×

ทำเนียบขาวยืนยัน ทรัมป์ไม่ร่วมรับฟังไต่สวนถอดถอน

โดย THE STANDARD TEAM
02.12.2019
  • LOADING...

แพต ซิโพลโลนี ที่ปรึกษาทำเนียบขาว ส่งจดหมายความยาว 5 หน้า ถึง เจอร์โรลด์ แนดเลอร์ ประธานคณะกรรมาธิการฝ่ายตุลาการของสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ วานนี้ (1 ธันวาคม) ระบุว่า ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ และทนายความของเขา จะไม่เข้าร่วมรับฟังการไต่สวนถอดถอนในสภาผู้แทนราษฎร วันพุธนี้ (4 ธันวาคม) ตามที่ได้รับเชิญ โดยระบุเหตุผลว่า ทรัมป์ไม่สามารถเข้าร่วมรับฟังการไต่สวนที่ละเมิดกระบวนการสิทธิพื้นฐานและหลักการพื้นฐานที่เป็นธรรม และชี้ว่า คณะกรรมาธิการฝ่ายตุลาการของสภาผู้แทนราษฎรตั้งใจที่จะกำหนดวันไต่สวนถอดถอนในวันพุธ (4 ธันวาคม) เพราะรู้อยู่แล้วว่า ประธานาธิบดีทรัมป์ไม่สามารถเข้าร่วมรับฟังการไต่สวนได้ เนื่องจากติดภารกิจร่วมการประชุมผู้นำ NATO ที่กรุงลอนดอน ระหว่างวันที่ 3 และ 4 ธันวาคม 

 

“จดหมายของคุณ ขอให้ประธานาธิบดีทรัมป์แจ้งต่อคณะกรรมาธิการฝ่ายตุลาการของสภาผู้แทนราษฎรภายในวันที่ 1 ธันวาคม ว่า ทรัมป์จะเข้าร่วมรับฟังการไต่สวนตามกำหนดการในวันที่ 4 ธันวาคมหรือไม่ กำหนดการไต่สวนของคุณครั้งนี้ไม่ต้องสงสัยว่าเป็นความตั้งใจที่จะจัดขึ้นในช่วงเวลาที่คุณรู้อยู่แล้วว่า ประธานาธิบดีทรัมป์จะออกนอกประเทศ เพื่อร่วมการประชุมผู้นำ NATO ที่กรุงลอนดอน” เนื้อหาจดหมายระบุ

 

ซิโพลโลนียังวิจารณ์จดหมายเชิญที่ส่งถึงทรัมป์ว่า ให้ข้อมูลเกี่ยวกับการไต่สวนที่น้อยนิด และไม่ให้ข้อมูลใดๆ เกี่ยวกับพยานที่ร่วมไต่สวน ซึ่งเขาโต้แย้งคำกล่าวอ้างของแนดเลอร์ที่มองว่า กระบวนการไต่สวนที่เกิดขึ้น เป็นการไต่สวนถอดถอนครั้งสำคัญในหน้าประวัติศาสตร์ แต่ทำเนียบขาวเห็นว่า เป็นความตั้งใจที่จะจัดการไต่สวนถอดถอนอย่างคลุมเครือ และอ้างถึงการไต่สวนถอดถอนประธานาธิบดี บิล คลินตัน ในปี 1998 ว่ามีความยุติธรรมมากกว่า

 

นอกจากนี้ซิโพลโลนียังระบุถึงรายงานจากสื่อว่า พยานที่ร่วมในการไต่สวนนั้นเป็นนักวิชาการทั้งหมด รวมถึงไม่มีพยานข้อเท็จจริงที่สามารถให้ปากคำเรื่องราวเท็จจริงในการไต่สวน อีกทั้งทางคณะกรรมาธิการฯ ยังเชิญพยานร่วมการไต่สวนถึง 3 คน ในขณะที่อนุญาตให้ทางพรรครีพับลิกันเชิญพยานได้เพียง 1 คน พร้อมให้คำแนะนำในกรณีที่ทรัมป์สามารถเข้าร่วมรับฟังการไต่สวนในอนาคตว่า ทางคณะกรรมาธิการควรดำเนินการเพื่อให้แน่ใจว่ากระบวนการสิทธิพื้นฐานนั้นได้รับการคุ้มครองและกระบวนการไต่สวนเป็นไปอย่างยุติธรรมและเที่ยงตรง

 

สำหรับประเด็นการไต่สวนถอดถอนที่จะเกิดขึ้นในวันพุธ (4 ธันวาคม) จะมุ่งเน้นไปที่บทสนทนาทางโทรศัพท์ระหว่างทรัมป์กับประธานาธิบดี โวโลดีเมียร์ เซเลนสกี ของยูเครน ในเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ซึ่งมีข้อมูลว่า ทรัมป์ขอให้ผู้นำยูเครนดำเนินการสืบสวนอดีตรองประธานาธิบดี โจ ไบเดน คู่แข่งผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีของพรรคเดโมแครต ว่าใช้อำนาจช่วยเหลือบุตรชายคือ ฮันเตอร์ ไบเดน ให้รอดพ้นจากการถูกตรวจสอบในคดีทุจริต ระหว่างทำหน้าที่เป็นกรรมการบริหารบริษัทบูริสมา ซึ่งเป็นบริษัทก๊าซของยูเครน และไต่สวนว่า ทรัมป์ได้ใช้การข่มขู่ที่จะระงับการช่วยเหลือทางทหารแก่ยูเครน เพื่อกดดันผู้นำยูเครนให้ยอมช่วยเหลือเรื่องการสืบสวนนายไบเดนหรือไม่ ซึ่งที่ผ่านมา ทรัมป์ยืนยันมาโดยตลอดว่า เขาไม่ได้ทำผิด และมองว่า กระบวนการไต่สวนครั้งนี้เป็นการล่าแม่มด

 

 

พิสูจน์อักษร: ภาวิกา ขันติศรีสกุล

อ้างอิง:

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising