×

ttb เปิดบริการบัญชีเงินฝากหลายสกุล ช่วยธุรกิจนำเข้า-ส่งออกบริหารความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยน ตั้งเป้าขยายฐานลูกค้า 800-1,000 บัญชีในปีนี้

09.02.2022
  • LOADING...
ttb

ศรัณย์ ภู่พัฒน์ หัวหน้าเจ้าหน้าที่บริหารธุรกิจตลาดเงินและบริการธุรกรรมทางการเงิน ทีเอ็มบีธนชาต หรือ ทีทีบี (ttb) เปิดเผยว่า ปัจจุบันธุรกิจนำเข้าและส่งออกมีความสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจประเทศไทยเป็นอย่างมาก เห็นได้จากตัวเลขสัดส่วนภาคธุรกิจนำเข้าและส่งออกต่อผลิตภัณฑ์มวลรวมของประเทศ (GDP) ที่มีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นเรื่อย ๆ 

 

โดยในปี 2564 ที่ผ่านมาเติบโตได้ถึง 127% ท่ามกลางสถานการณ์โควิด ส่งผลให้ GDP โดยภาพรวมของประเทศไทย จากติดลบ 6% มาเป็นเติบโตได้ 1% ซึ่งถือได้ว่าธุรกิจนำเข้าและส่งออก เป็นธุรกิจที่ช่วยกอบกู้วิกฤตเศรษฐกิจให้กับประเทศ

 

อย่างไรก็ตาม มองว่าในปีนี้ผู้ประกอบการธุรกิจนำเข้าส่งออกมีความเสี่ยงที่จะต้องเผชิญกับความท้าทายในหลายด้าน ไม่ว่าจะเป็นตลาดอัตราแลกเปลี่ยนที่มีความผันผวนมากขึ้นจากการปรับขึ้นดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ อีกทั้งผู้ประกอบการไทยที่มี Natural Hedge ลดลง (การบริหารรายได้และรายจ่ายเป็นเงินสกุลเดียวกัน) รวมถึงการซื้อ-ขายหรือทำธุรกรรมต่าง ๆ ยังคงเน้นใช้เงินสกุลดอลลาร์สหรัฐเป็นหลัก ซึ่งเป็นสกุลเงินที่มีความผันผวนค่อนข้างสูง เมื่อเทียบกับสกุลเงินท้องถิ่น ทำให้ผู้ประกอบการแบกรับความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยนเพิ่มขึ้น 

 

“เพื่อลดความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนที่ผันผวนของสกุลเงินดอลลาร์ ปัจจุบันผู้ประกอบการไทยเริ่มหันมาซื้อขายแลกเปลี่ยนด้วยสกุลเงินท้องถิ่นมากขึ้น แต่ก็ยังพบความยุ่งยาก เนื่องจากหนึ่งบัญชีเงินฝากเงินตราต่างประเทศ (FCD) รองรับได้หนึ่งสกุลเงิน ดังนั้นหากผู้ประกอบการทำธุรกิจโดยมีคู่ค้าหลายประเทศบนหลายสกุลเงิน จำเป็นต้องเปิดบัญชี FCD หลายบัญชี” ศรัณย์กล่าว

 

ศรัณย์กล่าวอีกว่า เพื่อตอบโจทย์ปัญหาดังกล่าว ทีเอ็มบีธนชาต จึงได้พัฒนาดิจิทัลโซลูชันทางการเงิน ttb multi-currency account หรือบัญชีสำหรับบริหารหลายสกุลเงินที่ดีที่สุด เพื่อช่วยแก้ปัญหาให้กับผู้ประกอบการนำเข้าและส่งออก เพื่อลดความยุ่งยากในการบริหารจัดการหลายสกุลเงิน โดยบัญชี ttb multi-currency account มีฟีเจอร์การใช้งานที่สำคัญ ได้แก่

 

  1. สามารถรองรับการทำธุรกรรมได้มากถึง 11 สกุลเงินหลัก รวมถึงสกุลเงินหยวน

 

  1. เข้าถึงบริการได้จากทุกอุปกรณ์ ประสบการณ์เดียวกันทั้งคอมพิวเตอร์ แท็บเล็ต และสมาร์ทโฟน ได้ทุกที่ทุกเวลา

 

  1. สามารถโอนเงินได้ทั้งในประเทศและต่างประเทศ รวมถึงธุรกรรมด้านสินเชื่อ ติดตามอัตราแลกเปลี่ยนได้ตลอดเวลา พร้อมล็อกเรตอัตราแลกเปลี่ยนทันทีที่ต้องการ ค้นหารายการได้ง่ายขึ้น ด้วย Smart Search แค่พิมพ์คีย์เวิร์ด และติดตามสถานะของรายการได้แบบเรียลไทม์

 

  1. มีการสรุปรายงานของทุกบัญชี ทุกสกุลเงินได้ภายในหน้าเดียว (11 สกุลเงิน) พร้อมดาวน์โหลดเอกสารได้ง่ายๆ สะดวก ไม่ยุ่งยาก สามารถสรุปทุกวงเงินสินเชื่อทั้งในประเทศและต่างประเทศ ครบถ้วนในหน้าจอเดียว รวมทั้งเรียกดูข้อมูลและบัญชีของบริษัทในเครือได้ด้วย Group Company View

 

“บัญชี ttb multi-currency account จะช่วยให้ผู้ประกอบการธุรกิจนำเข้าและส่งออกสามารถบริหารจัดการเรื่องสกุลเงินได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นในหลายด้าน โดยปัจจุบันมีฐานลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการนี้แล้วประมาณ 400-500 บัญชี และคาดว่าในปี 2565 นี้จะสามารถเพิ่มจำนวนบัญชีได้อีก 400-500 บัญชี” ศรัณย์กล่าว

 

ด้าน นริศ สถาผลเดชา หัวหน้าศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจ ทีทีบี (ttb analytics) คาดการณ์มูลค่าส่งออกทั้งปี 2565 จะขยายตัวที่ 4.5% หรือคิดเป็นมูลค่า 2.83 แสนล้านดอลลาร์ พร้อมประเมินอัตราเงินเฟ้อเฉลี่ยทั้งปียังอยู่ในกรอบเป้าหมายที่ระดับ 2.5% โดยมองว่าอัตราดอกเบี้ยนโยบายจะทรงตัวอยู่ในระดับ 0.5% เพื่อเอื้อต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง ภายใต้ความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจในประเด็นเงินเฟ้อและการระบาดของโควิด

 

สำหรับค่าเงินบาทมีทิศทางอ่อนค่าลงจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ เนื่องจากนโยบายการเงินที่ตึงตัวขึ้นของธนาคารกลางสหรัฐอเมริกา คาดการณ์กรอบเป้าหมายเงินบาทในปี 2565 ที่ระดับ 33-34.5 บาทต่อดอลลาร์ โดยค่าเงินบาทมีแนวโน้มผันผวนสูงตลอดปีจากกระแสเงินทุนภายในและภายนอกประเทศ

 

“มีโอกาสที่เงินเฟ้อจะขึ้นไปแตะระดับ 4% ในช่วงปลายไตรมาสแรก เมื่อดูจากราคาน้ำมันในปัจจุบันที่ขึ้นไปถึง 90 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลแล้ว แต่ภาพรวมทั้งปียังมองว่าน่าจะอยู่ที่ 2.5% ส่วนเงินบาทในปีนี้จะมีความผันผวนไปในทิศทางอ่อนค่า โดยมีโอกาสที่เราอาจได้เห็นเงินบาทอ่อนค่าไปถึงระดับ 35 บาทต่อดอลลาร์ได้เช่นกัน” นริศกล่าว

 


 

ช่องทางติดตาม THE STANDARD WEALTH

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising