ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวขณะอยู่บนเครื่องบิน Air Force One โดยเผยว่ามีแผนจะประกาศเก็บภาษีศุลกากรอัตราใหม่ที่ 25% สำหรับเหล็กและอะลูมิเนียมที่นำเข้าสหรัฐฯ ทั้งหมด โดยการประกาศจะมีขึ้นในวันนี้ (10 กุมภาพันธ์) ตามเวลาท้องถิ่น
นอกจากนี้ทรัมป์ยังเผยว่ามีแผนจะแถลงข่าวอีกในวันอังคารหรือวันพุธนี้ (11 หรือ 12 กุมภาพันธ์) เพื่อประกาศเก็บภาษีศุลกากรตอบโต้ (Reciprocal Tariffs) โดยอาจเก็บภาษีในอัตราเทียบเท่ากับภาษีศุลกากรที่ประเทศอื่นๆ เก็บจากสินค้าจากสหรัฐฯ แบบดอลลาร์ต่อดอลลาร์
“พูดอย่างง่ายๆ ก็คือ ถ้าพวกเขาเก็บภาษีจากเรา เราก็จะเก็บจากพวกเขา” ทรัมป์กล่าว
ทรัมป์ไม่ได้ให้รายละเอียดว่าการเก็บภาษีศุลกากรตอบโต้นี้จะครอบคลุมประเทศใดบ้าง และจะมีผลบังคับใช้เมื่อใด
ส่วนภาษีนำเข้าเหล็กและอะลูมิเนียมในอัตราใหม่นี้ยังไม่ชัดเจนว่าจะรวมกับภาษีอัตราใหม่ที่เรียกเก็บกับสินค้านำเข้าจากประเทศต่างๆ เช่น จีน หรือไม่
โดยในปี 2018 ช่วงรัฐบาลสมัยแรก ทรัมป์เคยประกาศเก็บภาษีนำเข้าเหล็ก 25% และอะลูมิเนียม 10% แต่ในปีถัดมาก็ได้ยกเลิกการจัดเก็บภาษีดังกล่าวกับเม็กซิโกและแคนาดา
จีนเริ่มตอบโต้ ‘ตาต่อตา ฟันต่อฟัน’
ทั้งนี้ สหรัฐฯ เริ่มต้นบังคับใช้ภาษีศุลกากรอัตราใหม่ที่ 10% สำหรับสินค้านำเข้าจากจีนทั้งหมดตั้งแต่วันที่ 4 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา
ขณะที่ล่าสุดวันนี้รัฐบาลจีนก็เริ่มต้นบังคับใช้มาตรการตอบโต้สหรัฐฯ แบบ ‘ตาต่อตา ฟันต่อฟัน’ ด้วยการเก็บภาษี 15% สำหรับถ่านหินและก๊าซธรรมชาติเหลวที่นำเข้าจากสหรัฐฯ และ 10% สำหรับน้ำมันดิบ เครื่องจักรกลการเกษตร และรถที่มีเครื่องยนต์ขนาดใหญ่ ที่นำเข้าจากสหรัฐฯ
ก่อนหน้านี้เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ทางการจีนยังได้ดำเนินการสอบสวนกรณีการผูกขาดต่อบริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ของสหรัฐฯ อย่าง Google ในขณะที่ PVH Corp. บริษัทสัญชาติสหรัฐฯ เจ้าของแบรนด์ดังอย่าง Calvin Klein และ Tommy Hilfiger ก็ถูกเพิ่มเข้าไปในรายชื่อ ‘นิติบุคคลที่ไม่น่าเชื่อถือ’ ของรัฐบาลปักกิ่งด้วย
ขณะเดียวกัน จีนยังได้กำหนดมาตรการเพื่อควบคุมการส่งออกโลหะหายาก 25 ชนิด ซึ่งบางชนิดเป็นส่วนประกอบสำคัญที่ใช้ในการผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้าและอุปกรณ์ทางการทหารหลายประเภท
ภาพ: Kevin Lamarque / Reuters
อ้างอิง: