×

ttb analytics ประเมินแนวโน้มเงินบาทอ่อนค่ายาว คาดปีหน้าแตะ 33.50-34.50 บาท ผลจากดอลลาร์แข็งค่า

09.07.2021
  • LOADING...
ttb analytics

ศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจ ทีทีบี หรือ ttb analytics ประเมินว่า ค่าเงินบาทมีแนวโน้มอ่อนค่าไปจนถึง 33.50-34.50 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ ในช่วงกลางปี 2565 และอาจมีแนวโน้มอ่อนค่าเพิ่มขึ้นต่อเนื่องอีกจนถึงสิ้นปี 2566 ตามทิศทางสกุลเงินดอลลาร์ที่มีแนวโน้มแข็งค่าระยะยาวในช่วง 1-2 ปีข้างหน้า จากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐอเมริกา ซึ่งจะส่งผลให้แนวทางการดำเนินนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) มีแนวโน้มตึงตัวมากขึ้น จากแผนการปรับลดการซื้อสินทรัพย์ (QE Tapering) และปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ยนโยบายในอนาคต

 

ศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจ ทีทีบี ระบุว่า ในปี 2563 ผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคโควิดส่งผลให้เกิดการเพิ่มสภาพคล่องปริมาณมหาศาลเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจสหรัฐฯ ซึ่งทำให้สกุลเงินดอลลาร์ปรับตัวอ่อนค่าลงกว่า 7.6% อย่างไรก็ตาม ทิศทางสกุลเงินดอลลาร์มีแนวโน้มที่จะเปลี่ยนกลับมาแข็งค่าอีกครั้งนับตั้งแต่ช่วงครึ่งปีหลังของปี 2564 อันเป็นผลมาจากนโยบายการคลังและนโยบายการเงินของสหรัฐฯ

 

นโยบายการคลังของสหรัฐฯ ถือเป็นหนึ่งในปัจจัยหลักที่ทำให้การฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐฯ มีแนวโน้มการเติบโตที่แข็งแกร่งกว่าภูมิภาคอื่นทั่วโลก โดยสหรัฐฯ ได้อนุมัติงบประมาณกว่า 1.9 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ คิดเป็นกว่า 27% ของ GDP ซึ่งถือเป็นการใช้งบประมาณทางการคลังที่สูงเป็นอันดับ 2 ของโลก รองจากประเทศญี่ปุ่นเท่านั้น ผลจากการดำเนินนโยบายทางการคลังทำให้เกิดการเติบโตทางเศรษฐกิจที่ชัดเจน ดังเช่นในช่วงไตรมาส 1 ที่ผ่านมา มาตรการแจกจ่ายเม็ดเงินเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ ทำให้ GDP ของสหรัฐฯ เติบโต 6.4% ซึ่งเป็นอัตราการเติบโตสูงสุดในรอบ 8 ปี และเป็นอัตราการเติบโตที่สูงกว่าประเทศพัฒนาแล้วในสหภาพยุโรป

 

ในระยะยาว ภายหลังจากวิกฤตการระบาดของโรคโควิด เศรษฐกิจสหรัฐฯ ยังมีแนวโน้มฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง จากการกระตุ้นเพิ่มเติมของนโยบายการคลังขนาดใหญ่ที่มีการวางแผนดำเนินการในหลายด้าน ทั้งการลงทุนในโครงสร้างและการปรับปรุงสวัสดิการขั้นพื้นฐานให้แก่ประชาชน รวมมูลค่าเบื้องต้นกว่า 1.2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งจะช่วยสนับสนุนให้เศรษฐกิจสหรัฐฯ สามารถเติบโตในระยะยาว และแข็งแกร่งกว่าเมื่อเทียบกับประเทศในภูมิภาคยุโรปที่ขาดแรงสนับสนุนทางด้านนโยบายการคลัง

 

การฟื้นตัวที่ดีของเศรษฐกิจสหรัฐฯ ส่งผลต่อเนื่องไปถึงการเปลี่ยนแปลงนโยบายทางการเงินของ Fed ซึ่งจากการประชุมในเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา Fed ได้เริ่มสื่อสารถึงทิศทางการดำเนินนโยบายที่ตึงตัวมากขึ้นในอนาคต ผ่านการคาดการณ์อัตราดอกเบี้ยนโยบาย (Dot Plot) และพูดคุยถึงแผนลดการเข้าซื้อสินทรัพย์ (QE Tapering) ซึ่งแตกต่างจากแนวทางการสื่อสารของธนาคารกลางยุโรปและญี่ปุ่น ที่ยังไม่มีความคิดลดสภาพคล่องผ่านแผนลดการเข้าซื้อสินทรัพย์

 

ความคาดหวังของตลาดการเงินต่อเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่มีการฟื้นตัวต่อเนื่อง และปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย เป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลให้สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐกลับมีความนิยมเพิ่มมากขึ้นเมื่อเปรียบเทียบกับสกุลเงินต่างประเทศอื่นๆ ส่งผลให้สกุลเงินดอลลาร์มีทิศทางแข็งค่าเพิ่มขึ้น และกดดันค่าเงินบาทไทยให้อ่อนค่าลง ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวเคยเกิดขึ้นในอดีตในช่วงปี 2556 ที่เศรษฐกิจสหรัฐฯ มีการเติบโตที่ดี และตลาดการเงินมีความคาดหวังต่อนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐฯ ที่ตึงตัวเพิ่มมากขึ้น

 

ศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจ ทีทีบี ประเมินว่า ทิศทางการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ในรอบนี้อาจมีรูปแบบใกล้เคียงกับในช่วงปี 2556 ที่ เบน เบอร์นานเก ประธาน Fed ในสมัยนั้น ได้ประกาศแผนลดการเข้าซื้อสินทรัพย์ (QE Tapering) ต่อสภาคองเกรส ซึ่งถือเป็นจุดเริ่มต้นของการอ่อนค่าอย่างรุนแรงต่อเนื่องของค่าเงินบาทและสกุลเงินต่างๆ ทั่วเอเชีย รวมระยะเวลากว่า 2 ปี 

 

ทั้งนี้ เมื่อพิจารณาถึงปัจจัยภายในประเทศในอนาคตพบว่า ความเสี่ยงจากการระบาดของโรคโควิดส่งผลให้เศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มฟื้นตัวช้ากว่าเศรษฐกิจอื่นทั่วโลก โดยเฉพาะภาคการท่องเที่ยว แม้มีโครงการเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ แต่ในภาพรวมต้องใช้เวลาถึง 2 ปี กว่าจำนวนนักท่องเที่ยวจะฟื้นตัวใกล้เคียงระดับเดิมก่อนการระบาด ยิ่งไปกว่านั้น การฉีดวัคซีนภายในประเทศที่ล่าช้าอาจส่งผลต่อความเชื่อมั่นของชาวต่างชาติในด้านการลงทุนและดำเนินธุรกิจ จึงทำให้ประเทศไทยมีแรงสนับสนุนเพียงเล็กน้อยต่อการแข็งค่าของเงินบาทจากกระแสเงินทุนไหลเข้า

 

ศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจ ทีทีบี จึงประเมินว่าการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐจะเป็นปัจจัยหลักที่ส่งผลให้ค่าเงินบาทมีแนวโน้มอ่อนค่าไปจนถึง 33.50-34.50 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ ในช่วงกลางปี 2565 และค่าเงินบาทอาจมีแนวโน้มอ่อนค่าเพิ่มขึ้นต่อเนื่องอีกจนถึงสิ้นปี 2566 ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่มีการคาดการณ์ถึงการปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐฯ ในอนาคต

 

สำหรับเงินบาทในช่วงเช้าวันนี้อ่อนค่าผ่านแนว 32.70 บาทต่อดอลลาร์ ไปที่ระดับ 32.73 บาทต่อดอลลาร์ ซึ่งเป็นระดับที่อ่อนค่าที่สุดในรอบเกือบ 15 เดือน นับจาก 16เมษายน 2563 ก่อนจะกลับมาเคลื่อนไหวที่ระดับประมาณ 32.69-32.70 บาทต่อดอลลาร์ เทียบกับระดับปิดตลาดวานนี้ที่ 32.48 บาทต่อดอลลาร์

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising