั้ง ซึ่งหมายความว่าระหว่างตำรวจและอัยการขยายการไต่สวนเต็มที่แล้วไม่เกิน 6 เดือน 

 

ทุกครอบครัวที่เป็นครอบครัววีรชน ก็อยู่กับความทุกข์ ไม่ได้แตกต่างกันกับกว่าร้อยชีวิตนี้ ไม่ว่าจะเป็นประชาชนหรือเจ้าหน้าที่รัฐ ดังนั้น อย่าพยายามอธิบายหาเศษหาเลยกัน เพราะหลายคนมีความเกี่ยวข้อง ตนขอเตือนอีกครั้งว่าตนในฐานะประธานคนเสื้อแดง ไม่ได้ปลุกคนเสื้อแดงขึ้นมาต่อสู้ใหม่ แต่คนปลุกคนเสื้อแดงคือฝ่ายปราบปรามคนเสื้อแดง ที่พยายามประโคมข่าวในขณะนี้ ไม่ว่าคนที่อยู่ใน ศอฉ. หรือคนที่มีความเกี่ยวข้อง 

 

ดังนั้น ที่ตนพยายามไม่ตอบเป็นรายประเด็นนั้น เนื่องจากไม่ต้องการสร้างความขัดแย้งขึ้นมาใหม่ในท่ามกลางที่ประเทศที่ต้องสู้กับโควิด-19 และภาวะเศรษฐกิจปากท้องที่แสนสาหัส แต่อย่างไรก็ตามหากต้องการพิสูจน์ความจริงตนก็พร้อมทุกกรณี ดังนั้น บทเรียนต่างๆ ในทุกเหตุการณ์เรามักจะพูดว่าควรจะเป็นครั้งสุดท้ายในการเข่นฆ่าประชาชน และประชาชนที่ตายไม่มีเขม่าดินปืนในมือ และไม่พบว่าผู้ตายมีอาวุธแม้แต่รายเดียว จึงไม่ใช่ผู้ก่อการร้าย อย่างที่ผู้ถืออำนาจรัฐกล่าวอ้าง อีกทั้งการสร้างวาทกรรมเรื่องเผาบ้านเผาเมืองนั้นเพียงเพื่อต้องการกลบศพเท่านั้น เนื่องจากผู้เสียชีวิตถูกฆ่าก่อนที่ไฟจะไหม้ แต่ 6 ศพที่วัดปทุมฯ ถูกฆ่าขณะไฟไหม้

 

จตุพรกล่าวอีกว่า ตนได้มีโอกาสพูดคุยกับ พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา และสุเทพ เทือกสุบรรณ ก่อนการรัฐประหารปี 2557 ไม่กี่นาที ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่ควรเกิดขึ้นอีกในสังคมไทย แต่ก็เห็นชัดว่า ระบอบเผด็จการทหารไม่สามารถแก้ไขปัญหาความยากจนและความเดือดร้อนของประชาชนได้ แม้แปลงร่างเข้ามาตั้งพรรคการเมือง ก็ไม่แตกต่างจากพรรคสามัคคีธรรม ที่ตั้งขึ้นมารองรับการสืบทอดอำนาจคณะรัฐประหารเมื่อปี 2534 ก่อนจบลงที่เหตุการณ์พฤษภาฯ 2535

 

จตุพรกล่าวด้วยว่า ในวันที่ 22 พฤษภาคมนี้ ที่จะครบรอบการรัฐประหารปี 2557 นั้น นปช. ไม่มีกิจกรรมอะไร เพียงแต่แกนนำ นปช. จะแสดงความคิดเห็น และจุดยืนที่ไม่เห็นด้วยกับการรัฐประหารผ่านช่องทางต่างๆ เท่านั้น

 

พิสูจน์อักษร: ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์

 


 

ห้ามพลาด! ฟอรัมที่เจาะลึก New Normal ที่ใหญ่ที่สุดในเมืองไทย จากวิทยากรระดับประเทศ 40 คน ซื้อบัตรงาน THE STANDARD ECONOMIC FORUM ที่ https://www.eventpop.me/e/8705-economic-forum

 

  • LOADING...

READ MORE





Latest Stories

Close Advertising