×

Tomorrow We Disappear เมื่อประวัติศาสตร์และคุณค่าของผู้คน ถูก ‘ลบทิ้ง’ ด้วยเงินตราและอำนาจ

25.06.2020
  • LOADING...

* บทความนี้มีการเปิดเผยเนื้อหาสำคัญของภาพยนตร์สารคดีเรื่อง Tomorrow We Disappear

 

“ผมอยากบันทึกภาพบ้านตัวเองเอาไว้ ถ้ามีวิดีโอเก็บหลังจากพวกเขารื้อทุกอย่างแล้ว ในอนาคตเราจะได้ดูแล้วพูดได้ว่า นี่ไงที่ที่เราเคยอยู่”

 

การสร้างบางสิ่งบางอย่างขึ้นมาใหม่ บางครั้งก็จำเป็นต้อง ‘ลบ’ สิ่งเก่าที่เคยมีอยู่ออกไปเสียก่อน 

 

แต่ถ้าสิ่งที่กำลังถูก ‘ลบ’ ออกไป คือสิ่งที่อุดมไปด้วยศิลปวัฒนธรรมอันเก่าแก่และวิถีชีวิตที่ถูกสืบทอดต่อกันมาหลายชั่วอายุคน มันสมควรแล้วหรือที่สิ่งเหล่านั้นจะถูกลบทิ้งออกไปจากหน้าประวัติศาสตร์เพื่อสร้างสิ่งใหม่มาแทนที่

 

นี่คือแกนหลักสำคัญของ Tomorrow We Disappear (2014) ภาพยนตร์สารคดีของ จิม โกลด์บลัม และ อดัม เอ็ม เว็บเบอร์ สองผู้กำกับชาวอเมริกันที่อยากสร้างภาพยนตร์เกี่ยวกับชุมชนนักมายากลสักแห่งในโลก 

 

ต่อมาพวกเขาเสิร์ชหาข้อมูลจนเจอนิคมกาฐปุตลิ ชุมชนเก่าแก่ในเมืองนิวเดลี ประเทศอินเดีย ที่เนืองแน่นไปด้วยเหล่านักมายากล นักแสดงหุ่นเชิด นักกายกรรม ฯลฯ ที่อาศัยอยู่ในนิคมแห่งนี้มาตั้งแต่ศตวรรษที่ 70 พวกเขาจึงปักหมุดลงในแผนที่และบินลัดฟ้าไปเพื่อถ่ายทำสารคดี

 

แต่สิ่งที่พวกเขาได้พบ กลับกลายเป็นเรื่องราวของสถานที่แห่งประวัติศาสตร์ที่กำลังจะถูก ‘ลบทิ้ง’ ตามนโยบายของรัฐบาลที่ต้องการยึดพื้นที่นิคมกาฐปุตลิเพื่อสร้างตึกระฟ้าและอาคารพาณิชย์บนที่ดินผืนนี้แทน โดยรัฐบาลให้สัญญาว่าจะสร้างที่พักอาศัยใหม่ที่ ‘ดีกว่า’ ให้กับพวกเขา

 

 

Tomorrow We Disappear ได้เล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นในช่วงปี 2011-2014 ผ่านมุมมองของสามศิลปินผู้เกิดและเติบโตในนิคมกาฐปุตลิ 

 

เริ่มต้นด้วย ปุราน ภาต นักเชิดหุ่นมากฝีมือที่เคยออกเดินทางแสดงหุ่นเชิดมาแล้วกว่า 25 ประเทศ และเคยได้รับรางวัลในฐานะผู้ส่งเสริมการเชิดหุ่นโบราณของราชสถาน

 

เนื้อหาที่ถูกนำเสนอผ่านปุราน คือมุมมองของกลุ่มคนที่ต่อต้านการรื้อถอนพื้นที่ของรัฐบาล ไม่ว่าจะเป็นการทำหนังสือถึงรัฐบาลเพื่อขอยกเลิกนโยบาย เป็นหนึ่งในกลุ่มตัวแทนชุมชนเข้าไปเจรจากับบริษัทอสังหาริมทรัพย์ 

 

ในขณะเดียวกันปุรานก็ทำหน้าที่พาผู้ชมไปสำรวจความงดงามและคุณค่าของศิลปะที่ถูกปลุกปั้นและสืบทอดต่อกันมาจากรุ่นสู่รุ่นภายในนิคมกาฐปุตลิ ด้วยเทคนิคการเชิดหุ่นที่สืบทอดมาจากพ่อของตัวเอง และบอกเล่าความฝันของเขาที่อยากจะสร้างพื้นที่การแสดงขนาดใหญ่ให้กับเหล่าศิลปินได้โชว์การแสดงอย่างอิสระเพื่อเผยแพร่ศิลปะดั้งเดิมให้ผู้คนได้รู้จัก 

 

 

ราห์มัน ชาห์ นักมายากลที่ออกตระเวนแสดงตามข้างถนนพร้อมกับลูกชาย เพื่อหาเงินเลี้ยงครอบครัว 

 

ราห์มันคือตัวแทนของกลุ่มคนที่ไม่ได้กระตือรือร้นในการต่อต้านการรื้อถอนพื้นที่ แต่สารคดีได้นำเสนอให้ผู้ชมได้เห็นถึงความยากลำบากของเหล่าศิลปินในปัจจุบัน ที่ไม่ได้ต่างไปจากอาชีพหาเช้ากินค่ำเท่าใดนัก เหมือนที่ราห์มันมักจะถูกตำรวจไล่อยู่บ่อยครั้ง 

 

นอกจากนี้เรื่องราวของราห์มันยังเป็นภาพสะท้อนที่บ่งบอกถึงคุณค่าของงานศิลปะอันเก่าแก่ ที่เริ่มเสื่อมถอยลงไปตามกาลเวลา กลายเป็นว่าผู้คนไม่ได้มองตัวเขาเป็นศิลปินคนหนึ่ง แต่กลับเป็นเพียงแค่นักแสดงธรรมดาๆ ที่มาจาก ‘สลัม’ เท่านั้น

 

 

มายา ภวา นักกายกรรมสาวมากความสามารถที่ได้รับการฝึกฝนตั้งแต่อายุได้เพียง 8 เดือน 

 

มายาคือตัวแทนของกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่อาศัยอยู่ในนิคมกาฐปุตลิ ที่อยากจะมีคุณภาพชีวิตดีขึ้นกว่าเดิม เธอจึงเป็นหนึ่งในกลุ่มคนที่ต้องการย้ายไปอาศัยอยู่ในพื้นที่ที่รัฐบาลจัดหาให้ 

 

นอกจากนี้มายายังใฝ่ฝันที่จะกลับไปเรียนต่อเพื่อสร้างโอกาสให้กับตัวเองได้เข้าไปทำงานในเมืองใหญ่ และเลือกอาชีพนักกายกรรมเป็นอาชีพรอง 

 

 

แม้นิคมกาฐปุตลิจะดูคับแคบ สกปรก จนถูกเรียกว่าสลัม แต่ Tomorrow We Disappear ก็ได้ฉายภาพของชุมชนแห่งนี้ที่ถูกตกแต่งด้วยอุปกรณ์การแสดง เสียงดนตรี และภาพของเหล่าศิลปินที่กำลังซักซ้อมการแสดงของตัวเอง ทำให้สลัมแห่งนี้กลายเป็นสถานที่ที่เปี่ยมไปด้วยสีสันและรอยยิ้มของผู้คน

 

รวมถึงเรื่องราวชีวิตของปุราน ราห์มัน และมายา ที่ถึงแม้พวกเขาจะมีความคิดเห็นที่แตกต่างกันไป แต่พวกเขาก็ยังคงรักและภาคภูมิใจในงานศิลปะที่ได้รับสืบทอดมา 

 

แต่หลังจากการต่อสู้อันยาวนานกว่า 2 ปีของปุรานและกลุ่มตัวแทนชุมชน ในท้ายที่สุดพวกเขาก็ต้องยอมเซ็นสัญญาเพื่อย้ายไปยังที่พักชั่วคราวอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ 

 

แม้ว่าสถานที่พักชั่วคราวแห่งใหม่นี้จะดูเป็นระเบียบเรียบร้อยและสะอาดกว่านิคมกาฐปุตลิ แต่มันกลับเป็นสถานที่ที่ดูจืดชืดไร้สีสัน เสมือนว่าเรื่องราวเหล่านั้นได้ถูก ‘ลบ’ ออกไปจากหน้าประวัติศาสตร์เป็นที่เรียบร้อย

 

 

เมื่อได้เห็นภาพบรรยากาศที่เหล่าศิลปินต้องเก็บกระเป๋าเพื่อย้ายออกจากบ้านเกิดของตัวเอง เราก็พอจะเข้าใจถึงที่มาของชื่อเรื่องอย่าง Tomorrow We Disappear ผ่านเรื่องราวช่วงสุดท้ายของสามศิลปินที่เราทำความรู้จักและเฝ้าติดตามมาตลอดทั้งเรื่อง

 

แม้ว่าปุรานจะมีความสามารถในการเชิดหุ่นที่ได้รับการยอมรับมากขนาดไหน แต่ทันทีที่เขาต้องย้ายออกไปจากนิคมกาฐปุตลิ เขากำลังจะกลายเป็นชายธรรมดาคนหนึ่งที่ไม่มีใครจดจำว่า ‘เขาคือนักเชิดหุ่นจากนิคมกาฐปุตลิ’

 

ในสมัยก่อนทุกๆ ครั้งที่ราห์มันออกตระเวนทำการแสดงเพื่อหาเงินให้ครอบครัว ที่แม้จะถูกตำรวจไล่กี่ครั้ง เขายังบอกกับผู้คนได้เสมอว่าเขามาจากนิคมกาฐปุตลิอันเลื่องชื่อ แต่หลังจากวันที่เขาต้องย้ายออกไปจากนิคมกาฐปุตลิ เขาจะไม่สามารถกล่าวได้อีกแล้วว่า ‘เขาคือนักมายากลจากนิคมกาฐปุตลิ’

 

และถึงแม้ว่ามายาจะได้ออกไปอาศัยอยู่ในสถานที่ที่สะอาด และได้ลองออกไปทำตามความฝันของตัวเอง แต่หลังจากที่เธอย้ายออกไปแล้ว เธอจะไม่ได้ถูกจดจำในฐานะของ ‘นักกายกรรมจากนิคมกาฐปุตลิ’ อีกต่อไป

 

การทำลายนิคมกาฐปุตลิเพื่อสร้างตึกระฟ้าไม่ได้เป็นเพียงการลบสถานที่ที่ได้ชื่อว่าเป็นแหล่งชุบเลี้ยงและส่งต่อวัฒนธรรมดั้งเดิมลงเท่านั้น แต่มันกำลังลบ ‘ตัวตน’ และ ‘คุณค่า’ ของเหล่าศิลปินที่เติบโตและได้รับการถ่ายทอดวิชาจากคนรุ่นก่อนที่เคยสร้างชื่อเสียงให้กับนิคมกาฐปุตลิลง ก่อนจะถูกแทนที่ด้วยตึกระฟ้าที่กำลังจะสร้างเม็ดเงินให้กับนายทุนและรัฐบาลอย่างมหาศาล

 

สุดท้ายนี้เราขอหยิบยกบทสัมภาษณ์ตอนหนึ่งที่ปุรานได้กล่าวเอาไว้ในฐานะของคนที่เคยถูก ‘ลบทิ้ง’ มาก่อน เพื่อส่งต่อเรื่องราวของพวกเขาและชื่อของนิคมกาฐปุตลิ ไม่ให้ถูกลบหายไปตลอดกาล 

 

“ผมหวังอะไรสำหรับครอบครัวเหรอ

 

“ทำอะไรก็ได้ที่อยากทำ หางานปกติ ทำงานในออฟฟิศ แค่อย่าลืมศิลปะและวัฒนธรรมของตัวเอง อย่าลืมว่าเราเป็นใคร”

 

ทุกคนยังสามารถรับชมสารคดีเรื่อง Tomorrow We Disappear  โดยไม่มีค่าใช้จ่าย ภายในวันนี้ (25 มิถุนายน) เป็นวันสุดท้าย โดยทำตามขั้นตอนดังต่อไปนี้

 

  1. ล็อกอินเข้าบัญชี Vimeo ของคุณ (หากยังไม่มี กรุณาสมัครด้วยอีเมล ไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ)
  2. คลิกชม Tomorrow We Disappear ที่ https://vimeo.com/ondemand/tomorrowdisappear
  3. คลิกปุ่ม Rent
  4. ในหน้าชำระเงิน ไม่ต้องกรอกข้อมูลบัตร * แต่กดตรง ‘Apply Promo Code’ แล้วกรอกรหัส  ‘disappear’
  5. กดปุ่ม Apply (อย่ากดปุ่ม Rent)
  6. กด Continue (หากเว็บแจ้งว่าไม่มีหน้านี้ ให้รีเฟรช) และ Watch Now เข้าชมภาพยนตร์ฟรีได้ทันที!

 

 ภาพประกอบโดย

พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising