อนุวัติร์ เหลืองทวีกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารลูกค้าบุคคล ทีเอ็มบีธนชาต หรือ ทีทีบี (ttb) เปิดเผยว่า ภายหลังการควบรวมกิจการระหว่างทีเอ็มบีและธนชาต ภายใต้ชื่อ ทีเอ็มบีธนชาต ธนาคารได้มีฐานลูกค้ารายย่อยรวมประมาณ 10 ล้านราย และมีจำนวนสินทรัพย์ภายใต้การบริหาร (AUM) อยู่ที่ 1.3 ล้านล้านบาท ในจำนวนนี้เป็นลูกค้ากลุ่มมั่งคั่ง 80,000 ราย หรือคิดเป็น 1% ของลูกค้ารายย่อยทั้งหมด โดย AUM ของลูกค้ากลุ่มนี้มีสูงถึง 7 แสนล้านบาทหรือคิดเป็น 55% ของ AUM ในภาพรวม ทำให้ธนาคารพยายามพัฒนาผลิตภัณฑ์เพื่อรักษาฐานลูกค้ากลุ่มนี้เอาไว้
ทั้งนี้ล่าสุดธนาคารได้เปิดตัวบัตรเครดิต ‘ทีทีบี รีเซิร์ฟ’ (ttb reserve) ที่มีจุดเด่นเรื่องคะแนนสะสมที่ได้เร็วและการนำคะแนนสะสมที่ได้รับไปต่อยอด ซึ่งตอบโจทย์ทั้งด้านการเงิน การลงทุน และไลฟ์สไตล์ เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้ากลุ่มนี้ ซึ่งปัจจุบันมีสัดส่วนการถือบัตรเครดิตของธนาคารอยู่ที่ 40%
สำหรับบัตรเครดิต ttb reserve มี 2 ประเภท ได้แก่ บัตรเครดิต ttb reserve Signature สำหรับลูกค้าที่มียอดเงินฝาก-เงินลงทุน-ประกันชีวิตรวม 5 ล้านบาทขึ้นไป และบัตรเครดิต ttb reserve Infinite สำหรับลูกค้าที่มียอดเงินฝาก-เงินลงทุน-ประกันชีวิตรวม 30 ล้านบาทขึ้นไป หรือโดยรวมแล้วลูกค้ากลุ่มมั่งคั่งจะมีรายได้รวมประมาณ 300,000 บาทต่อเดือน
“เบื้องต้นเราจะเน้นกลุ่มลูกค้ามั่งคั่งที่มีอยู่ในมืออยู่แล้ว 8 หมื่นรายก่อน โดยเชื่อว่าเมื่อลูกค้าประทับใจจะมีการบอกต่อทำให้สามารถขยายฐานลูกค้าใหม่ได้ต่อไป โดยเรามีเป้าหมายที่จะสร้างฐานลูกค้าบัตรเครดิต ttb reserve จำนวน 30,000 รายในปี 2564” อนุวัติร์กล่าว
นันทพร ตั้งเจริญศิริ หัวหน้าบริหารการตลาดลูกค้าบุคคลและประสบการณ์ลูกค้า ทีเอ็มบีธนชาต กล่าวว่า ความโดดเด่นของบัตรเครดิต ttb reserve คือ ฟีเจอร์ที่ถูกออกแบบมาเพื่อเน้นการต่อยอดความมั่งคั่งภายใต้แนวคิด ‘Earn Fast-Burn Smart’ ซึ่งรับคะแนนได้เร็วและแลกคะแนนได้อย่างคุ้มค่า เช่น รับคะแนนพิเศษรายปีสูงสุด 180,000 คะแนนโดยไม่ต้องมีการใช้จ่ายผ่านบัตร และสะสมคะแนนเพิ่มจากทุกการใช้จ่าย 10 บาท รับ 1 คะแนนทุกหมวด
นอกจากนี้การใช้จ่ายในหมวดโรงพยาบาลและช็อปออนไลน์ ลูกค้าจะได้รับคะแนน 2 เท่า หรือเทียบเท่า 5 บาทเท่ากับ 1 คะแนน และเมื่อใช้จ่ายหมวดประกันชีวิตที่ร่วมรายการ จะได้รับคะแนนสูงสุด 10 เท่า หรือเทียบเท่า 1 บาทเท่ากับ 1 คะแนน ขณะเดียวกัน ลูกค้ายังสามารถแลกรับเครดิตเงินคืนเป็นมูลค่าหน่วยลงทุนได้ถึง 1,200 บาท สำหรับการซื้อกองทุนทุกๆ 100,000 บาท
ณัฐวรรณ อภิรัตนพิมลชัย หัวหน้าเจ้าหน้าที่บริหาร บริหารกลุ่มลูกค้าบุคคล ทีเอ็มบีธนชาต กล่าวว่า จากการศึกษาและทำความเข้าใจลูกค้าพบว่า ลูกค้ากลุ่มมั่งคั่งมีความต้องการโซลูชันทางการเงินที่จะมาช่วยตอบโจทย์ 2 เรื่องใหญ่ๆ โดยขึ้นอยู่กับช่วงชีวิตเป็นสำคัญ คือ
1. กลุ่มผู้บริหารที่ประสบความสำเร็จ ที่ต้องการสะสมความมั่งคั่ง ให้เงินทำงานอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด และมีคุณภาพชีวิตที่ดีอย่างต่อเนื่องไปถึงอนาคตจนถึงหลังเกษียณ
2. กลุ่มวัยเกษียณ ที่ต้องการรักษาความมั่งคั่งและส่งต่อความสำเร็จ เพื่อรักษาคุณภาพชีวิตในปัจจุบันให้สามารถใช้ชีวิตตามไลฟ์สไตล์ที่ต้องการอย่างไร้กังวล และส่งต่ออย่างยั่งยืนจากรุ่นสู่รุ่น
“กลุ่มผู้บริหารที่ประสบความสำเร็จแล้วจะมองหาผลิตภัณฑ์ที่ให้ผลตอบแทนสูง รับความเสี่ยงได้มากกว่า เช่น ตราสารทุนและกองทุนรวมที่เข้ากับสถานการณ์หรือเทรนด์ปัจจุบัน ส่วนกลุ่มวัยเกษียณจะเน้นรักษาเงินต้นและมองหาผลิตภัณฑ์ประกันประเภทต่างๆ ซึ่งในอนาคตธนาคารจะทยอยออกผลิตภัณฑ์เพื่อตอบโจทย์ลูกค้ากลุ่มนี้ต่อไป” ณัฐวรรณกล่าว
พิสูจน์อักษร: ชนเนตร ลอยครุฑ
