×

Uber เปิดตัว ‘uberASSIST’ บริการสำหรับผู้สูงอายุและผู้พิการ

06.10.2017
  • LOADING...

HIGHLIGHTS

4 Mins. Read
  • ข้อมูลจากกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาเมื่อปี 2558 ระบุว่า นักท่องเที่ยวผู้สูงอายุสร้างรายได้ให้ประเทศไทยมากถึง 195,000 ล้านบาท หรือคิดเป็น 8.66% ของรายได้จากนักท่องเที่ยวทั้งหมด มีจำนวนนักท่องเที่ยวผู้สูงอายุคิดเป็น 12.1% ของจำนวนนักท่องเที่ยวทั้งหมด
  • บริการระบบขนส่งมวลชนภายในเมืองที่ไม่เชื่อมโยงกันสร้างความลำบากให้แก่ประชาชนทุกคน รวมถึงผู้พิการและผู้สูงอายุ
  • uberASSIST เป็นบริการร่วมเดินทางเพื่อผู้สูงอายุและผู้พิการ ไม่ใช่รถพยาบาลหรือรถฉุกเฉิน คิดค่าบริการตามเกณฑ์ของ Uber ปกติทั่วไป รถที่ใช้บริการมีขนาดกลางขึ้นไปสามารถบรรทุกรถเข็นพับได้ ส่วนผู้ร่วมขับก็ต้องผ่านการอบรมกิจกรรมให้ความรู้และทดสอบความสามารถในการอำนวยความสะดวกให้กับคนพิการและผู้สูงอายุ

     ในวันที่ระบบขนส่งมวลชนประเทศไทยยังไม่เชื่อมต่อกันเป็นโครงข่ายแบบรูปธรรม การเดินทางด้วยการเชื่อมต่อระหว่างระบบขนส่งสาธารณะแต่ละระบบจึงไม่ราบรื่นเท่าที่ควร โดยเฉพาะกับผู้สูงอายุและผู้พิการ

     เมื่อเล็งเห็นถึงปัญหาของผู้ใช้งานกลุ่มนี้ Uber ประเทศไทยจึงเปิดตัวบริการร่วมเดินทาง ‘uberASSIST’ ขึ้นมาเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 5 ตุลาคม 2560 โดยหวังยกระดับให้เป็นบริการอำนวยความสะดวกแก่ผู้ใช้ที่เป็นผู้สูงอายุและผู้พิการภายใต้ความร่วมมือกับสำนักงานองค์การคนพิการสากลประจำภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก (DPI-AP) และพันธมิตรภาคีเครือข่ายขนส่งมวลชนทุกคนต้องขึ้นได้ (T4A)

 

 

หัวหน้าองค์การคนพิการสากลชี้กรุงเทพฯ ควรมีทางเลือกการเดินทางที่หลากหลาย และเหมาะสมแก่ผู้พิการ, ผู้สูงอายุ

     เสาวลักษณ์ ทองก๊วย หัวหน้าสำนักงานองค์การคนพิการสากลประจำภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก และพันธมิตรภาคีเครือข่ายขนส่งมวลชนทุกคนต้องขึ้นได้ กล่าวถึงสาเหตุที่กรุงเทพฯ ควรมีบริการเดินทางเพื่อผู้พิการและผู้สูงอายุว่า กรุงเทพฯ เป็นเมืองท่องเที่ยวยอดนิยมที่ได้รับการจัดอันดับให้เป็น 1 ในแหล่งท่องเที่ยวคุ้มค่า ซึ่งในจำนวนนักท่องเที่ยวที่หลั่งไหลเข้ามานี้ ก็มีผู้พิการและผู้สูงอายุรวมอยู่ด้วย และกรุงเทพฯ ยังเป็นที่ตั้งของคณะกรรมการเศรษฐกิจและสังคมแห่งเอเชียและแปซิฟิก (UNESCAP) และเป็นศูนย์กลางประชาคมอาเซียน

     “เมื่อเดือนมีนาคมปี 2559 สำนักอนามัย กรุงเทพมหานคร เผยข้อมูลว่าปัจจุบันกรุงเทพฯ มีประชากรผู้สูงอายุ (60 ปีขึ้นไป) ประมาณ 800,000 คน ในจำนวนนี้เป็นผู้สูงอายุที่สามารถเดินเหินเองได้ประมาณ 92% ซึ่งถือว่าไม่ใช่น้อย นอกจากนี้ก็มีผู้พิการประเภทต่างๆ อีกประมาณ 840,000 กว่าคน รวมๆ กันแล้วประมาณ 1.6 ล้านคนหรือมากกว่านั้น

     “ขณะที่ข้อมูลจากกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาเมื่อปี 2558 ระบุว่า นักท่องเที่ยวผู้สูงอายุสร้างรายได้ให้ประเทศไทยมากถึง 195,000 ล้านบาท หรือคิดเป็น 8.66% ของรายได้ท่องเที่ยวทั้งหมด มีจำนวนนักท่องเที่ยวผู้สูงอายุคิดเป็น 12.1% ของนักท่องเที่ยวทั้งหมด”

 

 

     เสาวลักษณ์บอกว่า ความท้าทายของกรุงเทพมหานครในตอนนี้คือ การเพิ่มรูปแบบบริการการเดินทางที่หลากหลายตอบโจทย์ความต้องการในแต่ละวันของคนกรุงเทพฯ และนักท่องเที่ยว ถึงแม้ทุกวันนี้จะมีรถไฟฟ้า แต่การเดินทางด้วยขนส่งโครงข่ายเดียวยังเป็นไปไม่ได้ในระหว่างเมือง เพราะยังต้องการการเชื่อมต่อระหว่างระบบขนส่งแต่ละระบบอยู่ ดังนั้นจึงต้องมีบริการการเดินทางที่สร้างความสะดวกใจให้แก่ผู้พิการและผู้สูงอายุ ซึ่งจะทำให้คุณภาพชีวิตของคนกลุ่มนี้ดีขึ้น

     ด้าน ศิริภา จึงสวัสดิ์ ผู้จัดการ Uber ประเทศไทยบอกว่า “เราทำ uberASSIST โดยให้ความสำคัญกับการตระหนักรู้ว่า ผู้พิการและผู้สูงอายุแต่ละคนต้องการการอำนวยความสะดวกที่ต่างกัน การสอบถามว่าต้องการช่วยอำนวยความสะดวกเพิ่มเติมหรือเปล่า และสุดท้ายคือการช่วยอำนวยความสะดวกให้กับพวกเขา เพื่อให้การเดินทางราบรื่นและสะดวกสบาย”

 

 

รู้จัก uberASSIST บริการร่วมเดินทางเพื่อผู้สูงอายุและผู้พิการ

     uberASSIST เปิดตัวที่ประเทศไทยเป็นที่แรกในกลุ่มประเทศอาเซียนและเป็นประเทศที่ 4 ในเอเชียต่อจากไต้หวัน, ฮ่องกง และเกาหลีใต้ โดยให้บริการครั้งแรกที่รัฐเท็กซัสเมื่อปี 2557 ปัจจุบันเปิดให้บริการแล้วกว่า 10 ประเทศทั่วโลก

     บริการไรด์แชร์ริ่งสำหรับผู้สูงอายุและผู้พิการ ต่างจากบริการร่วมเดินทางทั่วๆ ไปตรงที่ผู้ร่วมขับจะมีความเข้าใจและผ่านหลักสูตรกิจกรรมให้ความรู้และการทดสอบความสามารถในการอำนวยความสะดวกให้กับคนพิการและผู้สูงอายุด้วยความเข้าใจ ค่าบริการทุกอย่างจะเท่ากับค่าบริการการเดินทางปกติทั่วไป

 

 

     อย่างไรก็ดี ในส่วนของรายละเอียดการให้บริการ Uber ย้ำว่า บริการของพวกเขาไม่ใช่รถพยาบาลหรือรถฉุกเฉินแต่อย่างใด แต่แตกต่างจากรถ Uber ทั่วๆ ไปตรงที่รถให้บริการมีขนาดกลางขึ้นไป สามารถบรรทุกรถเข็นแบบพับได้ โดยผู้เรียกใช้บริการสามารถแจ้งล่วงหน้าถึงรายละเอียดและขอบเขตการบริการที่ต้องการได้รับ เช่น ผู้พิการทางสายตาและผู้พิการทางการได้ยิน

     ด้านความปลอดภัย Uber บอกว่า ผู้ร่วมขับทุกคนผ่านการอบรมจากหลักสูตรมาเป็นอย่างดี นอกจากนี้ผู้ใช้บริการก็สามารถเลือกฟีเจอร์แชร์ทริปการเดินทางไปให้ครอบครัวหรือผู้ที่ดูแลเพื่อตรวจสอบข้อมูลรายละเอียดการเดินทางในแต่ละครั้งว่าผู้โดยสารเดินทางถึงที่หมายแล้วหรือยัง หรือวิ่งออกนอกเส้นทางหรือไม่

     ปัจจุบัน Uber เพิ่งเปิดตัว uberASSIST ไปไม่นาน จึงทำให้มีผู้ให้บริการในโครงการนี้เพียง 39 คนเท่านั้น และผู้ร่วมขับทุกคนจะต้องได้รับการคัดเลือกให้เข้าร่วมโครงการด้วยเกณฑ์ 3 ข้อ ได้แก่ 1. มีประสบการณ์การขับอย่างน้อย 100 เที่ยว 2. มีคะแนนดาวจากผู้ใช้บริการสูง และ 3. ได้รับการอบรมจากโครงการ ซึ่ง Uber ตั้งเป้าไว้ว่าไม่เกิน 3 เดือนข้างหน้านี้จะต้องเพิ่มจำนวนผู้ร่วมขับ uberASSIST ให้ถึง 200 คนให้ได้ จึงจะเป็นจำนวนที่เพียงพอต่อความต้องการของผู้ใช้งานที่เป็นผู้พิการและผู้สูงอายุ

  • LOADING...

READ MORE





Latest Stories

Close Advertising