×

ทำไมแผ่นดินไหวในตุรกีจึงรุนแรงและสร้างความเสียหายหนัก

07.02.2023
  • LOADING...

วานนี้ (6 กุมภาพันธ์) เกิดเหตุแผ่นดินไหวรุนแรงแมกนิจูด 7.8 ขึ้นที่ตุรกี ซึ่งถือเป็นหนึ่งในเหตุแผ่นดินไหวที่รุนแรงสุดในรอบกว่า 100 ปีที่ตุรกีเคยเผชิญมา ขณะที่แรงสั่นสะเทือนรับรู้ได้ถึงเลบานอน ซีเรีย ไซปรัส และอิสราเอล และมีอาฟเตอร์ช็อกตามมาอีกอย่างน้อย 100 ครั้ง โดยหนึ่งในนั้นเป็นแผ่นดินไหวที่มีความรุนแรงถึงแมกนิจูด 7.5 อีกทั้งยังมีอีก 3 ครั้งที่เป็นแผ่นดินไหวแมกนิจูด 6.0 ขึ้นไป

 

ผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่า แม้ตุรกีจะเป็นประเทศที่เกิดแผ่นดินไหวบ่อยครั้ง แต่เหตุแผ่นดินไหวระดับนี้ไม่ใช่ว่าจะเกิดขึ้นได้ง่ายๆ เพราะจากสถิติแล้ว การที่จะเจอแผ่นดินไหวรุนแรงขนาดนี้ทั่วโลกจะเจอแค่ไม่เกิน 5 ครั้งต่อปีโดยเฉลี่ย โดยรอบ 25 ปีที่ผ่านมา ตุรกีเผชิญแผ่นดินไหวแมกนิจูด 7.0 ขึ้นไปทั้งหมดเพียง 7 ครั้ง แต่สถานการณ์ที่เกิดขึ้นวานนี้นับได้ว่ารุนแรงมากที่สุด

 

ตั้งแต่เกิดเหตุขึ้นเมื่อเวลาราว 08.00 น. ของประเทศไทยวานนี้ จนถึงเวลานี้คือวันที่ 7 กุมภาพันธ์ ยอดผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บยังไหลต่อเนื่องไม่หยุด ขณะที่ล่าสุดมีรายงานว่ายอดเสียชีวิตในตุรกีและซีเรียพุ่งทะลุ 4,300 รายแล้ว

 

ทำไมแผ่นดินไหวถึงคร่าชีวิตผู้คนได้มากมายเพียงนี้

 

  • ก่อนอื่นต้องทำความเข้าใจว่าขนาดของแผ่นดินไหวจะถูกจัดเป็น 7 ประเภทด้วยกัน โดยแผ่นดินไหวต่ำกว่าแมกนิจูด 3.0 จะจัดเป็นขนาดเล็กมาก (Micro) ส่วน 3.0-3.9 ถูกจัดว่าเป็นขนาดเล็ก (Minor) ต่อมาคือ 4.0-4.9 จัดว่าเป็นขนาดค่อนข้างเล็ก (Light) 5.0-5.9 จัดเป็นขนาดปานกลาง (Moderate) 6.0-6.9 เป็นขนาดค่อนข้างใหญ่ (Strong) 7.0-7.9 เป็นขนาดใหญ่ (Major) และมากกว่า 8.0 ขึ้นไป เป็นขนาดใหญ่มาก (Great)

 

  • ถ้าไล่เรียงจากสเกลด้านบนก็จะพบว่าแผ่นดินไหวเมื่อวานนี้คือแมกนิจูด 7.8 จัดว่าอยู่ในระดับ Major เลยทีเดียว หรือถ้าขยับแมกนิจูดขึ้นมาอีกเพียง 0.2 ก็จะแรงสุดในบรรดาแผ่นดินไหวทั้งหมดแล้ว โดยเกิดขึ้นที่บริเวณแนวรอยเลื่อนอนาโตเลียตะวันออก ความยาวประมาณ 100 กิโลเมตร ส่งผลให้อาคารบ้านเรือนที่อยู่ใกล้บริเวณดังกล่าวได้รับความเสียหายหนัก

 

  • ศาสตราจารย์โจแอนนา โฟเร วอล์กเกอร์ (Joanna Faure Walker) หัวหน้าสถาบันลดความเสี่ยงและภัยพิบัติ (Risk and Disaster Reduction) แห่งมหาวิทยาลัยคอลเลจ ลอนดอน กล่าวว่า “เมื่อพิจารณาจากเหตุแผ่นดินไหวที่ร้ายแรงที่สุดในช่วงที่ผ่านมา มีเพียงสองครั้งในช่วง 10 ปีที่ผ่านมาที่เกิดแผ่นดินไหวเท่ากันที่ 7.8 แมกนิจูด”

 

  • แต่ไม่ใช่แค่พลังของแรงสั่นสะเทือนเท่านั้นที่นำไปสู่ความเสียหายร้ายแรง แต่เหตุการณ์ในครั้งนี้ยังเกิดขึ้นในช่วงเช้ามืดของตุรกีและซีเรีย (ประมาณ 04.00 น.) ซึ่งผู้คนส่วนใหญ่กำลังนอนหลับอยู่ในบ้านเรือนหรืออาคารที่พักอาศัยของตนเอง ทำให้เมื่อเกิดแผ่นดินไหวพวกเขาจึงยังไม่ทันได้ตั้งตัวหรือหนีออกมาในที่โล่งได้ทัน ฉะนั้นจึงมีประชาชนจำนวนไม่น้อยที่เสียชีวิตเพราะถูกอาคารถล่มทับ

 

  • ความแข็งแรงของอาคารก็เป็นอีกปัจจัยหนึ่ง โดย ดร.คาร์เมน โซลานา (Carmen Solana) ผู้เชี่ยวชาญด้านภูเขาไฟวิทยาและการสื่อสารความเสี่ยงแห่งมหาวิทยาลัยพอร์ตสมัธ (Portsmouth) กล่าวว่า โครงสร้างพื้นฐานในพื้นที่ทางตอนใต้ของตุรกี และโดยเฉพาะอย่างยิ่งในซีเรียนั้นไม่ค่อยแข็งแรง ดังนั้นการช่วยเหลือชีวิตประชาชนจึงต้องหวังพึ่งการกู้ภัยเท่านั้น

 

  • “ช่วงเวลา 24 ชั่วโมงหลังเกิดเหตุจึงมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการค้นหาผู้รอดชีวิต เพราะหลังจากผ่านไป 48 ชั่วโมงแล้ว จำนวนผู้รอดชีวิตจะลดลงอย่างมาก” โซลานากล่าว

 

  • นอกจากนี้จุดเกิดแผ่นดินไหวซึ่งอยู่ใกล้กับเมืองกาซีอันเทป (Gaziantep) ทางตะวันออกเฉียงใต้ของประเทศนั้น ไม่เคยเผชิญกับเหตุแผ่นดินไหวแรงขนาดนี้มากว่า 200 ปีแล้ว อีกทั้งยังไม่เคยมีสัญญาณเตือนใดๆ ทำให้ระดับการเตรียมความพร้อมและขีดความสามารถในการรับมือนั้นน้อยกว่าภูมิภาคอื่นๆ ที่คุ้นเคยกับแผ่นดินไหวมาก่อน

 

แผ่นดินไหวเกิดจากอะไร?

 

  • ข้อมูลจากศูนย์การเรียนรู้วิทยาศาสตร์โลกและดาราศาสตร์ ระบุว่า เปลือกโลกของเราประกอบไปด้วยชิ้นส่วนเล็กๆ ที่เรียกว่า ‘แผ่นเปลือกโลก’ ซึ่งวางเรียงตัวต่อกัน โดยแผ่นเปลือกโลกที่ว่านี้ได้พยายามที่จะเคลื่อนตัว แต่ก็ถูกขัดขวางด้วยแรงเสียดทานที่เกิดจากการเสียดสีกับแผ่นที่อยู่ติดกัน และเมื่อแผ่นธรณีกระทบกัน แรงกดดันหรือแรงเสียดทานจะทำให้หินที่บริเวณขอบของแผ่นธรณีเกิดความเค้นและความเครียด สะสมพลังงานไว้ภายใน เมื่อหินแตกหรือหักก็จะปลดปล่อยพลังงานออกมา ทำให้เกิดการสั่นสะเทือนเป็นแผ่นดินไหว

 

  • แผ่นดินไหวมักเกิดขึ้นในบริเวณรอยต่อของแผ่นธรณี โดยในกรณีนี้แผ่นเปลือกโลกอาระเบียได้เคลื่อนตัวไปทางเหนือ และเสียดสีเข้ากับแผ่นเปลือกโลกอนาโตเลีย

 

  • ซึ่งนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่แรงเสียดสีของแผ่นเปลือกโลกได้สร้างความเสียหายให้กับมนุษย์อย่างมหาศาล เพราะในอดีตนั้นก็เคยเกิดเหตุการณ์ในลักษณะเดียวกันมาแล้ว เช่น เหตุการณ์เมื่อวันที่ 13 สิงหาคม 1822 เกิดแผ่นดินไหวแมกนิจูด 7.4 จากการเสียดสีกันของแผ่นเปลือกโลกอาระเบียและแผ่นเปลือกโลกอนาโตเลีย ซึ่งแม้แมกนิจูดจะต่ำกว่าเหตุการณ์ที่เพิ่งเกิดขึ้น แต่ก็ได้สร้างความเสียหายใหญ่หลวง โดยมีผู้เสียชีวิตมากถึง 7,000 คนเฉพาะในเมืองอเลปโปของซีเรีย ขณะอาฟเตอร์ช็อกจากเหตุการณ์ครั้งนั้นคงอยู่นานเกือบปีเลยทีเดียว

 

  • สำหรับเหตุการณ์เมื่อวันจันทร์ มีอาฟเตอร์ช็อกตามมาแล้วอย่างน้อย 100 ครั้ง และนักวิทยาศาสตร์คาดว่าแผ่นดินไหวที่เกิดขึ้นจะเป็นไปตามแนวโน้มเดียวกันกับแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ก่อนหน้านี้ ซึ่งแปลว่าอาฟเตอร์ช็อกอาจกินเวลานานไปอีกหลายเดือนหรือเป็นหลักปี

 

ความเสียหายมากน้อยแค่ไหน

 

  • อย่างที่กล่าวไปแล้วข้างต้นว่าตั้งแต่เกิดเหตุเมื่อช่วงเช้าวานนี้จนถึงปัจจุบัน ตัวเลขของผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บยังคงไหลต่อเนื่อง ชนิดที่สื่อต่างประเทศหลายสำนักแทบจะอัปเดตการรายงานทุกๆ ชั่วโมง โดยตัวเลขล่าสุดนั้นอยู่ที่ 4,372 ราย (ข้อมูล ณ เวลา 10.00 น. ของวันที่ 7 กุมภาพันธ์)

 

  • ณ ช่วงเช้าของวันนี้ ยูนุส ซีซาร์ (Yunus Sezer) หัวหน้าหน่วยเฝ้าระวังภัยพิบัติของตุรกีเปิดเผยว่า ยอดผู้เสียชีวิตในตุรกีอยู่ที่ 2,921 ราย บาดเจ็บ 15,834 ราย

 

  • ส่วนยอดเสียชีวิตในซีเรียอยู่ที่ 1,451 ราย บาดเจ็บ 3,531 ราย

 

  • UNICEF ประเมินว่ามีบ้านเรือนหลายพันหลังที่ถล่มราบจากเหตุแผ่นดินไหวในตุรกีและซีเรีย ทำให้หลายครอบครัวไร้ที่อยู่อาศัยในช่วงเวลาที่อุณหภูมิหนาวเย็นจัด อีกทั้งยังมีหิมะและฝนที่โปรยปรายมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งทำให้ความหนาวเย็นทวีความรุนแรงหนักหนากว่าเดิม โดยเมื่อไม่นานมานี้ ตุรกีและซีเรียเพิ่งเผชิญกับพายุหิมะหนัก และคาดว่าในอีกไม่ช้าอีกหลายพื้นที่จะมีอุณหภูมิลดต่ำลงอีกถึงขั้นติดลบ

 

  • เฉพาะในตุรกีเพียงประเทศเดียว มีอาคารอย่างน้อย 5,606 หลังพังทลาย ขณะที่พื้นที่ทางตอนเหนือของซีเรียก็ได้รับความเสียหายหนัก ซึ่งในจำนวนอาคารเหล่านั้นมีหลายแห่งที่เป็นโรงพยาบาล โรงเรียน และศูนย์ดูแลผู้ป่วย ซึ่งจำเป็นต่อชีวิตประชาชนอย่างมาก

 

  • ขณะที่ในซีเรียเองสถานการณ์ด้านความช่วยเหลือทางมนุษยธรรมก็เรียกได้ว่าวิกฤต หลังจากเผชิญสงครามในประเทศมานานกว่า 10 ปี โดยเหตุการณ์วานนี้นอกจากจะทำให้พวกเขาต้องสูญเสียบุคคลอันเป็นที่รักซึ่งสร้างความเจ็บปวดใจอย่างแสนสาหัสแล้ว ผู้รอดชีวิตจากแผ่นดินไหวหลายคนต้องนอนตามพื้นถนนท่ามกลางอากาศที่เย็นเฉียบเพราะความช่วยเหลือยังมาไม่ถึง

 

  • รายงานจากสำนักข่าว CNN ระบุว่า มีประชาชนมากกว่า 4 ล้านคนในภูมิภาคที่เกิดแผ่นดินไหวในซีเรียที่ต้องพึ่งพาความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม โดยส่วนมากเป็นผู้หญิงและเด็ก นอกเหนือจากหายนะที่เกิดจากแผ่นดินไหวแล้ว ชาวซีเรียจำนวนมากยังต้องต่อสู้กับวิกฤตการแพร่ระบาดของอหิวาตกโรคท่ามกลางฤดูหนาวอันเลวร้ายที่มีทั้งหิมะและฝนตกหนัก ขณะความพยายามในการค้นหาและช่วยเหลือผู้รอดชีวิตก็เป็นไปอย่างยากลำบาก เพราะประเทศยากจนอย่างซีเรียขาดแคลนอุปกรณ์และเครื่องจักรหนักที่จะช่วงเคลียร์ซากปรักหักพัง

 

ธารน้ำใจนานาชาติหลั่งไหลเข้าช่วยเหลือ

 

  • ภาพความสูญเสีย ความเสียหาย และความเจ็บปวดที่เกิดขึ้นนั้นเรียกได้ว่าบีบหัวใจคนทั้งโลก ทำให้ขณะนี้ธารน้ำใจและความช่วยเหลือจากนานาชาติกำลังหลั่งไหลไปยังตุรกีและซีเรียอย่างท่วมท้น โดยประธานาธิบดีเรเซป ตอยยิบ เออร์โดกัน ผู้นำตุรกี กล่าวว่า ขณะนี้มี 45 ประเทศที่ได้เสนอมอบความช่วยเหลือในด้านการค้นหาและกู้ภัยในตุรกีแล้ว

 

  • สหภาพยุโรป (EU) ได้เริ่มใช้งานกลไกการตอบสนองต่อภาวะวิกฤตเพื่อให้การสนับสนุนตุรกีและซีเรียได้เร็วขึ้น ส่วนสหรัฐอเมริกาได้ส่งหน่วยค้นหาและทีมกู้ภัย 2 หน่วยไปยังตุรกี ขณะเดียวกัน กองกำลังป้องกันพลเรือนและทีมแพทย์ของปาเลสไตน์ก็เตรียมเดินทางไปยังตุรกีและซีเรียเพื่อช่วยปฏิบัติการกู้ภัย

 

  • ด้านอิรักและอิหร่านได้ส่งเครื่องบินบรรทุกอุปกรณ์บรรเทาทุกข์ไปมอบให้กับผู้ประสบภัยแผ่นดินไหวแล้ว ขณะที่อินเดียและญี่ปุ่นได้ส่งทีมบรรเทาทุกข์จากภัยพิบัติมาตั้งแต่เมื่อคืนวานนี้

 

  • ผู้นำนิวซีแลนด์และออสเตรเลียประกาศเช้านี้ว่าจะมอบความช่วยเหลือมูลค่ารวม 11.5 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (แบ่งเป็นออสเตรเลีย 10 ล้านดอลลาร์ และนิวซีแลนด์ 1.5 ล้านดอลลาร์) เพื่อช่วยเหลือเหยื่อของทั้งสองประเทศ

 

  • ด้านรัสเซียได้ส่งกองทัพ 10 หน่วยที่มีทหารรวมกันมากกว่า 300 นาย เข้าช่วยเคลียร์ซากปรักหักพัง และช่วยในปฏิบัติการค้นหาและกู้ภัยในซีเรีย โดยรัสเซียเป็นมหาอำนาจต่างชาติที่แข็งแกร่งที่สุดที่ปฏิบัติการในซีเรีย และประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ก็เป็นพันธมิตรกับประธานาธิบดีบาชาร์ อัล-อัสซาด ของซีเรียมาอย่างยาวนาน

 

สำหรับในส่วนของไทยนั้น กระทรวงการต่างประเทศระบุว่า เบื้องต้นยังไม่พบคนไทยได้รับผลกระทบจากแผ่นดินไหวในตุรกี หากผู้ใดได้รับผลกระทบสามารถติดต่อสถานทูต ณ กรุงอังการา เบอร์โทรศัพท์ +90 53 3641 5698 ตลอด 24 ชั่วโมง ส่วนคนไทยในตุรกีแนะนำให้ติดตามข่าวสารผ่านทาง Facebook ของสถานเอกอัครราชทูตฯ รวมถึงหน่วยงานท้องถิ่นอย่างใกล้ชิด ซึ่งทางสถานเอกอัครราชทูตฯ เตรียมพร้อมที่จะประสานความช่วยเหลือต่อไป

 

อ้างอิง:

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

X
Close Advertising